สปป ลาว 24 ก.ค.- รมว.กต.ร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และประเทศคู่เจรจา เล็งดันความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัล คาดหากสำเร็จตามเป้า จะทำเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนโตเท่าตัว และคาดอาเซียนออกแถลงการณ์ร่วมได้อย่างน้อย 4 ฉบับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 57 และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค.
นางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน เปิดเผยว่าการประชุมครั้งนี้นับเป็นการเข้าร่วมประชุมอาเซียนครั้งแรกของรัฐมนตรี ที่ได้มีโอกาสพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ซึ่งจะได้หารือถึงความคืบหน้าในการดำเนินการต่างๆร่วมกันในกรอบของอาเซียน และแลกเปลี่ยนข้อมูลในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับเมียนมา ขณะเดียวกันยังจะได้ พบปะกับประเทศคู่เจรจา11 ประเทศและกรอบการเจรจากว่า 17รายการ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะได้พบปะกับประเทศคู่เจรจาอาทิอังกฤษ สหรัฐ อียู จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เป็นต้นซึ่งจะได้ผลักดันในประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญ ซึ่งไทยเป็นผู้ประสานงานของอาเซียน ในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงจะผลักดันให้ประเทศอาเซียนและคู่เจรจาต่างๆสนับสนุนไทยในวาระความยั่งยืนนี้
นางพันทิพา กล่าวด้วยว่า ไทยยังเป็นประธานการประชุมที่สำคัญ ในการเจรจากรอบความร่วมมือด้านดิจิทัลของอาเซียน ซึ่งเริ่มมีการเจรจาไปแล้วและตั้งเป้าว่าจะเจรจาให้เสร็จภายในสิ้นปีหน้า หากตกลงกันได้ จะเป็นความตกลงความร่วมมือด้านดิจิทัล ระดับภูมิภาคแรกของโลก ซึ่งเคยมีการศึกษาประเมินว่าหากสามารถเจรจาได้เสร็จตามกำหนด จะทำให้เศรษฐกิจดิจิตอลในภูมิภาคโตขึ้นเป็นเท่าตัว
“ตามปกติประเมินกันไว้ว่าในปี 2030 เศรษฐกิจของอาเซียน จะโตประมาณ 1 ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าความตกลงนี้บรรลุความสำเร็จเจรจาได้ จะทำให้มูลค่าของเศรษฐกิจดิจิตอลโตขึ้น เป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่งถือว่า Double เท่าตัวุ และเรื่องนี้สำคัญต่อประเทศภายนอกอาเซียนด้วย เพราะเขาเองก็จะได้ประโยชน์ ถ้าเศรษฐกิจของอาเซียนโตด้านดิจิทัลและสิ่งที่เราต้องการ ความร่วมมือจากเขาอย่างไรคือให้เขามาสนับสนุนให้เรา สามารถพัฒนาด้านนี้ไปด้วย” นางพันทิพา กล่าว
นอกจากนี้ อาเซียนอย่างมุ่งในวาระเรื่องเศรษฐกิจสีเขียว ต้องการให้ประเทศคู่เจรจามาสนับสนุนในด้านนี้ เราตั้งเป้าว่าภายในปี 2045 เราจะเป็น Green ASEAN ซึ่งความรู้ในด้านนี้ ประเทศฝั่งตะวันตก จีน เกาหลีญี่ปุ่นมีค่อนข้างมาก ก็จะคุยว่ามาสนับสนุนอาเซียนได้อย่างไร รวมทั้งยังจะมีการแลกเปลี่ยน ความร่วมมือและความเห็นถึงสถานการณ์ในภูมิภาค และสถานการณ์ในโลกว่าเราจะช่วยสร้างสรรค์ความร่วมมือที่ดีได้อย่างไร
สำหรับผลลัพธ์ของการประชุม ที่ตั้งเป้าความร่วมมือและคาดว่าจะออกเป็นเอกสาร ให้รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรับรองได้อย่างน้อย 4 ฉบับคือ แถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีอาเซียนกับสหราชอาณาจักร เรื่องการเสริมสร้างความเชื่อมโยงเพื่ออนาคตที่มั่งคั่งและยั่งยืน แผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยการ ดำเนินการความร่วมมือยุทธศาสตร์ที่รอบด้านระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย แถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรี ในความร่วมมือด้านมนุษยธรรม ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาทุ่นระเบิด ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศของอาเซียนรวมทั้งชายแดนไทย-กัมพูชาด้วย แถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีอาเซียนกับรัสเซีย เพื่อรำลึกซึ่งจะถึงความร่วมมือที่รัสเซียร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาครบรอบ 20 ปี.-312 -สำนักข่าวไทย