“ทักษิณ” รับห่วงเศรษฐกิจ เร่งสร้างความเชื่อมั่น เพื่อไทยกลับเป็นอันดับหนึ่ง

บ้านจันทร์ส่องหล้า 26 ก.ค.-“ทักษิณ“ รับห่วงเศรษฐกิจ ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น “เสกคาถาเรียกเงิน” กลับมาให้ได้ บอก ชาวบ้านลำบาก เป็นหนี้เยอะ ชี้หากรัฐบาลเร่งปิดงานได้ เชื่อ “เพื่อไทย” กลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งอีกไม่ยาก ไม่ทราบกระแสเพลง “คิดถึงลุงตู่”

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเป็นห่วงบ้านเมือง มีเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ ว่า ห่วงบ้านเมืองห่วงเศรษฐกิจ ซึ่งวันนี้ชาวบ้านลำบาก ตนเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจก็กำลังช่วยกันคิดจะพลิกฟื้นอย่างไรให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ก็กำลังคิดกันอยู่


ส่วนที่สถานการณ์ในประเทศขณะนี้นควรจะทำเรื่องใดก่อนนั้น นายทักษิณกล่าวว่า วันนี้ต้องเรียกความเชื่อ เพราะเราขาดความเชื่อมั่น ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมความเชื่อมั่นและความเชื่อถือความไว้วางใจเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะฉะนั้นต้องรีบกลับคืนให้ได้ หากกลับคืนได้เงินก็จะไหลเข้ามาเอง หากไม่มีความเชื่อมั่นไม่มีความน่าเชื่อถือเงินก็จะหายหมด และวันนี้ชาวบ้านเป็นหนี้เยอะเราจำเป็นต้องเสกคาถาเรียกเงินกลับเข้ามาให้ได้

ส่วนรัฐบาลจำเป็นจะต้องเร่งเครื่องหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ หลังมีเพลง “คิดถึงลุงตู่” ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในโซเชียลขณะนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า เเน่นอน แต่ไม่ทราบกระเเสเพลงดังกล่าว ซึ่งลุงตู่ท่านเป็นองคมนตรี ท่านไม่กลับมาการเมืองเเล้ว ขออย่าไปทำให้ท่านเสีย เพราะท่านไปเป็นองคมนตรีแล้ว


ส่วนที่มีการเปรียบเทียบเรื่องเศรษฐกิจแต่ละยุคนั้นจำเป็นจะต้องเร่งเครื่องให้หนักกว่าเดิมหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่มีอะไร น่าจะทำได้อยู่ ตนมองว่า ตนคงจะพูดเปิดทาง ในแนวทางของเศรษฐกิจด้วยวิสัยทัศน์ที่มองไว้เพื่อจะให้ทุกฝ่ายได้หันมาดูว่าประเทศไทยควรจะไปในทิศทางใด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศและคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กรุ่นใหม่ ที่มองรอบด้าน และมีอะไรเกิดขึ้นในบ้านเรา ยกตัวอย่างเช่น เห็นคนเรียนจบมาไม่มีงานทำก็ท้อถอย เรื่องนี้เราจะต้องหันมาให้กำลังใจพวกเขา และให้พวกเขาเป็นพลัง หากหมดใจก็ไม่เป็นพลังให้กับประเทศ ดังนั้นทุกคนต้องเป็นพลังให้กับประเทศ

ส่วนผลงานของรัฐบาลปัจจุบัน จะทำให้พรรคเพื่อไทย กลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เชื่อว่าหลังจากนี้แล้ว รัฐบาลทำไปเยอะแล้ว แต่ทำไปแล้วยังปิดไม่ได้ ปิดไม่ลงตัว หลังจากนี้ก็ทยอยปิด เมื่อปิดงาน ผลงานก็จะชัดเจนขึ้น การแก้ไขปัญหาก็จะดีขึ้น ก็น่าขึ้นมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งโดยไม่ยากนัก ขอใช้คำว่าไม่ยากนัก และไม่อยากให้กองเชียร์ต้องกังวล.-316.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย