กทม.13 ก.ค.- “นพ.เปรมศักดิ์” ชงแสดงวิสัยทัศน์ชิง ปธ.วุฒิสภา ขณะที่กลุ่มอิสระส่ง “นันทนา-บุญส่ง” ชิงรอง ปธ.
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กล่าวถึงกรณีการล็อบบี้ สว.โดยยื่นผลประโยชน์แลกเปลี่ยน เพื่อให้มาอยู่ร่วมในสังกัดว่า ขณะนี้มีการล็อบบี้ สว.สายอิสระให้เข้าไปอยู่ในกลุ่ม สว.ที่เป็นเสียงข้างมาก โดยให้ผลประโยชน์ก้อนใหญ่ เพื่อให้ได้เสียงเด็ดขาดในการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา ที่คาดว่าจะมีการเลือกกันในวันที่ 19ก.ค.นี้ ถ้าปล่อยให้มีการล็อบบี้ได้ การเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาจะไม่เห็นความหวังในระบบวุฒิสภา อย่าดูถูกเสียงข้างน้อยไม่มีความหมาย อย่าไล่ทุบเอาตามใจตัวเอง เพราะต้องทำงานร่วมกัน 5 ปี ต้องมีความสมานฉันท์ จะส่งเสริมความร่วมมือกันได้ดีที่สุด แต่เสียงข้างน้อยก็ไม่ควรดิ้นรนไปขอแบ่งตำแหน่ง ถ้าเสียงข้างมากไม่ยอมก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่จะต้องสู้อย่างมีศักดิ์ศรี ส่วนตัวมองว่า เก้าอี้ประธานและรองประธานวุฒิสภา ควรให้คนที่อยากดำรงตำแหน่งกล้าเสนอตัวเองขึ้นมา ไม่ต้องให้ใครเสนอชื่อแทนให้ และต้องแสดงวิสัยทัศน์จะพัฒนาวุฒิสภาอย่างไรให้มีความก้าวหน้ากว่า สว.ชุดที่แล้ว เพื่อให้ที่ประชุม สว.ลงมติจะเลือกใครเป็นประธานและรองประธาน
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า อยากให้คนที่สนใจจะเป็นประธานและรองประธานวุฒิสภา กล้าประกาศตัวเองลงสมัคร กล้าเป็นหน่วยกล้าแพ้แข่งชิงเก้าอี้ ไม่ใช่ปล่อยให้บล็อกโหวต ยอมแพ้ตั้งแต่ตำแหน่งประธานวุฒิสภา แข่งเฉพาะตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา ดูแล้วเสียศักดิ์ศรี เหมือนยอมจำนนตั้งแต่แรก ไม่อยากให้วุฒิสภาชุดใหม่ถูกควบคุมตั้งแต่แรก แม้เสียงอาจจะสู้กลุ่มที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ แต่ถ้าสังคมสนับสนุน เสียงข้างมากก็จะถูกกดดัน ต้องวัดใจเข้าจะใจกว้าง เกรงใจกระแสสังคมแค่ไหน ทุกคนเป็นสว.เท่ากัน มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่ามองว่าใครสีไหน ดังนั้นใครอยากเป็นประธาน ต้องกล้าประกาศตัว ตั้งใจมาเป็นเอง กล้าแสดงวิสัยทัศน์ ไม่ใช่ให้ใครเสนอมา ไม่สง่างาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนการชิงตำแหน่งประธานและรองประธานวุฒิสภานั้น ขณะนี้สว.ในกลุ่มอิสระ และสว.สายสีส้ม ที่มีจำนวนประมาณ 30 คน จะมีการหารือกันในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาส่งคนลงชิงเก้าอี้ประธานและรองประธานวุฒิสภา โดยในส่วนประธานวุฒิสภา อยู่ระหว่างการพิจารณาจะส่งใครลงชิงเก้าอี้ ส่วนตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา 2 เก้าอี้นั้น มีการพิจารณาอาจจะส่งนางนันทนา นันทวโรภาส และนายบุญส่ง น้อยโสภณ ชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา ซึ่งจะต้องรอการพิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า.-319 -สำนักข่าวไทย