กลาโหม 15 ก.ค.-‘สุทิน’ รมว.กลาโหม ยันไม่ล้วงลูก ทอ. ซื้อเครื่องบินรบ แม้ ทอ. ส่งเรื่องให้รับทราบ มองร่วมกันคิด-ตัดสินใจ ตามสายบังคับบัญชา ‘นายกฯ-รมว.กลาโหม’ หลัง ‘กริพเพน’ คะแนนนำ ‘เอฟ-16’ เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์สหรัฐฯ เพราะขั้วเดียวกับสวีเดน ชี้คนละปัญหากับ ‘เรือดำน้ำ’
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ ภายหลังกองทัพอากาศ ได้สรุปข้อมูล 2 แบบ ได้แก่ F-16 Block 70 บริษัท Lockheed Martin สหรัฐอเมริกา และ Gripen E บริษัท SABB สวีเดน ผ่านมายัง รมว.กลาโหม เพื่อนำเรียน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รับทราบ และช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้ รมว.กลาโหม มีกำหนดการเยือนกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะมีการเจรจาเรื่องเครื่องบินขับไล่หรือไม่ ว่า ไปเยือนตามคำเชิญของ นายลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ไม่เกี่ยวกับเครื่องบินรบ และยังมีเวลาในการพิจารณาไม่ต้องรับ เพื่อให้ชัดเจนที่สุด โดยตนได้ให้กองทัพอากาศไปดูว่า เครื่องบินชนิดใดตรงกับการใช้งานมากที่สุด
เมื่อถามว่ากรณีที่กองทัพอากาศมีข้อสรุปให้คะแนน Gripen มากกว่า F-16 นายสุทิน กล่าวว่า แน่นอนว่ามีผล พร้อมอธิบายว่า ไม่ได้มองว่ารุ่นใดดีกว่ากันหรือรุ่นใดสู้รุ่นใดได้ แต่มองว่ารุ่นใดสอดคล้องกับภารกิจที่กองทัพอากาศต้องการมากที่สุด และกองทัพอากาศต้องตอบให้ชัดเจนที่สุด ถึงสถานการณ์ความมั่นคงกับการรบอย่างไร เครื่องบินรุ่นใดสอดคล้องกับภารกิจมากที่สุด
เมื่อถามถึงปัจจัยภายนอกจากต่างประเทศกดดันหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็คำนึงอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยชี้ขาด เพราะเราดำเนินนโยบายด้วยความเป็นกลางมาตลอด ซึ่งการซื้ออาวุธก็ซื้อทั้งสองค่ายมาตลอด จึงไม่ใช่ปัญหามากนัก ถ้าวันนี้ต้องซื้อจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ในวันหน้าเราก็ซื้อจากอีกฝ่ายได้ จึงมีทางออก
ทั้งนี้หาก กองทัพอากาศได้ตัดสินใจจัดซื้อเครื่องบินแบบใด ทางรัฐบาลก็จะเห็นด้วยใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็ไม่หรอก อำนาจเป็นของเขา แต่ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นขึ้นมา เขาก็เคารพเรา รับฟังเรา ทางกองทัพอากาศก็ไม่ได้คิดว่าต้องตัดสินใจเพียงคนเดียว แม้จะเห็นแบบนี้ ก็ยอมรับการตัดสินใจของนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็ถือว่าคิดร่วมกัน
เมื่อถามว่าถ้ารัฐบาลเห็นแย้ง จะถือเป็นการล้วงลูกกองทัพหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ล้วงลูก เพราะเชื่อว่าการเป็นผู้บังคับบัญชาในทางบริหารสามารถทำได้
เมื่อถามว่าหากให้นายกฯ และ รมว.กลาโหม ตัดสินใจแล้ว ไม่เป็นไปตามที่กองทัพอากาศให้คะแนนมา อาจถูกถล่มว่าฝ่ายการเมืองไปเปลี่ยนแบบนั้น นายสุทิน กล่าวว่า อยู่ที่ว่าฝ่ายการเมืองจะอธิบายได้หรือไม่ ถ้าไม่มีเหตุผล แล้วไปคิดตามใจตัวเอง แล้วไปเปลี่ยน ก็อาจจะมีปัญหา
เมื่อถามว่าเพราะอีกตัวเลือกเป็น F-16 ของสหรัฐฯ ทำให้เรื่องไม่สามารถจบได้โดยง่ายใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ เพราะสหรัฐฯ-สวีเดน ก็อยู่ค่ายเดียวกัน ไม่ได้จัดแย้งกัน ไม่ได้คนละขั้ว จึงไม่ซีเรียสมากนัก
ส่วนกองทัพเรือจะน้อยใจหรือไม่ว่าเครื่องบินไปได้เร็ว แต่เรือดำน้ำไม่เสร็จเสียที นายสุทิน กล่าวว่า ไม่หรอก เพราะเขาก็รู้ว่าปัญหาและอุปสรรคไม่เหมือนกัน ที่มาคนละอย่างกัน ติดกระดุมเม็ดแรกก็ต่างกัน ใครกลัดถูก ใครกลัดผิด
เมื่อถามว่าเพราะโครงการเรือดำน้ำไม่ได้เกิดขึ้นในยุครัฐบาลเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า แน่นอนเพราะทุกคนก็รู้อยู่ว่าเกิดในรัฐบาลเก่า แต่เราไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ตนเข้ามาก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องมาแก้ปัญหา ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลเก่าแล้วเราจะทิ้งขว้าง หรือไปทำลายโครงการเขา แต่เราจะต้องแก้ปัญหาและทางออกที่ดีที่สุดก็จะต้องใช้เวลาเล็กน้อย
เมื่อถามว่าในชั้น กมธ.งบประมาณฯ และชั้นอนุ กมธ.งบประมาณฯ โครงการใดที่พรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลสนับสนุนจะผ่านไปได้ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่ให้อิสระฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าวันใดมีปัญหาก็ค่อยพูดคุยกัน ให้เขาพิจารณาไปก่อน จะถูกแขวนหรือไม่ถูกแขวน ก็ยังไม่รู้ และเท่าที่ทราบ ยังไม่มีการต่อรองใดๆ ทาง กมธ. ก็พิจารณาตามเหตุผลของเขา
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นแฟนคลับ F-16 รู้สึกอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า สมัยก่อนตนชอบบู้และชอบเครื่องบิน แต่ไม่รู้รายละเอียด แต่มาเป็นรัฐมนตรีจึงรู้รายละเอียด
เมื่อถามว่ามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ เพราะการตัดสินใจอยู่ที่รัฐมนตรีกับรัฐบาล นายสุทิน กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจร่วมกัน ให้รอบคอบ เพราะกองทัพก็ศึกษามา เราก็ช่วยให้ความเห็น นายกฯก็ให้ข้อสังเกตุ เป็นเรื่องที่ดีที่สุด และเราก็เคารพการตัดสินใจของกองทัพ เราไม่ได้ทิ้งของเขาทั้งหมด เพราะต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้งาน แต่ก็อาจมีข้อสังเกตเพิ่มเติมให้
เมื่อถามว่า รมว.กลาโหม จะไปนั่งทดสอบเองเครื่องบินทั้ง 2 แบบด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวพร้อมหัวเราะ “ไม่กล้านั่งหรอก ไม่จำเป็น”.-313.-สำนักข่าวไทย