รัฐสภา 17 ก.ค.-พรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงมติไม่รับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.งบเพิ่มเติม 67 ใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จี้ถอนร่างออก
ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วยพรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม และพรรคไทยก้าวหน้า แถลงมติ ไม่รับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท โดยนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงว่า ฝ่ายค้านมีมติร่วมกันไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นี้ แม้ว่าจะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยขณะนี้มีปัญหา ต้องไปรับการกระตุ้น แต่ควรจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสม เพราะหลายสถาบันที่น่าเชื่อถือ เช่นธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารโลก ก็ประเมินว่าผลกระทบจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะลงไปในเศรษฐกิจไทยได้ไม่คุ้มเสีย ประโยชน์ทมี่จะกระตุ้นจีดีพีทั้งปีนี้และปีหน้าต่ำกว่าเม็ดเงินที่จะใช้ได้ รัฐบาลจึงต้องออกมาตรการที่เหมาะสมใช้อย่างคุ้มค่า นอกจากนี้ฝ่ายค้านพูดหลายประเด็นเกี่ยวกับการสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย รวมถึงสร้างบรรทัดฐานที่ผิดในการจัดทำงบประมาณ การคลังและการใช้เงินในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายเงินลงทุนหรืองบกลาง เป็นสาเหตุสำคัญที่เป็นปัญหาของร่างฉบับนี้ ขณะเดียวกันฝ่ายค้านเห็นว่า แม้จำเป็นต้องกระตุ้นเศรฐกิจระยะสั้นแต่เม็ดเงินที่ใช้ กว่า 4 แสน5หมื่นล้านบาทต้องใช้อย่างเหมาะสม แต่ปัญหาเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเป็นเรื่องที่มากกว่าการกระตุ้นการบริโภค แต่เป็นโจทย์ของภาคการผลิตที่รัฐจะต้องจัดสรรงบไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถรับหลักการร่างกฎหมายนี้ได้ เพราะการกู้เงิน 1.22 แสนล้านบาท ผิดคำมั่นสัญญาที่นายกรัฐมนตรีให้สัญญาไว้กับประชาชน เป็นการกู้มาแจก กู้เกือบชนเพดาน ทำให้หน้าสาธารณะพุ่งขึ้นเป็นภาระของประชาชน และการของบอยู่ท่ามกลางความไม่ชัดเจน และความกังวลของประชาชนต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยเฉพาะแหล่งที่มาของเงิน 4.5 แสนล้านบาท หลักเกณฑ์และความคุ้มค่าที่ถูกตั้งคำถามมาตลอด ขณะที่หลักการกู้เงินมาแจก แหล่งที่มาของเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตสุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมสนับสนุนโครงการที่ดีต่อประชาชนแต่ไม่เห็นด้วยกับกู้เงินมาแจก และหวังว่ารัฐบาลจะกลับไปทบทวนและให้งบของโครงการนี้ไม่มีการกู้หรือเบียดบังงบส่วนอื่น
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าเห็นด้วยกับมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะเห็นว่าขัด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พร้อมเปรียบเทียบเหมือนรถยนต์ที่ล้อหน้าวิ่งตามล้อหลัง จึงไม่สามารถรับร่างกฎหมายนี้ได้เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบยิ่งใหญ่ต่อร่างงบประมาณปี 2568 และกระทบต่อประชาชน จึงขอให้รัฐบาลถอนกฎหมายเพิ่มเติมงบปี 67 ดังกล่าวออกไปก่อนจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด.-319.-สำนักข่าวไทย