“หมอเปรม” ชี้ ปธ.สภาสูง ต้องไม่ถูกครอบงำ

รัฐสภา 19 ก.ค.- “หมอเปรม” แฉ สว.เริ่มคึกคักจับกลุ่มก๊วนต่อรองตำแหน่ง วอนอย่าสนใบสั่ง แก้ครหาบล็อกโหวต ชี้ ปธ.สภาสูง ต้องไม่ถูกครอบงำจาก สส. – พรรคการเมือง ขอประชาชนจับตาวันเลือกประธาน


นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สว. กล่าว ความเคลื่อนไหว การเลือก ประธานวุฒิสภาในวันที่ 23 กรกฎาคม ว่าขณะนี้เริ่มมีการประชุมและรวมกลุ่มกันค่อนข้างมากขึ้น และคึกคักมากขึ้นโดยตนก็ได้รับเชิญไปร่วมด้วยเช่นกัน แต่ตนเห็นว่าสวยุคนี้ไม่ควรรวมกลุ่มกันต่อรองตำแหน่งเหมือนในอดีต เพราะเรามาจากรัฐธรรมนูญที่เปิดโอกาสให้กลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ เข้ามาทำงานก็ควรเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความประสงค์ พี่จะเป็นประธานได้แสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุม และใครแสดงวิสัยทัศน์ได้เหมาะสม และมีคุณประโยชน์ต่อวุฒิสภาก็ลงคะแนนให้ ในวันนั้นเลย ซึ่งการลงคะแนนเป็นไปโดยอิสระอยู่แล้วเพราะเป็นการลงมติ ลับ ไม่มีใครมาสั่งเราได้จึงขอเรียกร้องให้สว ทั้ง 200 คน อย่าไปกังวลเรื่องใบสั่งเพราะใบสั่งที่เราต้องกังวลคือใบสั่งจากประชาชน

“ใบสั่งที่เราต้องกังวล คือใบสั่งจากประชาชน และประชาชนอยากเห็นวุฒิสภาที่โปร่งใส และแก้ข้อครหาที่เราถูกกดดันจากภายนอก เช่น เป็นคนมุ้งนั้น มุ้งนี้ สีนั้น สีนี้ ผมคิดว่าเราต้องช่วยกันแก้ ด้วยการเลือกประธาน และรองประธานวุฒิสภา อย่างโปร่งใส” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว


สำหรับกรณีที่มีกลุ่มสว.จำนวน 33 คน ไปหารือกันที่ โรงแรมย่านรัชดา เกี่ยวกับตำแหน่งประธานและรองประธานวุฒิสภาได้ถูกรับเชิญหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า ได้รับเชิญ แต่ไม่ได้ไป เนื่องจากอยู่จ.ขอนแก่น เมื่อถามย้ำว่ามองอย่างไรที่มีเรื่องตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้องในการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาครั้งนี้ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการเมืองที่ล้าหลัง ไม่ควรมีการต่อรองในตำแหน่งต่างๆอีกแล้ว เพราะที่ประชาชนเลือกมาตำแหน่ง สว.ใหญ่ที่สุดแล้ว การเป็นสว.ที่เพียบพร้อมก็ทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองพอแล้ว ส่วนการจะได้รับตำแหน่งใดๆ ตนติดว่าอยู่ที่ที่ประชุม

นพ. เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การที่เขารวมกลุ่มกัน ก็มีความประสงค์อยากจะช่วยสนับสนุนคนนั้นคนนี้ แต่จริงๆแล้วขอให้รอฟัง วันประชุมวุฒิสภาดีกว่า ซึ่งการประชุมวันดังกล่าว เป็นการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ดังนั้นอยากให้สว.ใช้ดุลยพินิจ โดยที่ไม่ต้องไปกลัวที่มา ที่อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มนั้นกลุ่มนี้หรือไม่ ถ้าเราลงคะแนนเสียงด้วยเหตุผล และด้วยความเป็นเป็นสมาชิกวุฒิสภาก็จะได้รับความนิยมจากประชาชนเอง และขจัดข้อกล่าวหาต่างๆ ว่าเราเข้ามาด้วยวิธีบล็อคโหวต และคิดว่าบล็อกโหวต จากอำเภอ จังหวัด และเมืองทอง จะสลายหายไปแน่นอนถ้าการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาไม่มีบล็อกโหวต แต่ถ้ายังมีบล็อกโหวตอีก ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ เพราะขนาดวุฒิสภาที่เขาบอกว่า ต้องปลอดจากพรรคการเมือง แต่เรายังเอาพรรคการเมืองมาเป็นผู้กำหนดอีก จะไปหวังอะไรได้ แต่ตนก็ยังเชื่อว่าสว.ทุกคนจะคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้

ส่วนจะมีการตั้งกลุ่มสู้หรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีการตั้งกลุ่ม เพราะตนถือว่ามีสว.สีขาว เป็นการประสานงาน ในกลุ่มที่คิดเหมือนกันว่าเรามาเป็น สว.ด้วยความรู้ความสามารถของตัวเราไม่ได้มาจากบล็อกโหวต หรือใบสั่งใดใดใดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นการจะเดินต่อไป เราต้องเดินอย่างโปร่งใสอย่างสีขาว ก็จะเป็นประโยชน์ ที่จะทำตามหน้าที่ต่างๆ ทั้งการกลั่นกรองกฎหมาย ซึ่งมีกฎหมายสำคัญหลายอย่างที่มีผลต่อความเป็นความตายของประชาชนและประเทศ รวมถึงการเห็นชอบองค์กรอิสระ ที่จะมีผลอย่างมากต่อประเทศชาติบ้านเมือง เรามีดุลยพินิจแบบสีขาว จะมีประโยชน์มากกว่าที่จะมีสีอะไรมาครอบงำ และการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้นจึงอยากเห็นวิสัยทัศน์ของคนที่จะมาเป็นประธานวุฒิสภา ที่เข้าใจระบบรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นการเสนอญัตติด่วน เพื่อตรวจสอบรัฐบาล การตั้งกระทู้ถามสด หรือการตั้งกรรมาธิการต่างๆ จะต้องเข้าใจระบบ ว่าจะทำเพื่อสังคมอย่างไร ตลอดจนการอภิปรายโดยไม่ลงมติด้วย


นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่างานในหน้าที่เหล่านี้ ต้องอาศัยทักษะการทำงานสภาฯ เพราะประธานวุฒิสภาจะต้องเป็นรองประธานรัฐสภาในการประชุมร่วมสองสภา จะต้องสามารถควบคุมการประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องไม่ถูกครอบงำจาก สส. และพรรคการเมือง และต้องสามารถยับยั้งในสิ่งที่ สว.ไม่เห็นด้วยกับ สส.ได้ จึงอยากให้คนที่จะเป็นประธานวุฒิสภา ต้องเตรียมการที่จะเข้าร่วมประชุมสองสภาเช่น การประชุมร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ขณะนี้ สว.ควรจะมีหนังสือขาวคาดแดงได้แล้ว เพื่อเตรียมตัวว่างบประมาณที่ผ่านมาจากสส.จะมีข้อติติงส่วนใด เช่น งบเพิ่มเติม จะเป็นงบประชานิยมหรือไม่ เพราะ ไม่ใช่ว่า สส. คิดอย่างไร แล้ว สว. ต้องเห็นตามเสมอไป

“ผมจึงอยากให้ทุกฝ่ายรอคอบการแสดงวิสัยทัศน์ของคนที่เป็นประธานและรองประธานฯ ก่อน อย่าให้มีบล็อกโหวตมากำกับอีกเลย เพราะจะไม่มีประโยชน์กับการทำงานอีก 5ปีต่อไปและเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของผู้ที่ตำแหน่งตำแหน่งประธานและรองประธานฯ ยังอยู่อีก 5 ปี อย่าคิดเพียงแค่การที่มีคนและนำหรือมีมติอะไรต่างๆมาทำให้เราต้องตัดสินใจเบี่ยงแบนผลประโยขน์ของประชาชน” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า รายชื่อที่ออกมาว่าจะเป็นประะานและรองประธานวุฒิสภารับได้หรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่าตนรับได้ทุกคน แต่ขอให้ที่ประชุมมีมติออกมาเห็นชอบด้วยกัน อย่าลงมติก่อนล่วงหน้า ขอให้ฟังวิสัยทัศน์ก่อนโหวต อย่างไรก็ตามส่วนตัวก็มีผู้ที่อยากเป็นมาขอคะแนน ด้วยการกินข้าว กินกาแฟ ขอความเห็นส่วนตัว แต่จะเอาความสนิทส่วนตัวหรือผลประโยชน์ส่วนตัวมาแลก ตนไม่เอา ส่วนหากมีการเสนอชื่อนพ.เปรมศักดิ์ เป็นประธานหรือรองประธานวุฒิสภาจะรับหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ ย้อนถามว่าจะมีถึงขนาดนั้นเลยหรือ และตนไม่ได้อยู่กลุ่มไหน จะมีใครมาเสนอชื่อตน ถ้าหากมีคงเซอร์ไพรส์มาก .-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ถก สมช.-ครม.นัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิง

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ด้าน “บิ๊กเล็ก” ตั้งเกณฑ์วัดความจริงใจกัมพูชา 3 ระดับ บอกผ่าน GBC ระดับเลขาฯ แล้ว เบื้องต้นบรรลุข้อลงหยุดยิง ตามข้อเสนอ 8 ข้อ ขอรอดูปฏิบัติจริง ย้ำ MOU43 ยังมีประโยชน์เป็นข้ออ้างกล่าวหาเขมรได้-ขอสบายใจ ยึดประโยชน์ชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีรัฐพิเศษเพื่อที่จะรับรองข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ภายหลังคณะเลขานุการ GBC ไทย ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหารือในวงเล็กมาก่อนหน้านี้ โดยบรรยากาศการประชุมมีบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอาทิ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะเลขานุการ GBC เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พลเอกณัฐพล เปิดเผยก่อน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) […]

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจสอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย