พรรคก้าวไกล 29 ก.ค. – “ก้าวไกล” จี้ กทม. ปมจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพงเกินจริง เปิดทฤษฎี 3 ล็อก พบตั้งสเปกสูงให้ตรงกับคุณสมบัติเอกชนรายใหญ่ ด้าน “วิโรจน์” กังวล งบแปร ทำให้เกิดการล็อกสเปก เอื้อผู้ค้า
นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล แถลง กรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ของกรุงเทพมหานคร ที่แพงเกินจริง หลังจากครบกำหนดการตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่ได้ มีความชัดเจน ว่ามีการทุจริตในโครงการหรือไม่ ว่า เครื่องออกกำลังกายแพงเกิดจากทฤษฎี 3 ล็อก ล็อกที่ 1 คือ ล็อกสเปก ยกตัวอย่าง มีการกำหนดคุณสมบัติเครื่องออกกำลังกายใน TOR ให้ตรงกับ คุณสมบัติเครื่องออกกำลังกายของบริษัทยี่ห้อหนึ่ง เช่น กำหนดคีย์เวิร์ด ว่าจะต้องเป็นแบบ High Contrast Display มีโปรแกรมออกกำลังกายประกอบด้วย Quick start Goals Profile และ X -Train และยังมีการกำหนดให้ใช้ได้ทั้งหมด 23 ภาษา ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า ทำไมต้องใช้ภาษาอะไรมากมายขนาดนี้และไปให้ใครใช้
ล็อกที่ 2 คือ ล็อกสืบราคา ในความผิดปกติของโครงการลู่วิ่ง 759,000 บาท จะมีการสืบราคาจาก 3 เจ้าเดิมทุกโครงการ และมักจะกำหนดราคาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ 3 เจ้าเดิมจะให้ราคาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายมักจะไม่มีราคากลาง เนื่องจากกรมบัญชีกลางไม่ได้กำหนดเรื่องนี้ไว้ ทำให้เกิดการทุจริตในการจัดซื้อคือออกกำลังกายหลายครั้ง
ล็อกที่ 3 คือ ล็อกผลงาน โดยมีการกำหนดผลงานขายครุภัณฑ์ประเภทเดียวกัน ซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการให้วงเงินไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซื้อขายกันไว้ให้น้อยกว่าสามสัญญา ระยะเวลานับย้อนหลังไม่เกินสี่ปี ซึ่งเป็นการปรับให้พอดีกับเอกชนบางเจ้า ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในยุคของพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง โดยพบว่า จาก 10 โครงการ มีล็อกสเปกผลงานถึง 9 โครงการ มาถึงในสมัยของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็พบว่ามีการล็อกสเปก 12 โครงการจาก 14 โครงการ
นายศุภณัฐ กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร จะปฏิเสธไม่รับทราบข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมามีความพยายามร้องเรียนจากบริษัทห้างหุ้นส่วน จำกัดแห่งหนึ่ง ให้ทบทวน TOR ใหม่ เพราะมีการบังคับให้บริษัทที่มีผลงานจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป สามารถเสนอราคาได้ ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรม และยังบังคับให้มีผลงานไม่น้อยกว่า 3 งานเข้าเสนอ ซึ่งถือเป็นการกีดกันบริษัทเล็ก แต่กรุงเทพมหานคร กลับไม่ขอชี้แจงเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมองว่าบริษัทห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวไม่ได้อยู่ในผู้ร่วมประมูล
นายศุภณัฐ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนยังสืบพบว่าวิทยาลัยการกีฬา ก็มีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่มีราคาสูง และการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่มีราคาแพงเกิดขึ้นทั่วประเทศ เป็นผลพวงมาจากกรมบัญชีกลางที่ไม่มีการกำหนดราคากลางในเรื่องนี้ จึงขอเรียกร้องกรมบัญชีกลางให้พิจารณาในเรื่องนี้ด้วย
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ตนเข้าใจว่า นายชัชชาติ มีความกระอักกระอ่วนพอสมควร และจากการแถลงข้อมูลของพรรคในวันนี้ พบว่า มีข้อสังเกตและข้อสงสัยอย่างมากในการล็อคสเปค ซึ่งนายศุภณัฐได้ทิ้งร่องรอยไว้ว่า มีทั้งเรื่องของการสืบราคา จากผู้ประกอบการเข้ามาเสนอราคาที่อาจจะเกิดข้อสงสัยว่า ให้เอกชนรายรายหนึ่งเข้ามา เพื่อให้อีกรายหนึ่งชนะการประมูล และอีกรายหนึ่งยอมแพ้ มองว่า เป็นเหมือนการแบ่งงานกัน เพราะไม่เคยเปิดราคาไปยังผู้ประกอบการรายอื่นในวงกว้าง
อีกทั้งมีการล็อกสเปกเกี่ยวกับฟังก์ชันการใช้งาน โดยไม่มีความจำเป็น และต้องมีใบมาตรฐานไอเอสโอ 5-6 ใบรับรองที่เกินจำเป็น แถมยังมีการล็อคการเสนอราคาที่เข้ามาประมูลอีก โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า เหมือนเป็นการเติบโตไปด้วยกันหรือไม่ ประมูลครั้งแรกไม่ได้กำหนดเวลาว่าภายใน 1 ปี พอเริ่มประมูลก็เริ่มล็อคว่า 1 ปี 2 ปี และไปไกลจนถึง 4 ปี เพื่อกันไม่ให้เอกชนรายอื่นเข้ามาร่วมเสนอราคาด้วย
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ค.) เข้าใจว่า นายชัชชาติ คงจะมีการแถลงความคืบหน้าในเรื่องนี้ แต่เท่าที่ตนติดตามในสิ่งที่นายชัชชาติได้พูด ก็เข้าใจถึงความกระอักอระอ่วน และยังไม่มีความชัดเจนอะไรกับข้อมูลที่ระบุว่า 10 บริษัทที่ขอราคาไป ยังไม่ให้ข้อมูลกลับมา จึงอยากแนะนำทราบว่า ให้ข้าราชการสืบราคาจริงจากท้องตลาดหรือราคาซื้อขาย ว่าราคาอยู่ที่เท่าไหร่ และราคาที่ประมูลในครั้งนี้ แพงจริงหรือไม่ เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่หากข้าราชการไม่ให้ความร่วมมือ มองว่า ข้าราชการอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความขาวสะอาดสามารถเข้าไปสืบราคาได้ หวังว่าพรุ่งนี้ นายชัชชาติในฐานะที่เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเฉพาะเจาะจงได้ว่ากระบวนการการทุจริตนั้นมีหรือไม่ และมีใครเกี่ยวข้องบ้าง
นายวิโรจน์ ย้ำว่า เหตุการณ์ในวันนี้ ไม่อยากไปเพ่งเล็งเฉพาะในเรื่องของเครื่องออกกำลังกายและอุปกรณ์ใดๆ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งกับการจัดซื้อจัดจ้างทางครุภัณฑ์หรือการดำเนินการก่อสร้างก็ดี ซึ่งตนอยากให้โฟกัสกับคำว่า “งบแปร” ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี ที่ไม่ดีคือเป็นแหล่งในการทำคอรัปชั่นได้เหมือนกัน
พร้อมอธิบายว่า ความหมายของงบแปร อย่างการพิจารณางบประมาณทางกรุงเทพมหานคร ก็ตั้งคณะกรรมการวิสามัญในการพิจารณา โดยมีคณะกรรมการทั้งสิ้น 36 คน ไม่ได้มีข้อบังคับในการห้ามบุคคลภายนอกที่มีความรู้หรือมีประสบการณ์การตรวจสอบการทุจริต เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการวิสามัญด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ตรวจสอบข้อบังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้พูดคุยกับนายชัชชาติ ซึ่งนายชัชชาติก็ยินดี
อย่างไรก็ตาม กลไกของงบแปร คณะกรรมการเหล่านี้จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีก ซึ่งปกติในปีงบประมาณที่ผ่านมา สามารถให้ สก. แต่ละคน ตั้งอนุขึ้นมาร่วมกันพิจารณางบประมาณ โดยเฉพาะงบในแต่ละเขต 50 เขต และ สก. สามารถเสนอ อนุ ที่เป็นบุคคลภายนอกได้ 3 คน
โดยใน 1 ปี มีงบแปรอยู่ที่ประมาณ 4-5 พันล้านบาท และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่จะนำรายงานจากคณะกรรมการสามัญต่างๆ ของสภากรุงเทพมหานครไปพิจารณา รวมถึงข้อร้องเรียนหรือข้อคิดเห็นจากผู้อำนวยการ 50 เขต มาพิจารณาว่าเงิน 4-5 พันล้านบาทจะนำไปไว้ในโครงการอะไร เพื่อสนองความต้องการของประชาชนในเขต ไม่ว่าจะทำถนนหรือปรับปรุงท่อระบบระบายน้ำ ระบบขยะหรือจะไปซื้อครุภัณฑ์ อะไรที่ตอบโจทย์ที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่
“ฉะนั้นถ้างบแปรเป็นงบที่ดี สก. ก็จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับงบประมาณเลย เพราะถือเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารแต่ สก. จะเข้าไปทำหน้าที่กำกับดูแลโครงการที่ใช้งบโครงการ ว่ามีการดำเนินการเร่งด่วน รวดเร็วและมีความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ แต่งบแปร ถ้ามองในมุมไม่ดี ก็จะเป็นปัญหา อย่างวันที่ 30 กรกฎาคม ที่จะมีการพิจารณาวาระของกรุงเทพมหานคร หากคิดในทางที่ไม่ดี จะมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร กลุ่มนึงรวมตัวกันและเข้าไปกดดันข้าราชการ เพราะผู้อำนวยการเขต ก็จะล็อกเฉพาะผู้รับเหมาของตัวเอง อย่างการซื้อถังดับเพลิง อุปกรณ์กันยุง ซึ่งแต่ละปี อาจจะมีเงินรั่วไหลไปสู่นักการเมืองท้องถิ่น 400-1,000 ล้านบาทต่อปี” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า มองว่า นายชัชชาติ ไม่มี สก. ในสังกัด ก็จะถูกความกดดันนี้อยู่เรื่อยไป ซึ่งเชื่อว่า เครื่องออกกำลังกายที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้ ไม่ใช่ งบประมาณจากผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งแต่แรก แต่เป็นงบแปรของกลุ่ม สก.ที่รวมตัวกัน ซึ่งผู้ว่าฯ ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้
“ยอมรับว่ากังวลกับงบประมาณ กทม. ที่มี สก.บางกลุ่มทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ หรือและฮั้วกับข้าราชการกลุ่มก่อนในการล็อกสเปค เพื่อให้ผู้ค้าในเครือข่ายของตนเองและทอนเงินให้กับ สก.กลุ่มนั้น รวมทั้งอาจจะจัดสรรเงินทอนบางส่วนให้ข้าราชการที่ยอมเป็นลูกสมุนให้ นี่คือปัญหาของทั้งหมด” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกล จะเสนอบุคคลภายนอก 2 คนเข้าเป็นคณะ และเชื่อว่าหากมีการขานชื่อในที่ประชุมสภาจะได้รับการตอบรับที่ดี จากประชาชน พร้อมเปิดเผยว่า เป็นชื่อ ตัวย่อ อ.อ่าง ทั้ง 2 คน.-315-สำนักข่าวไทย