ทำเนียบรัฐบาล 12 ก.ค.- “จักรพงษ์” แจงรัฐบาลใช้งบ 67 ช่วยเหลือประชาชนไปแล้วกว่า 40,000 ล้าน เตรียมใช้งบฉุกเฉิน 43,000 ล้าน ทำโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ย้ำ ทำได้ไม่ผิดกฎหมาย ขอประชาชนมั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจได้
นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ว่ารัฐบาลเพิ่งเริ่มใช้จ่ายในช่วงเดือน เมษายน ซึ่งนำไปใช้จ่ายในหลายโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น การยกระดับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค การบรรเทาน้ำท่วม น้ำแล้ง การชดเชยค่าทำลายสุกร เพิ่มประสิทธิภาพตลาด ฯลฯ
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า ผลการเบิกจ่ายงบกลางทั้งหมดจ่ายไปแล้ว กว่า 70% ซึ่งเป็นงบสำหรับช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่รัฐบาลไม่ได้แค่พึ่งงบกลางในการช่วยเหลือประชาชนเพียงอย่างเดียว ในหลายโครงการเราก็ใช้กระทรวงที่ของบกลางให้กลับไปใช้งบประมาณของแต่ล่ะกระทรวงก่อนเพื่อจะได้ใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพราะปีนี้งบประมาณออกมาล่าช้า มีเวลาในการดำเนินงานเพียง 4-5 เดือน จึงขอให้ใช้งบของกระทรวงไปก่อน
นานจักรพงษ์ กล่าวอีกว่า การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่จำเป็นต้องต้องใช้งบประมาณเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการบริหารจัดการด้านอื่นๆ เช่น ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งนายกฯตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งก็ให้ความสำคัญ ซึ่งอาศัยการบริหารจัดการโดยไม่ใช้งบประมาณก็สามารถทำให้ ตัวเลข GDP เติบโตขึ้น
ส่วนในเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดใช้งบประมาณน้อยมาก แต่สามารถปราบปรามจับกุมมากกว่าปีที่แล้วได้ในระยะเวลาเพียง 6 เดือน และการจัดการกับอาชญกรรมไซเบอร์ซึ่งจับกุมได้มากขึ้น รัฐบาลมีเครื่องมืออีกหลายอย่างไม่จำเป็นต้องใช้งบกลางเพียงอย่างเดียว
เมื่อถามว่างบประมาณที่เบิกจ่ายไป 70 % เป็นจำนวนเงินเท่าใด นายจักรพงษ์ กล่าวว่า เบิกจ่ายไปแล้ว 435,078 ล้านบาท จาก 11 รายการ ในส่วนงบกลางที่เป็นงบฉุกเฉิน 99,600 ล้าน ซึ่งเป็นส่วนที่กันไว้คราวๆ ส่วนงบในส่วนอื่นมีการวางแผนไว้แล้วว่าจะจัดการอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่านโยบายเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท มีการกันไว้ในส่วนตรงนี้ไว้อย่างไร นายจักรพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นกันงบในส่วนนี้ไว้ที่ 43,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นจำนวน 40% ของงบฉุกเฉิน ส่วนงบประมาณในการจัดการภัยพิบัติมีอยู่ประมาณ 15,000 ล้านบาทที่กันไว้ ซึ่งจากการสถิติในปีก่อนงบจะอยู่ที่ประมาณพันกว่าล้าน จากงบกลางทั้ง 600,000 กว่าล้าน
นายจักรพงษ์ ยังกล่าวย้ำว่า การนำงบประมาณฉุกเฉินมาดำเนินโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต นั้นสามารถทำได้ ไม่ผิดกฏหมาย ซึ่งทางสำนักงบประมาณได้พูดคุยกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วว่าสามารถทำได้
“อยากให้สังคมเข้าใจว่ารัฐบาล ให้ความสำคัญกับประชาชน ไม่ได้ต้องการเก็บงบกลางส่วนนี้ไว้สำหรับการดำเนินนโยบาย ดิจิทัล วอลเล็ต เพียงอย่างเดียว แต่เรามีการบริหารจัดการที่มั่นใจว่าสามารถใช้ได้ และงบในส่วนนี้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เช่นกัน “.-317 -สำนักข่าวไทย