นายกฯ มอบนโยบาย ปปง. ต้องทำงานแบบล้วงลูก

สำนักงาน ปปง.18 ก.ค.- นายกฯ ลั่น ปปง. มีอำนาจพิเศษสูง ต้องทำงานแบบล้วงลูก เร่ง ยึดทรัพย์ตัดตอนขบวนการค้ายาเสพติด หวั่น โอนเงินหนี กำชับ อย่าทำงานแบบไซโลให้เป็นข้อครหา ชี้ประชาชนจับตา บอก สิ้นไตรมาส 3 วัดผล


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับฟังการดำเนินงานด้านยาเสพติดของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการ ปปง. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม

เมื่อเดินทางถึงบริเวณชั้น 12 นายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายภาพกับคณะผู้บริหาร จากนั้นประธานกรรมการ ปปง. กล่าวต้อนรับ ก่อนที่เลขาธิการ ปปง. รายงานสรุปผลการดำเนินงานด้านยาเสพติดของ สนง.ปปง.ผลการดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีในการปรับปรามยาเสพติด โดยการดำเนินการเที่ยวกับทรัพย์สินในมูลฐานยาเสพติด รอบปี 2566 – 2567 ผลการดำเนินการยึด-อายัดทรัพย์สิน ปี 2566 – 2567 สำนักงาน ปปง. ยึด อายัด ทรัพย์สินรวมกว่า 523,474,645 บาท สำหรับผลการดำเนินการในรายคดีที่สำคัญในความผิดมูลฐานยาเสพติด ประกอบด้วย กลุ่มเครือช่ายอาเสพติด นายทุน มิน หลัด กับพวก 48 ล้านบาท นายอานนท์ อ่อนสาคร กับพวก 35 ล้านบาท นายณัฏธพงศ์ งามเมธาวงศ์ กับพวก 7 ล้านบาท นายเจริญ รัตนวรรณ กับพวก 16 ล้านบาท นายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าวกรณ์ ชายานันท์กับพวก(เพิ่มเติม) จำนวน 37 ล้านบาท นายฮุ้ยหวาง หวัง จำนวน 53 ล้านบาท นายชาญชัย คลองหลู่กับพวก จำนวน 100 ล้านบาท เป็นต้น


โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่เราทราบกันดีปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมากมาย รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ซัพพลาย ดีมานด์ไซด์ การฟื้นฟูแก้ไขเยียวยา แต่ที่เรามาวันนี้ เรามาโฟกัสเรื่องของผู้กระทำความผิดก่อน แยกผู้ป่วยออกมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบันฝ่ายที่ดำเนินการจับสามารถจับได้เยอะ 4-5 เท่าแต่ราคายาบ้าไม่เพิ่มขึ้น มีการนำเข้ามาเยอะมากและต้นทุนการผลิตต่ำ ถ้าเราจับหรือยึดทรัพย์ได้ก็ต้องรีบดำเนินการ ให้เร็วที่สุด ไม่ใช่บางคดียึดทรัพย์บางคดีไม่ยึดทรัพย์ และต้องพิสูจน์ทรัพย์ว่าได้มาอย่างไรและจะมีการฟอกเงินหรือไม่ อยากดูขั้นตอนต่างๆด้วย เคสเล็กๆเข้ามาเยอะไม่ใช่ ว่าไม่ให้ทำแต่ให้เรียงลำดับความสำคัญ กรณีเคสใหญ่มีวงเงินมากอย่ามัวแต่ช้า ต้องเร่งปฏิบัติในการยึดทรัพย์เพราะทุกวันนี้ธุรกรรมทางการเงินเรื่องการโยกย้ายสะดวกสบายผ่านวิธีการต่างๆฉะนั้นอย่ามัวแต่ช้า เรามีกฎหมายอยู่แล้วมีอำนาจอยู่แล้ว ต้องใช้อำนาจยึดมาก่อน และประชาชนก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ต้องสร้างขวัญและกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ หน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจพิเศษเยอะมีอำนาจสูง ดังนั้น เรื่องที่ต้องมีการยึดทรัพย์ เพราะต้องการตัดต้นตอการผลิตทั้งหมดออกไป ซึ่งต้องการให้เรื่องนี้เป็นไปอย่างคืบหน้า เรื่องของการดำเนินการยึดทรัพย์ว่า อยากให้กระทำโดยเร็ว อย่าให้เป็นที่เป็นข้อครหานินทาของทุกคนได้ และอยากให้เข้มงวดมากขึ้น ส่วนเรื่องของการทำงานเชิงรุกถือเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงการให้องค์ความรู้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและการทำงานเชิงรุก ไม่ใช่เพียงแค่การประชาสัมพันธ์เราต้องล้วงลูกจริงๆ ลงไปทำงานจริงๆ และยึดทรัพย์ให้ได้โดยเร็ว ไม่ใช่เช่นนั้นทรัพย์ก็จะถูกแปลไปได้โดยง่ายดาย ที่จริงแล้วตนก็ไม่ได้อยากมาที่ ปปง. สักเท่าไหร่ ท่านมีองคาพยพพร้อมอยู่แล้ว ท่านประธานเองก็ดูแลอยู่แล้ว แต่อยากมาส่งข้อความว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ สังคมกำลังจับตาดูอยู่ในเรื่องของยาเสพติด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกันทั้งหมด รวมถึงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ตนลงพื้นที่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ประกาศแผนจังหวัดสีขาว หากยังมีกระแสเงินหล่อเลี้ยงอยู่ก็ไม่จบ ต้องต่อจิ๊กซอว์ให้ครบทุกภาคส่วน และถือเป็นวาระแห่งชาติ และรัฐบาลได้ประกาศไปแล้วว่าต้องเป็นจังหวัดสีขาวและต้องทำได้ภายในสิ้นไตรมาส3 ต้องทำให้ได้ เพราะเรื่องของยาเสพติดเป็นเรื่องที่กัดกร่อนสังคม เป็นสารตั้งต้นของปัญหาต่างๆ ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี และทำควบคู่กันไป ก็เป็นการตัดต้นตอการผลิต และตัดต้นตอของแหล่งเงิน

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ป.ป.ส. ปปง. ดำเนินการเร่งขยายผลปราบปรามยาเสพติด เพื่อให้มีการบังคับใช้และกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด บูรณาการเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อยึดอายัดทรัพย์ของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดกับวงจรของผู้ค้ายาเสพติดในรูปแบบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานร่วมความร่วมมือในการสืบทรัพย์สินของผู้ดำเนินการความผิด เพื่อประโยชน์ของการปราบปรามทำลายโครงสร้างเรื่องยาเสพติด


ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดีอีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือเรื่องของเว็บพนันออนไลน์ด้วย เร่งทำงานเชิงรุกปิดเว็บไซต์ ขยายผลถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและใช้มาตรการทางกฎหมายในการยึดทรัพย์อย่างเข้มงวดตัดวงจรการกระทำผิดและวงจรของเจ้าของเว็บไซต์ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานร่วมกันกับ ปปง. กสทช. ธนาคารแห่งประเทศไทย ดีเอสไอ ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ตัดตอนการโอนเงิน โดยเฉพาะการแก้ไขบัญชีม้า ไปจนถึงการ การยึดทรัพย์เพื่อมาเยียวยาผู้เสียหาย ตลอดจนหาแนวทางการแก้ไขธุรกรรมทางการเงินให้รัดกุมเพื่อไม่ให้ประชาชนถูกหลอกลวง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญขออย่าประมาท ฝ่ายแนวรุกที่ลงพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคต่างๆ ก็มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งป.ป.ง. ไม่ใช่หน่วยงานแนวหน้า แต่ก็ขออย่าประมาท ให้ดูแลความปลอดภัยของตัวเองด้วย พัฒนาตนเองด้วยองค์ความรู้ใหม่ๆ ขนขวายศึกษาเรียนรู้ วิธีการให้เท่าทันมิจฉาชีพ โดยไปขอความร่วมมือจากธนาคาร ที่สนับสนุนให้พนักงานของเราไปเรียนรู้งานให้มากขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมา

นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า สิ้นไตรมาสเราจะมาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะการตัดตอน หากไม่มีเงินทุนก็ทำไม่ได้ และเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศเราก็ให้ความสำคัญ โดยช่วงบ่ายวันนี้จะพบกับเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย และในสัปดาห์หน้าจะพบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ซึ่งพูดคุยกันในประเด็นการปราบปรามยาเสพติดที่ไม่ได้หมายถึงยาบ้าเพียงอย่างเดียว ยังมีเฮโรอีน และถ้าหากหน่วยงานใดต้องการประสานงานเป็นพิเศษก็ขอให้บอก อยากให้ทำงานร่วมกันให้เยอะเยอะ อย่าทำงานเป็นไซโล ให้ทำงานเชิงรุกให้มองปัญหาไปข้างหน้า ขอเป็นกำลังใจให้ .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

นายกฯ เข้าสภา ก่อนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69

รัฐสภา 31 พ.ค. – นายกฯ บอกเจ็บคอ หลังสื่อถามต้องเช็กเสียงก่อนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 หรือไม่ เมื่อเวลา 14.50 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วันสุดท้าย ก่อนที่จะมีการลงมติรับหรือไม่รับในวาระแรก ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะต้องมีการเช็กเสียงก่อนลงมติหรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบ เพียงแต่หันมาแล้วใช้มือชี้ที่คอของตัวเอง ก่อนระบุว่า “เจ็บคอ” และเดินขึ้นห้องประชุมทันที.-316-สำนักข่าวไทย

กองปราบย้าย “สจ.กอล์ฟ-พวก” เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

กทม. 31 พ.ค.- ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “สจ.กอล์ฟ” พร้อมพวกทั้ง 7 คน จากเรือนจำ จ.สงขลา ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว ด้าน ผอ.กกต.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีอาญาเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 10 คน คดีนายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ ที่สั่งลูกน้องไปรุมทำร้ายตำรวจ ตชด. ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นเทศบาลตำบลพะวง อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา และคดีนี้มีการโอนย้ายให้ทางตำรวจกองปราบดำเนินการ และทางตำรวจกองปราบได้ยื่นหนังสือคำร้องโอนย้ายการฝากขังจากศาลจังหวัดสงขลา มาเป็นศาลอาญารัชดา และทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อขอโอนตัวผู้ต้องขังทั้ง 7 ราย จากเรือนจำจังหวัดสงขลา มาคุมขังต่อยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อความสะดวกในการดำเนินการทางคดี ล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.68) ได้มีการส่งตัว สจ.กอล์ฟ พร้อมพวกทั้ง 7 รายจากเรือนจำจ.สงขลาไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเรียบร้อยแล้ว โดยภารกิจนี้ถูกปิดเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย โดยผู้ต้องขังทั้ง 7 รายประกอบด้วย นายสิรดนัย […]

ตำรวจเมากร่าง ถูกให้ออกจากราชการ

เชียงใหม่ 31 พ.ค.-ให้ออกจากราชการ ตำรวจเมากร่าง ทำร้ายร่างกายตำรวจจราจร สภ.สันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีคลิปตำรวจนายหนึ่ง ได้ใช้คำพูดด่าทอหยาบคาย และถึงขั้นเข้าไปทำร้ายร่างกายตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณแยกต้นเปาพัฒนา ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยต้นเหตุเกิดจาการที่ตำรวจที่มีอาการมึนเมา ขับรถไปเฉี่ยวชนรถของผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาดูแลความเรียบร้อย แต่กลับถูกด่าทอ และทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ ที่เมาแล้วกร่าง ถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย 2.ขับรถในขณะเมาสุรา 3.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และ 4.ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และล่าสุด วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการกองบังคับการ สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีคำสั่งที่ 204 / 2568 ให้สิบตำรวจเอก นายดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน […]