เชียงราย 13 ก.ค.- นายกฯ รับฟังปัญหาระบบชลประทาน-ที่ดินทำกิน พื้นที่ อ.เชียงแสน ขณะที่ตัวแทนชาวเชียงแสน ขอให้ช่วยผ่อนปรนคนจีนกว่าแสนคน ข้ามแดนจากฝั่งลาวมาเที่ยวได้ครั้งละ 3 วัน พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงเฝ้าระวังยาเสพติดตามแนวชายแดน บอกหากแรงมาต้องแรงกลับ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบชลประทาน เพื่อการอุปโภคบริโภค และพบปะประชาชน ณ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ให้การต้อนรับ พร้อมชนเผ่าชาติพันธุ์ต่างๆมารอต้อนรับด้วย โดยกลุ่มชาติพันธ์ุ ได้มอบย่ามชนเผ่าเย้า และชนเผ่าลาหู่เป็นที่ระลึก ก่อนที่นายกฯจะขึ้นเวทีพูดคุยกับชาวบ้านที่มารอต้อนรับ ว่า เคยมาตอนหาเสียงแต่ตั้งแต่เป็นนายกฯถือว่าเป็นการมาครั้งแรก ถือเป็นโอกาสดีที่ตน และทีมงานจะได้รับฟังปัญหา ซึ่งเดินมา 100 เมตรก็ได้รับฟังปัญหาเต็มไปหมด ทั้งเรื่องราคาพืชผลตกต่ำ การเลี้ยงสัตว์ การส่งออก และการสร้างรายได้ให้พี่น้องเกษตรกรที่สูงขึ้น และได้พบกับกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มซึ่งรัฐบาลยืนยันที่จะดูแลเรื่องสัญชาติ และพื้นที่ทำกินภายใต้การผลักดันของ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย รัฐบาลยืนยันให้ความเสมอภาคเท่าเทียมดูแลพี่น้องประชาชนที่อยู่ในประเทศไทยที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ขณะที่ นายกสมาคมเชียงแสนเมืองน่าอยู่ได้ยื่นหนังสือถึงนายกฯ โดยขอรับการสนับสนุน 3 โครงการ คือ 1.โครงการรวมเทศบาลตำบลเวียง และเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ให้เป็นหนึ่งเดียว 2.โครงการผันน้ำแม่น้ำโขงโดยการทำท่อส่งน้ำจากแม่น้ำโขงในพื้นที่แม่น้ำอิง แม่น้ำกก และแม่น้ำคำ เพื่อเป็นการส่งต่อให้ตำบลต่างๆ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงให้มีน้ำอุปโภคบริโภค และ 3. อนุญาตผู้ไม่มีหนังสือเดินทางสัญชาติจีน ซึ่งอยู่ฝั่งลาว ให้ออกเป็นหนังสือผ่านแดนเข้ามาท่องเที่ยวได้ โดยให้เข้ามาท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 3 วัน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากนั้น นายกฯ และคณะได้เดินลงไปดูสภาพริมแม่น้ำโขงบริเวณ อ.เชียงแสน
จากนั้น นายกฯ เป็นประธานประชุมหารือแผนพัฒนา จ.เชียงราย พร้อมรับฟังปัญหาการค้าขายตามแนวชายแดน การสกัดกั้น และการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งหลังจากรับฟังปัญหานายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศไปเจรจากับจีน เรื่องการส่งวัวผ่านแม่น้ำโขงไปจีนโดยตรง เพื่อไม่ให้เสียค่าธรรมเนียมด่านกักกันสัตว์ของลาว ตัวละ 8,000 บาท พร้อมจัดหาเครนเพื่อขนส่งสินค้าตามแนวชายแดนทางเรือ และขอให้มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผลไม้ท้องถิ่น เพื่อเพิ่มมูลค่า
ส่วนด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากเชียงรายเป็นเมืองที่มีโบราณสถาณเยอะ แต่ขาดการโปรโมท จึงขอให้เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประวัติความเป็นมาของเมืองเชียงราย
นายกฯ ยังได้กล่าวถึงปัญหาใหญ่ คือเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน เพราะจากรายงานมีการจับกุมเพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เท่า โดยเฉพาะเฮโรอีน จึงขอให้ประสานกับทางสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพราะถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีการลักลอบขนส่งไป ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากการปะทะกับแก๊งยาเสพติด ขอให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) กระจายยุทโธปกรณ์ไปตามหน่วยตำรวจ โดยเฉพาะกล้องไนท์วิชั่น ตามหน่วยแนวชายแดนให้เร็วที่สุด รวมถึงการจัดหารถโฟล์วิล พร้อมให้เร่งศึกษาการขนยาเสพติดผ่านโดรน ที่อาจมีขึ้นในอนาคตเพื่อที่จะสกัดกั้นได้ทัน
นอกจากนี้ นายกฯ ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังอย่าประมาทเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย หากฝ่ายตรงข้ามแรงมา ก็ให้แรงไป จะไม่ยอมให้เกิดการสูญเสียอีกเด็ดขาด เรื่องนี้เรายอมรับไม่ได้ อีกทั้งชุมชนต้องเข้มแข็งเพื่อช่วยเหลือไม่ให้ผู้ติดยาที่ได้รับการรักษาแล้วกลับไปติดยาเสพติดอีก โดยจะต้องมีการเอ็กซเรย์ทุกหมู่บ้าน และนำจังหวัดน่าน และจังหวัดร้อยเอ็ด มาเป็นโมเดลจังหวัดสีขาว
ขณะเดียวกันขอให้ทางกองทัพเป็นที่พึ่งของผู้ที่ได้รับการบำบัดยาเสพติดแล้วให้ได้มีอาชีพไม่กลับไปติดยาเสพติดอีก ซึ่งนายกฯได้ชื่นชม มณฑลทหารบกที่ 38 ที่มีการดำเนินการได้ดีในส่วนของผู้ที่เข้ามาบำบัดยาเสพติดแล้วกลับออกไปมีอาชีพ
ทั้งนี้ยังได้ขอให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลผู้บำบัดให้หายขาดจากยาเสพติด โดยนำไปบำบัด 1-2 เดือน ไม่ใช้วิธีเดิมคือการให้กลับบ้านทุกวันเพื่อสร้างระเบียบวินัย.-315 -สำนักข่าวไทย