นายกฯ มอบอุปกรณ์ป้องกันตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด

ทำเนียบรัฐบาล 18 ก.ค.- นายกรัฐมนตรี มอบอุปกรณ์ป้องกัน – ตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด เตรียมคุยทูตออสเตรเลีย-สหรัฐ หาอุปกรณ์เสริม วิธีตัดตอนขนถ่ายยาเสพติด เล็งใช้วิธีปราบปรามของกองทัพภาค 3 เป็นโมเดลนำร่อง ย้ำ ต้องสร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบอุปกรณ์ป้องกัน และตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการกองทัพบก ที่บริเวณทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ประกอบด้วย รถโฟร์วิล ไนท์วิชั่น โดรน แผงโซลาเซล พร้อมชมการสาธิตการบินโดรน ซึ่งใช้ในภารกิจปราบยาเสพติด

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ สืบเนื่องจากรัฐบาลร่วมกับกองทัพ ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันกวาดล้างยาเสพติดตั้งแต่ตั้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยมีจังหวัดน่าน ร้อยเอ็ด เป็นจังหวัดนำร่อง เพราะปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่กัดกร่อนสังคมมานาน จึงต้องจำกัดให้หมดไป ถือเป็นการตัดต้นตอ เอาซัปพลายเชนออกไป ดังนั้น อุปกรณ์ก็เป็นเรื่องสำคัญ จึงได้เน้นผู้เกี่ยวข้องว่าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ รวมถึงจะต้องพยายามเน้นป้องกันและปราบปราม รวมถึงดูเรื่องเทคโนโลยี จึงสั่งการ เลขาฯ ป.ป.ส. ไปดูประเทศที่มีการขนถ่ายยาเสพติดว่ามีการดำเนินการอย่างไร ไม่ใช่แค่ยาบ้า เฮโรอีนก็เป็นเรื่องสำคัญ บ่ายนี้ตนเองจะคุยทูตออสเตรเลียว่าจะดำเนินการตัดตอนได้อย่างไร ต้องทำงานอย่างบูรณาการ ตรงนี้ถือเป็นจุดเร่มต้นที่ดี โดยจะนำการดำเนินการของกองทัพภาคที่ 3 ไปเป็นโมเดลในภาคอื่นต่อไป หลังจากนี้จะไปสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. คุยเรื่องยึดทรัพย์ให้รวดเร็ว


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรื่องขวัญกำลังใจก็เป็นเรื่องสำคัญ ว่าจะให้รางวัลกันอย่างไร ต้องแบ่งสันปันส่วนให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน โดยไม่มีข้อกังขาว่าจะแบ่งผลประโยชน์กันอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้มาทำงานเพื่อรางวัลตอบแทน แต่ในฐานะผู้บังคับบัญชาต้องดูแลเรื่องนี้ และเรื่องระยะเวลาตอบแทนก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่อาจแบ่งเป็นสองส่วน เมื่อยึดทรัพย์มาแล้วก็ให้ไปส่วนหนึ่ง และตอนที่จับได้ก็ให้อีกส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ยืนยันมีภารกิจอีกเยอะมาก นี่คือส่วนหนึ่งที่ได้เริ่มทำงาน พร้อมขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วน

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ตนเองจะคุยกับทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อหาอุปกรณ์เสริม รวมถึงเรื่องงบประมาณเสริมก็มีความสำคัญ ยืนยัน อาวุธยุทโธปกรณ์นั้นเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่การลำเลียงยาเสพติดมีความซับซ้อนมากขึ้น

ส่วนสถานการณ์เมียนมาที่ทำให้ชนกลุ่มน้อยเพิ่มกำลังผลิตยาเสพติดมากขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องคุยกัน เพราะไม่ใช่แค่เรื่องยาเสพติด แต่เป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย เนื่องจากมีเรื่องความมั่นคงภายใน ที่ไม่สามารถก้าวก่ายได้ แต่ไม่ใช่เรื่องแก้ตัวที่จะไม่ดำเนินการ ก็ต้องพูดคุยกัน ประสานกันผ่านกระทรวงการต่างประเทศ


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำหน้าที่บำบัด ฟื้นฟู ดูแล ก็ต้องทำร่วมกับกองทัพ เช่นที่จังหวัดน่านก็เป็นโมเดลที่ดีมาก มีที่พัก มีการสอนประกอบอาชีพ เพราะไม่อยากให้บำบัดแล้วไม่มีอาชีพไม่เช่นนั้นก็กลับมาเสพยาอีก ก็ขอให้ช่วยกันทุกภาคส่วน เชื่อว่าภารกิจนี้ต้องร่วมมือกันหลายหน่วยงาน พร้อมรู้สึกอุ่นใจเรื่องทีมไทยแลนด์ แต่ไม่อุ่นใจเรื่องปัญหาที่มีมาก ก็ต้องเร่งทำกันไป .-316 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย