ทำเนียบ 17 ก.ค.- นายกฯ ติดตามการทำงานและสั่งการเดินหน้ากระชับสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีฯ หลังการจัดงานประชุมภาคธุรกิจ Thai-Saudi Investment Forum จับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 100 คู่ พร้อมเปิดสำนักงาน BOI ณ กรุงริยาด เชื่อมั่นกระตุ้น ดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายจากตะวันออกกลางสู่ไทย
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เห็นโอกาสและมุ่งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นในทุกมิติและทุกระดับ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาล ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ร่วมกับหน่วยงานของซาอุดีอาระเบีย ได้ดำเนินนโยบายตามวิสัยทัศน์ Ignite Thailand ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2030 (Saudi Vision 2030) โดยได้ร่วมกันจัดประชุม Thai-Saudi Investment Forum และการจัดตั้งสำนักงานบีโอไอ ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งได้ยกระดับให้เกิดการดึงดูดการลงทุนจากตะวันออกกลางสู่ไทย และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการไทยลงทุนในตะวันออกกลาง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานประชุมภาคธุรกิจ “Thai-Saudi Investment Forum” และการจับคู่ธุรกิจระหว่างวันที่ 13 – 15 กรกฎาคม 2567 ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจไทยและซาอุดีฯ รวมถึงนักธุรกิจจากประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลางกว่า 300 คน จากกว่า 200 บริษัท/หน่วยงาน เกิดการเจรจาธุรกิจจำนวนกว่า 100 คู่ พร้อมกันนี้ ภายในงานมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านความร่วมมือทางธุรกิจรวม 11 ฉบับ ในหลากหลายสาขา อาทิ อุตสาหกรรมการเกษตร อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง การจัด Event และงานเทศกาล เกมและอีสปอร์ต การผลิตน้ำหอม และธุรกิจที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นต้น
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก BOI พบว่าซาอุดีฯ สนใจพิจารณาเลือกไทยเป็นฐานการลงทุน เพื่อเป็นประตูสู่ทวีปเอเชีย และเป็น Hub แห่งใหม่ของซาอุดีฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบีโอไอพร้อมใช้เครื่องมือสิทธิประโยชน์และบริการ สนับสนุนให้เกิดการเข้ามาตั้งฐานการผลิตและสำนักงานภูมิภาค หรือร่วมธุรกิจกับไทย โดย BOI ได้จัดตั้งสำนักงาน ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย นับเป็นสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนในต่างประเทศแห่งที่ 17 และเป็นแห่งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง มีหน้าที่รับผิดชอบภารกิจส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของผู้ประกอบการจากภูมิภาคตะวันออกกลางในไทย พร้อมทั้ง อำนวยความสะดวกและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายโอกาสการลงทุนในตะวันออกกลาง ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นกลไกสำคัญในการต่อยอดความร่วมมือและผลักดันการค้าการลงทุนระหว่างไทยและซาอุดีฯ รวมทั้งประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง อาทิ คูเวต กาตาร์ บาห์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตุรกี ให้มีความคืบหน้าและเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยและซาอุดีฯ อยู่ระหว่างการจัดทำความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน (Bilateral Investment Treaty: BIT) เพื่อสนับสนุนความสัมพันธ์ด้านการลงทุนระหว่างกัน และมีกำหนดจัดการประชุมสภาความร่วมมือซาอุดี-ไทย ครั้งที่ 1 ในเดือนตุลาคม 2567 เพื่อหารือในประเด็นการเพิ่มมิติความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างกัน
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมดำเนินนโยบายกระชับความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีฯ ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นในทุกมิติจากโอกาสของความสัมพันธ์ และการเป็นตลาดที่มีศักยภาพของซาอุดีฯ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างสูงสุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางเศรษฐกิจ เป็นไปตามความต้องการของซาอุดีฯ ซึ่งพร้อมเปิดตลาด โค แพะ ต้นไม้ อาหารฮาลาล ให้แก่สินค้าไทย รวมถึงเปิดให้ไทยเข้าไปลงทุนเปิดโรงพยาบาล ให้เกิดโอกาสมากที่สุด และประชาชนไทยได้ประโยชน์สูงสุด” นายชัย กล่าว. 314.-สำนักข่าวไทย