พ.ต.อ.ทวี เร่งปราบปรามยาเสพติด

ทำเนียบ 12 ก.ค.-“เกณิกา” เผย พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม เร่งปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบาลเร่งด่วนรัฐบาล นำทีมทำงานทุกภาคส่วน ลุยแก้ปัญหายาเสพติดต่อเนื่อง เน้น 3 เดือนนี้ หลังปราบเข้มข้น ได้ผลยาเสพติดลดลงต่อเนื่อง

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในปัจจุบัน ได้มอบเป็นวาระเร่งด่วน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันบูรณาการเพื่อป้องกัน แก้ไข ปราบปรามยาเสพติด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงได้นำประชุมคณะกรรมการติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ครั้งที่ 2/2567 ร่วมกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุรีย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องอีกหลายกระทรวง


น.ส.เกณิกา กล่าวอีกว่า พ.ต.อ.ทวี พูดถึงความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีกำชับให้เข้มงวดในช่วง 3 เดือนนี้ โดยเน้นในระดับชุมชน หมู่บ้านเพิ่มมากขึ้น และการนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด เพื่อลดอัตราการกระทำผิดซ้ำ ที่ปัจจุบันมีมากถึงร้อยละ 61 และพบว่าผู้ที่อยู่ในเรือนจำติดยาเสพติด จำนวน 229,320 คน ในจำนวนนี้ 77% มีการศึกษาต่ำกว่าขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลให้เรียนฟรี โดยขอให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบนักเรียนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา เพื่อลดจำนวนแนวโน้มผู้เสพยาเสพติด และกระทรวงยุติธรรมอยากจะเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ต้องขัง เตรียมเรือนจำปรับเปลี่ยนเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อยกระดับเป็นศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมต่อไป จะช่วยลดการกระทำผิดซ้ำทางสังคมของผู้ต้องขัง โดยกระทรวงยุติธรรม ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานสาธารณสุข ตำรวจ ทหาร ป.ป.ส.

น.ส.เกณิกา ยังกล่าวต่อถึงการสรุปผลการดำเนินงานปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน ในพื้นที่ 25 จังหวัดเร่งด่วน โดยด้านการปราบปรามนักค้าและเครือข่ายยาเสพติด ผลการดำเนินการภาพรวมประสบผลสำเร็จมากกว่า 70% ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ดูแลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด สามารถรับผู้เสพเข้ารับการบำบัดได้มากกว่า 90% มีการนำผู้เสพในระบบคุมประพฤติเข้าสู่กระบวนการบำบัด ดำเนินการไปแล้วกว่า 84% และมีการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม จัดตั้งไปแล้วกว่า 2,348 แห่ง รวมถึงได้จัดระเบียบทางสังคมและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในสถานบันเทิง สถานบริการ สถานศึกษา ดำเนินการไปแล้วกว่า 90%


ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดภาพรวมปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน ตัังแต่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2567 มีจำนวน 5 จังหวัดแรกที่ได้คะแนนตัวชี้วัดภาพรวมมากที่สุด คือ มหาสารคาม ขอนแก่น ชลบุรี สงขลา และสตูล โดยสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากความสำเร็จของการบูรณาการทำงานร่วมกันของภาคีทุกภาคส่วน ที่ขับเคลื่อนนโยบายปราบยาเสพติดของรัฐบาลอย่างจริงจัง และประชาชนเข้ามามีบทบาท ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแส สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”