มติ “สว.พันธุ์ใหม่” ส่ง “นันทนา” ลงชิง ปธ.วุฒิ

กทม. 21 ก.ค. – มติ “สว.พันธุ์ใหม่” ส่ง “นันทนา” ลงชิง ปธ.วุฒิ “แล-อังคณา” สู้รอง ปธ.


นายประภาส ปิ่นตบแต่ง สว.สายประชาสังคม เปิดเผยว่า ในการประชุมวุฒิสภาในวันอังคารที่ 23 ก.ค. เพื่อเลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานทั้งสองคน กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ มีความชัดเจนแล้วว่าจะเสนอ นางนันทนา นันทวโรภาส เป็นประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง นายแล ดิลกวิทยรัตน์ และนางอังคณา นีละไพจิตร เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่สอง ถ้าเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมแต่ละคนจะต้องแสดงวิสัยทัศน์ เชื่อว่านางนันทนาจะแสดงวิสัยทัศน์ในเชิงบวกว่าคุณสมบัติของคนที่เป็นประธานวุฒิสภาควรจะเป็นอย่างไร ส่วนจะได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสมาชิกวุฒิสภาจะมีความเห็นอย่างไรหลังจากฟังการแสดงวิสัยทัศน์ของทั้ง 3 คนแล้ว แต่เชื่อว่าคงจะมีการประนีประนอมกันกับกลุ่ม สว. สีน้ำเงิน เพราะฉะนั้นการประชุมในวันที่ 23 ก.ค คงจะราบรื่นไม่มีอะไร และลงมติกันไป

“ผมสนใจตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่สองมากกว่า ว่าสายสีน้ำเงินจะลงมติกันอย่างไร ถ้าไม่ให้ สว.พันธุ์ใหม่ สักตำแหน่ง เชื่อว่าสังคมและสื่อมวลชนก็คงจะช่วยกันตรวจสอบ ว่ามีคนที่มีคุณสมบัติที่ดีแล้วไม่เลือก คนที่ยกมือสนับสนุนก็ต้องรับฟังเสียงสังคม ผมคิดว่าสังคมก็เคลื่อนไปแบบนี้ จะไปพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินครั้งเดียวคงไม่เป็นอย่างนั้น” นายประภาส กล่าว


เมื่อถามว่าการแบ่งกลุ่มแบ่งก๊วนจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของ สว.มีปัญหา โดยเฉพาะการพิจารณากฎหมายสำคัญๆ และการเลือกองค์กรอิสระ นายประภาส กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็คงยาก เพราะต้องใช้เสียง สว. 1 ใน 3 คือ 67 คน ซึ่งบางมาตราอาจจะเห็นด้วย อาจจะไม่ต้องแก้ไขหรือยกร่างใหม่ทั้งฉบับ แต่ตนคิดว่ามีหลายมาตราน่าจะเห็นร่วมกันว่าจะต้องมีการแก้ไข อยู่ที่จุดมุ่งหมายว่าต้องการที่จะไปปฏิรูปใหม่ก็ต้องมีการตั้ง ส.ส.ร เหมือนรัฐธรรมนูญปี 40 ต้องยอมเสียเวลา ถ้าถามว่ายากก็ยากอยู่แล้ว ที่ผ่านมามีตั้ง 13 ร่าง ดังนั้นตนคิดว่าคงจะมีแก้การแก้ไขบางมาตราที่เป็นปัญหาจริงๆ รวมทั้งการเลือก สว.ที่ผ่านมา น่าจะมีการทบทวนใหม่ แต่ไม่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ ต้องให้ทำงานกันไปก่อน อาจจะเป็นช่วงปลายสมัยของ สว.ชุดนี้

เมื่อถามว่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอให้มีสภาฯ เดียว นายประภาส กล่าวว่า พรรคก้าวไกลพูดเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว เสนอได้ แต่แก้ไม่ได้เหมือนเดิม ถ้ามีสภาฯ เดียวก็ต้องไปแก้รัฐธรรมนูญ แต่เสียงพรรคก้าวไกลมีอยู่นิดเดียว สว.ก็ถูกคุมได้แล้วจะไปแก้อย่างไร แต่ก็ยังมีเรื่องดีๆ มานิดหนึ่งทั้ง 2 ระบบ สว.ก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่หลังรัฐรัฐประหาร ผู้คนก็ยังทนกันมาได้ แต่ก็ยังมีการเปรียบเทียบกับ สว.ชุดที่แล้ว ที่มีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ก็เอารัฐมนตรีมาสรรเสริญกัน ครั้งนี้ก็อาจจะมี แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด จะมีการทำงานในเชิงตรวจสอบ ก็จะมี สว.ที่ไม่ใช่สีน้ำเงิน แม้จะไม่มาก ถ้าขยันทำงาน เป็นชิ้นเป็นอัน เหมือน สว.ที่มาจากการเลือกตั้งปี 40 ที่ขยันทำงานเข้มแข็ง อย่าง นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ และนายจอห์น อึ้งภากรณ์ แม้จะมีข้อจำกัด แต่ก็ทำให้เห็นผลงานได้

“เพราะฉะนั้น สว.ชุดนี้ก็ยังย่ำอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้เป็นตามไปตามเจตนารมณ์ของคนที่ร่างรัฐธรรมนูญ ที่อยากให้ระบบการเลือกแบบนี้ได้ผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนกลุ่มอาชีพ ถือว่าประสบความล้มเหลว แต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นคนในสังคมก็ต้องช่วยกันตรวจสอบ รวมถึงสื่อมวลชนจับจ้องอยู่คงทำอะไรไม่ได้มาก และไม่น่าจะถึงกับปิดประตูตีแมว หรืออยู่ในแดนสนธยา”นายประภาส กล่าว


ขณะที่ “สว.นพดล” เผยยังไม่มี สว.คนไหนประกาศลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิฯ นอกเหนือ “นันทนา” ที่ประกาศตัวแล้ว รอลุ้นพรุ่งนี้ชัด ใครชิงตำแหน่งนี้บ้าง ยอมรับสนใจลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิฯ ด้วย แต่ขอเช็กคะแนนเสียงก่อน

นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครประสานมายังตนเองว่าจะมีการเสนอตัวลงชิงประธานวุฒิสภา เห็นตามข่าวรายงานว่ากลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่เท่านั้นที่เสนอนางนันทนา นันทวโรภาส ลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ตนเองมองว่าก็เป็นเรื่องดีและเห็นว่าแต่ละคนที่ถูกเสนอชื่อมีความรู้ความสามาร และจะได้มีการแข่งขันมากขึ้น ทำให้สมาชิกวุฒิสภาได้มีตัวเลือกมากขึ้น

ส่วนตอนนี้มี สว.คนอื่นๆ เช่น นายมงคล สุระสัจจะ เสนอตัวลงชิงประธาน และประสานมายังตนเองหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครไหนเสนอตัวลงชิงประธาน และรองประธานวุฒิสภา และยังไม่มีใครประสานมา แต่ก็เห็นได้จากตามข่าวเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง เพราะตอนนี้ยังไม่มีใครเสนอตัว โดยเฉพาะในกลุ่มสมาชิกซึ่งเห็นจากตามข่าวเท่านั้น

นายนพดล ยังระบุว่า ขณะนี้กำลังดูอยู่ว่าจะลงในตำแหน่งประธานวุฒิสภา หรือรองประธานวุฒิสภาหรือไม่ เนื่องจากถ้ามีสมาชิกเสนอชื่อและมีจำนวนมากพอ ก็พร้อมที่จะลงแต่ก็ต้องขอดูวันนี้และพรุ่งนี้อีกครั้งหนึ่งว่ามีเสียงสนับสนุนจะมีมากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ยอมรับว่าพอมีสมาชิกบางส่วนที่สนับสนุนบ้างแล้ว ซึ่งมีบางคนจะเสนอชื่อตนเอง แต่ทั้งนี้ตนเองก็ต้องดูจำนวนเสียงด้วย แต่ถ้าเสียงสนับสนุนเพียงพอก็ยินดี

“ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกันบ้างกับ สว.บางส่วน ทางไลน์ และทางโทรศัพท์ เพราะช่วงนี้เป็นวันหยุดด้วย จากนั้นบางท่านก็เคยพบปะกันมาก่อน แต่ก็มีหลายท่านที่ยังไม่ได้พบปะกันเลย เนื่องจากหลังจากรับรองมาแล้ว เพิ่งไม่กี่วัน ดังนั้นโอกาสที่จะพบปะพูดคุยกันตัวต่อตัวก็ยังมีไม่มาก” นายนพดล กล่าว

ส่วนพรุ่งนี้จะทราบว่ามีใครลงสมัครจริงประธานและรองประธานวุฒิสภาหรือไม่ นายนพดล เชื่อว่ามีความเป็นไปได้เพราะพรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้ว เพราะการลงตำแหน่งสำคัญคิดว่าก็ต้องใช้เวลาตัดสินใจพอสมควร เพราะต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ และต้องดูเช็คคะแนนเสียงด้วย ซึ่งความเห็นส่วนตัวคิดว่าเป็นเช่นนั้น

ทั้งนี้จะมีคนลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภากี่คนนั้น นายนพดล คาดว่าจะมีประมาณ 2-3 คนขึ้นไป แต่ตัวเองก็ไม่แน่ใจ ส่วน สว.คนอื่นที่ลงชิงประธานวุฒิสภา ทั้งนี้ สว.ส่วนใหญ่มีการคุยกัน แต่ไม่ได้คุยขนาดลึกว่าจะสนับสนุนใครหรือมีใครประกาศตัวชัดว่าจะลงชิงประธานวุฒิสภา. -314 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

วันเกิดอนุทิน

แกนนำรัฐบาลร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.- แกนนำรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น สส.อวยพร หลังเลือกตั้งขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปี พรรคภูมิใจไทยจัดงานวันเกิดครบรอบ 59 ปี ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ, พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงบุคคลในครอบครัว เช่น ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา, เศรณี และนัยน์ภัค ชาญวีรกูล บุตรชายและบุตรสาวของนายอนุทิน, ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์และเป่าเค้ก […]

Nepal President and Interim Prime Minister

เนปาลยุบสภา หลังได้นายกฯ เฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรก

กาฐมาณฑุ 13 ก.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาลออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2569 หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีรามจันทระ เปาเฑลของเนปาลสั่งยุบสภาและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งแต่งตั้งนางสุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เจรจาหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน กับผู้บัญชาการทหารบกและแกนนำผู้ประท้วงกลุ่มเจเนอเรชันซีหรือเจนซี (Gen Z) เพื่อเดินหน้าประเทศที่เกิดการลุกฮือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน มีการเผาอาคารรัฐสภา ที่ทำการรัฐบาล และบ้านพักนักการเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเนปาล โพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนางการ์กีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเฉพาะกาลเนปาล และว่าอินเดียมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อสันติภาพ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองของพี่น้องชาวเนปาล การประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุแล้วลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 8 กันยายน ชนวนเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไปโหมกระพือกระแสความไม่พอใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยในปี 2551 […]

“อนุทิน” เข้าพรรคฯ นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.-“อนุทิน” เข้าพรรคภูมิใจไทย วันเกิด นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย ก่อนแถลงต่อสภาฯ ขณะที่ภาคเอกชน-นักการเมือง-ข้าราชการ ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิด ครบ 59 ปี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 14.15 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ส่งแจกันดอกไม้สีฟ้า-ขาว มาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายยังมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิดและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พลเอกเทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีแจกันดอกไม้ที่ส่งมาอวยพรนายอนุทิน ทั้งส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฯ […]

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]