สปป ลาว 27 ก.ค. – ไทยเสนอในเวทีอาเซียนและคู่เจรจา คุยครอบคลุมทุกมิติที่เป็นผลประโยชน์ร่วม พร้อมดันความเชื่อมโยงเศรษฐกิจดิจิทัลในอาเซียนให้โตเป็นอันดับ 4 ของโลก
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 57 และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค. ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมครั้งนี้นับเป็นความสำคัญ และอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ดังนั้น กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจาจึงพูดคุยกันหลากหลาย ซึ่งตนได้นำเสนอประเด็นที่เป็นประโยชน์กับไทย 4 ประเด็น คือ การประชุมของอาเซียนขอให้ครอบคลุมในทุกมิติ และทุกประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของอาเซียน และประเทศคู่เจรจาเพื่อส่งเสริมให้มีความมั่นใจ มีความไว้เนื้อเชื่อใจ และต้องการผลักดันให้เกิดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน
การเชื่อมโยงหรือ connectivity โดยการใช้ Digital connectivity และมุ่งหวังว่าเราจะผลักดัน ด้วยการเชื่อมโยงด้าน Digital economy จะให้อาเซียนกลายเป็นประเทศที่มีความเจริญเติบโตหรือเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งจะรวมไปถึงการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว เพราะไทยเป็นผู้นำเรื่องการท่องเที่ยวมาโดยตลอด และตรงนี้เป็นนโยบายสำคัญที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตนยังได้เสนอวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก รวมทั้งยังเสนอว่าไทยใช้กลไกของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในภูมิภาค ที่สำคัญที่สุดคือ อาชญากรรมข้ามชาติ ที่มีผลกระทบต่อทุกประเทศและทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติของเศรษฐกิจหรือสังคม โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญที่นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้ตนหยิบยกขึ้นมาหารือ เพื่อมีความร่วมมือกับประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา รวมถึงปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือทางออนไลน์ ที่เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยี แต่มีการนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งจะทำลายทั้งเศรษฐกิจและสังคมของโลกได้ และสิ่งที่ตนเสนอเป็นจุดสำคัญที่หลายประเทศเห็นด้วยและความจริงแล้ว ทุกประเทศให้ความสำคัญใกล้ๆ กัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ยังมีลักษณะพิเศษของประเทศคู่เจรจาที่มีลักษณะใกล้เคียงและแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรมได้ อย่างเช่น ไทยกับเกาหลี ที่มีการพัฒนา Soft Power มาอย่างรวดเร็วและใกล้ชิดกัน โดยเห็นได้จากเรื่องของบอยแบนด์ในเกาหลี ซึ่งตรงนี้ทำให้ความร่วมมือในกรอบของอาเซียนกับคู่เจรจาอย่างเกาหลีใต้ มีศักยภาพเพิ่มขึ้นโดยไทยเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญ เพราะนอกจากเรื่องของ soft Power แล้ว ยังก้าวไปสู่ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวด้วย เพราะไทยก็มีบทบาทนำสามารถที่จะแลกเปลี่ยนกันได้.-312-สำนักข่าวไทย