‘สุทิน’ ยันไม่ล้วงลูก ทอ. ซื้อเครื่องบินรบ

กลาโหม 15 ก.ค.-‘สุทิน’ รมว.กลาโหม ยันไม่ล้วงลูก ทอ. ซื้อเครื่องบินรบ แม้ ทอ. ส่งเรื่องให้รับทราบ มองร่วมกันคิด-ตัดสินใจ ตามสายบังคับบัญชา ‘นายกฯ-รมว.กลาโหม’ หลัง ‘กริพเพน’ คะแนนนำ ‘เอฟ-16’ เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์สหรัฐฯ เพราะขั้วเดียวกับสวีเดน ชี้คนละปัญหากับ ‘เรือดำน้ำ’

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ ภายหลังกองทัพอากาศ ได้สรุปข้อมูล 2 แบบ ได้แก่ F-16 Block 70 บริษัท Lockheed Martin สหรัฐ​อเมริกา และ Gripen E บริษัท SABB สวีเดน ผ่านมายัง รมว.กลาโหม เพื่อนำเรียน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รับทราบ และช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้ รมว.กลาโหม มีกำหนดการเยือนกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะมีการเจรจาเรื่องเครื่องบินขับไล่หรือไม่ ว่า ไปเยือนตามคำเชิญของ นายลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ไม่เกี่ยวกับเครื่องบินรบ และยังมีเวลาในการพิจารณาไม่ต้องรับ เพื่อให้ชัดเจนที่สุด โดยตนได้ให้กองทัพอากาศไปดูว่า เครื่องบินชนิดใดตรงกับการใช้งานมากที่สุด


เมื่อถามว่ากรณีที่กองทัพอากาศมีข้อสรุปให้คะแนน Gripen มากกว่า F-16 นายสุทิน กล่าวว่า แน่นอนว่ามีผล พร้อมอธิบายว่า ไม่ได้มองว่ารุ่นใดดีกว่ากันหรือรุ่นใดสู้รุ่นใดได้ แต่มองว่ารุ่นใดสอดคล้องกับภารกิจที่กองทัพอากาศต้องการมากที่สุด และกองทัพอากาศต้องตอบให้ชัดเจนที่สุด ถึงสถานการณ์ความมั่นคงกับการรบอย่างไร เครื่องบินรุ่นใดสอดคล้องกับภารกิจมากที่สุด

เมื่อถามถึงปัจจัยภายนอกจากต่างประเทศกดดันหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็คำนึงอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยชี้ขาด เพราะเราดำเนินนโยบายด้วยความเป็นกลางมาตลอด ซึ่งการซื้ออาวุธก็ซื้อทั้งสองค่ายมาตลอด จึงไม่ใช่ปัญหามากนัก ถ้าวันนี้ต้องซื้อจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ในวันหน้าเราก็ซื้อจากอีกฝ่ายได้ จึงมีทางออก


ทั้งนี้หาก กองทัพอากาศได้ตัดสินใจจัดซื้อเครื่องบินแบบใด ทางรัฐบาลก็จะเห็นด้วยใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็ไม่หรอก อำนาจเป็นของเขา แต่ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นขึ้นมา เขาก็เคารพเรา รับฟังเรา ทางกองทัพอากาศก็ไม่ได้คิดว่าต้องตัดสินใจเพียงคนเดียว แม้จะเห็นแบบนี้ ก็ยอมรับการตัดสินใจของนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็ถือว่าคิดร่วมกัน

เมื่อถามว่าถ้ารัฐบาลเห็นแย้ง จะถือเป็นการล้วงลูกกองทัพหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ล้วงลูก เพราะเชื่อว่าการเป็นผู้บังคับบัญชาในทางบริหารสามารถทำได้

เมื่อถามว่าหากให้นายกฯ และ รมว.กลาโหม ตัดสินใจแล้ว ไม่เป็นไปตามที่กองทัพอากาศให้คะแนนมา อาจถูกถล่มว่าฝ่ายการเมืองไปเปลี่ยนแบบนั้น นายสุทิน กล่าวว่า อยู่ที่ว่าฝ่ายการเมืองจะอธิบายได้หรือไม่ ถ้าไม่มีเหตุผล แล้วไปคิดตามใจตัวเอง แล้วไปเปลี่ยน ก็อาจจะมีปัญหา


เมื่อถามว่าเพราะอีกตัวเลือกเป็น F-16 ของสหรัฐฯ ทำให้เรื่องไม่สามารถจบได้โดยง่ายใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ เพราะสหรัฐฯ-สวีเดน ก็อยู่ค่ายเดียวกัน ไม่ได้จัดแย้งกัน ไม่ได้คนละขั้ว จึงไม่ซีเรียสมากนัก

ส่วนกองทัพเรือจะน้อยใจหรือไม่ว่าเครื่องบินไปได้เร็ว แต่เรือดำน้ำไม่เสร็จเสียที นายสุทิน กล่าวว่า ไม่หรอก เพราะเขาก็รู้ว่าปัญหาและอุปสรรคไม่เหมือนกัน ที่มาคนละอย่างกัน ติดกระดุมเม็ดแรกก็ต่างกัน ใครกลัดถูก ใครกลัดผิด

เมื่อถามว่าเพราะโครงการเรือดำน้ำไม่ได้เกิดขึ้นในยุครัฐบาลเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า แน่นอนเพราะทุกคนก็รู้อยู่ว่าเกิดในรัฐบาลเก่า แต่เราไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ตนเข้ามาก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องมาแก้ปัญหา ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลเก่าแล้วเราจะทิ้งขว้าง หรือไปทำลายโครงการเขา แต่เราจะต้องแก้ปัญหาและทางออกที่ดีที่สุดก็จะต้องใช้เวลาเล็กน้อย

เมื่อถามว่าในชั้น กมธ.งบประมาณฯ และชั้นอนุ กมธ.งบประมาณฯ โครงการใดที่พรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลสนับสนุนจะผ่านไปได้ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่ให้อิสระฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าวันใดมีปัญหาก็ค่อยพูดคุยกัน ให้เขาพิจารณาไปก่อน จะถูกแขวนหรือไม่ถูกแขวน ก็ยังไม่รู้ และเท่าที่ทราบ ยังไม่มีการต่อรองใดๆ ทาง กมธ. ก็พิจารณาตามเหตุผลของเขา

เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นแฟนคลับ F-16 รู้สึกอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า สมัยก่อนตนชอบบู้และชอบเครื่องบิน แต่ไม่รู้รายละเอียด แต่มาเป็นรัฐมนตรีจึงรู้รายละเอียด

เมื่อถามว่ามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ เพราะการตัดสินใจอยู่ที่รัฐมนตรีกับรัฐบาล นายสุทิน กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจร่วมกัน ให้รอบคอบ เพราะกองทัพก็ศึกษามา เราก็ช่วยให้ความเห็น นายกฯก็ให้ข้อสังเกตุ เป็นเรื่องที่ดีที่สุด และเราก็เคารพการตัดสินใจของกองทัพ เราไม่ได้ทิ้งของเขาทั้งหมด เพราะต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้งาน แต่ก็อาจมีข้อสังเกตเพิ่มเติมให้

เมื่อถามว่า รมว.กลาโหม จะไปนั่งทดสอบเองเครื่องบินทั้ง 2 แบบด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวพร้อมหัวเราะ “ไม่กล้านั่งหรอก ไม่จำเป็น”.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์

วัดราชบพิธฯ 17 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์ เพิ่มความเข้มกฎหมายเก่า ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นส่วนน้อยทำพระพุทธศาสนาเสื่อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2568 แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิต ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงประทานพรให้เรามุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ ท่านก็ต้องการความร่วมมือกันของทุกฝ่าย และประเด็นที่สำคัญคือ การไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ท่านบอกว่า ให้จัดการได้เต็มที่ หากผิดปาราชิกก็ต้องทำไปตามวินัยที่มีอยู่ และขณะนี้มีการพูดคุยกันว่า ฝ่ายพลเรือน พยายามที่จะขออนุญาตออกกฎระเบียบ ซึ่งท่านก็เห็นพ้องต้องกันกับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ว่าอยากให้นำกฎหมายเก่ามาดู และเพิ่มความเข้มงวด หากจะเขียนอะไรลงไปก็ให้เต็มที่ อย่าให้พระพุทธศาสนามีความเสื่อม และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะจุด โซเชียลพูดถึงไกลไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเคร่งครัด และหากมีการแก้กฎหมายแล้วให้หารือที่มหาเถรสมาคม แต่ถือว่าพระองค์ท่านให้เป็นหลักแล้วว่าให้ดำเนินการให้เข้มงวด ส่วนที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาระบุว่า เตรียมเปิดคดีใหม่มีพระในระดับชั้นสมเด็จเข้าไปเกี่ยวข้องแต่ไม่เกี่ยวกับคดีสีกากอล์ฟ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้ฟังจากสื่อ คิดว่าตอนนี้ได้คุยกับพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง […]

พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ”

กทม. 17 ก.ค.-พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส ใน จ.พิจิตร วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ” ด้านตำรวจจ่อลุยตรวจค้นวัด รวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน เวลา 9.30 น. รออีก 1 รูป พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส Video Call บอกรัก สีกากอล์ฟ ในลักษณะว่าเธอเป็นคนแรก และเป็นคนเดียว รักมาก ซึ่งจัดการตรวจสอบพบว่า พระรูปดังกล่าว เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และมีความสัมพันธ์ในลักษณะฟิลแฟนแบบนี้มานานแล้ว และเป็นคนส่งเงินค่าเช่าบ้านให้สีกากอล์ฟ แทบทุกเดือน สำหรับความคืบหน้ากรณี “สีกากอล์ฟ” มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่ กว่า 20 รูป ในวันนี้มีรายงานว่า ตำรวจ ปปป. พร้อมด้วยตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบกลาง จะลุยตรวจค้นวัดรวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน รวมถึงหาพยานหลักฐานเชื่อมโยง อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส ทุจริตเงินวัดไปให้สีกากอล์ฟ โดยการตรวจค้น จะเกิดขึ้นหลังจากการประชุมตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 13.00 น. […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]