“ศิริกัญญา” ถามนายกฯ เกิดอะไรขึ้นกับ “เงินดิจิทัล”

รัฐสภา 11 ก.ค- “ศิริกัญญา” ขอบคุณนายกฯ เห็นคุณค่าสภาฯ แจงกระทู้ถามสดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถามเกิดอะไรขึ้นกับ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เปลี่ยนไปมาจนประชาชนงง ด้านนายกฯ ร่ายยาวเปลี่ยนเกณฑ์เงินหมื่น เพื่อตอบโจทย์ชาวบ้าน ยันรัฐบาล “วิ่งเพื่อปัจจุบันที่ดีกว่า ต่อสู้แรงค้านที่ไร้อนาคต”


นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของรัฐบาล โดยนางสาวศิริกัญญา กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เห็นคุณค่าของสภา ยึดถือหลักการตรวจสอบจากฝ่ายนิติบัญญัติและเคารพหลักการว่าสภาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด และได้ตอบรับการตอบกระทู้ในเวลา 07.30 น. ของวันนี้ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นายกฯ จะมาตอบกระทู้ของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งหวังว่านายกรัฐมนตรีจะไม่มาตอบเป็นครั้งสุดท้าย และขอให้สัปดาห์หน้า นายกรัฐมนตรีเคลียร์ตารางงานเพื่อเข้ามาตอบกระทู้

ทั้งนี้ นางสาวศิริกัญญา ได้ตั้งกระทู้ถามถึงเรื่องโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีประชาชนสอบถามจำนวนมากว่า เกิดอะไรขึ้นกับโครงการนี้ เนื่องจากมีการปรับแก้เงื่อนไขต่างๆ เช่น เปลี่ยนไม่ให้ซื้อมือถือได้แล้ว รวมถึงมีประชาชนกังวลว่า ได้ปรับเป้าหมาย 45 ล้านคน ลดลงจาก 50 ล้านคน และที่ระบุว่าจะไม่กู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จึงอยากตั้งคำถามว่า ตอนนี้งบประมาณไม่เพียงพอแล้วหรือไม่ จึงหางบประมาณได้เพียง 4.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้ หากมีคนมาลงทะเบียนเต็มจำนวน 50 ล้านคน จะได้เงินเต็มจำนวนหรือไม่ รวมถึงอยากทราบว่าจะใช้งบกลางของปี 2567 หรือไม่


นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ตนให้ความสำคัญกับสภานิติบัญญัติ และไม่ได้จะหลีกเลี่ยง แต่มีภารกิจแน่น และได้พยายามจะเลื่อนประชุม เพื่อตอบสนองความต้องการของ สส. ที่เห็นว่าน้อยใจจะไม่ถาม ตนพยายามที่จะมาตอบให้ได้ และแน่นอนว่าจะไม่ใช่การมาตอบครั้งสุดท้าย จะพยายามมาอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะมีการแถลงในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ โดยมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งรัฐบาลรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ส่วนจะนำเงินไปซื้ออะไรได้หรือไม่ได้ ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ก่อนโครงการจะสำเร็จเป็นรูปธรรมก็ได้ฟังความเห็นของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ผู้ประกอบการ และฝ่ายค้าน ว่าอะไรเหมาะสมและไม่เหมาะสม จึงได้มีการพูดคุยกันตลอด เพื่อปรับปรุงให้โดนใจประชาชนและถูกจุดประสงค์ของโครงการนี้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนเรื่องของงบประมาณต่างๆ งบกลางกันไว้ 4.3 หมื่นล้านบาท ส่วนที่มีการปรับลดงบประมาณจาก 4.5 แสนล้านบาท ลงมาจากงบ 5 แสนล้านบาท เราดูจากสถิติเก่า จากรัฐบาลที่ผ่านมา ว่ามีการแจกเงิน และได้มีการวิเคราะห์ว่าจะมีคนไม่มาใช้สิทธิกี่คน แต่รัฐบาลก็ได้เตรียมไว้อย่างเต็มที่ ซึ่งมั่นใจว่าจะใช้งบโดยพินิจพิเคราะห์อย่างดี เป็นไปตามกฏหมาย ซื่อสัตย์สุจริต และเป็นไปตามกติกาในการใช้งบประมาณที่ถูกต้อง


”เรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของเรา เหตุผลที่ต้องใช้เงิน 10,000 บาทต่อคน และจำกัดพื้นที่ในการใช้ เพราะไม่ต้องการให้จำกัดความเจริญอยู่ที่หัวเมืองหลักเพียงอย่างเดียว การที่ประชาชนมีบัตรประชาชนอยู่ในอำเภอไหนก็ให้ใช้ในอำเภอนั้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดที่มีการพัฒนาต่ำ ไม่ว่าจะเป็นหนองบัวลำภู บึงกาฬ มหาสารคาม ที่มีจีดีพีต่ำ เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคเป็นไปตามความต้องการของทุกคน มั่นใจว่าวันที่ 24 กรกฎาคม จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในเรื่องของงบประมาณและประเภทสินค้าที่จะออกมา“ นายเศรษฐา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา ระบุว่า การที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องใช้งบกลาง 43,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้ปริศนาทุกอย่างกระจ่างขึ้น เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเริ่มบริหารราชการแผ่นดินจนถึงตอนนี้กว่า 10 เดือน เราก็มีข้อสังเกตว่า งบกลางปี 67 แทบจะไม่ได้อนุมัติเลย ซึ่งจริงๆ แล้วมีปัญหาเร่งด่วนคือ ค่าครองชีพประชาชน ราคาของแพงขึ้น รวมถึงค่าไฟยังแพง แต่รัฐบาลกลับไม่มีมาตรการช่วยเหลือประชาชน และจำเป็นจะต้องถามเรื่องงบ 67 เพราะที่ผ่านมาสภาได้อนุมัติงบไป 99,000 ล้านบาท ก่อนอนุมัติงบก็มีการใช้งบประมาณไปพรางก่อน แต่มีการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีไปเพียง 14,000 ล้านบาทเศษเท่านั้น

ทั้งนี้ มีการของบกลางไปช่วยพยุงราคาน้ำมัน 6,500 ล้านบาท แต่รัฐบาลกลับไม่อนุมัติ ทั้งที่งบกลางก็ไม่ได้ใช้ หากไม่อยากอุดหนุนราคาน้ำมันด้วยกันลดภาษีสรรพสามิตเหมือนเดิม เลือกอุดหนุนเฉพาะกลุ่มก็ได้ อาจจะแจกเป็นคูปองลดราคาน้ำมันให้กับกลุ่มขนส่งหรือประชาชน แต่กลับไม่มีมาตรการออกมาช่วยเหลือค่าครองชีพเลย

ส่วนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฝืดเคืองอาจมีการออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำบ้าง แต่ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ผู้เดือดร้อน แก้ปัญหานายกรัฐมนตรีมีแนวโน้มที่จะช่วยเหลือประชาชนหรือแก้ปัญหาเศรษฐกิจในเวลานี้โดยที่ไม่ต้องรอดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจง โดยยืนยันว่า มีการใช้งบกลางในการดูแลเรื่องค่าน้ำมัน และค่าไฟ รวมถึงเรื่องการเกษตร ดูแลเรื่องเกิดน้ำท่วม น้ำแล้ง การสร้างถนน ดูแลสถานพยาบาลต่างๆ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ภาพรวมเศรษฐกิจว่า 10 ปีที่ผ่านมา GDP ของไทยเติบโตอยู่ในระดับที่ต่ำ ไม่มีอินฟราสตรัคเจอร์ ส่งผลให้อัตราการเติบโตมีเพียง 3 % ต่อปี การเจริญเติบโตส่วนใหญ่เป็น K shaped recovery คนที่รวยแล้วก็รวยอีก รวยไปเรื่อยๆ คนจนก็ต่ำต้อยต่อไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงหลังโควิด การลงทุนของภาครัฐและเอกชนก็ค่อนข้างราบเรียบ ส่งออกก็ติดลบ นำเข้าสินค้าเพิ่มมากขึ้นส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบและพลังงาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ฝ่ายค้านให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปิดตัวโรงงาน ทำให้เห็นได้ชัดว่า อุตสาหกรรมต้องมีการปรับตัวเข้ากับความต้องการของโลกสมัยใหม่ ซึ่งเราก็มีการปรับตัวช้ามากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตนต้องเดินทางไปต่างประเทศ ต้องมีการเจรจากับบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรื่องสงครามการค้า หรือภูมิรัฐศาสตร์เป็นเรื่องที่สำคัญ ถึงแม้ประเทศไทยจะมีจุดยืนเป็นกลาง ไม่ทะเลาะกับใคร และเป็นคู่ค้ากับทุกคน แต่ก็ทำให้การส่งออกลดน้อยลง เราต้องเดินทางไปพูดคุยกับประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อทำให้เขามีความมั่นใจมาลงทุนและซื้อสินค้าไทย

นอกจากนี้ การลงทุนก็ต่ำ ตนเคยแจ้งให้สภาทราบว่า ครั้งสุดท้ายที่เรามีโครงการใหญ่คือโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงการบริโภคในประเทศไทย ถ้าตัดภาคการท่องเที่ยวออกไปถือว่าไม่มีการเจริญเติบโตเท่าที่ควร การท่องเที่ยวตั้งแต่ที่เราเข้ามาก็เป็นการใช้นโยบายหลัก ไม่ได้ใช้งบประมาณ ซึ่งเป็นหนึ่งใน Growth Engine ที่ใช้พยุงเศรษฐกิจไปได้ ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าฟรี การเปิดนิทรรศการให้ชาวต่างชาติมาเที่ยว ทำให้ประเทศไทยเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เรื่องการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่แบบเศรษฐกิจอยู่ในปัจจุบัน เราเองก็มุ่งมั่นที่จะทำต่อ วันก่อนประเทศอินเดีย ก็มีการยกเว้นวีซ่าที่จะให้เขาเป็นการชั่วคราว เราก็จะกระตุ้นเรื่องนี้ต่อเนื่อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ภาคอุตสาหกรรมอัตราการเติบโตก็ตกหมด ต่ำกว่า 60% แสดงว่าคนไม่มีกินไม่มีใช้ เพราะฉะนั้นทำไมต้องเป็นดิจิทัลวอลเล็ต เพราะหากมีเงินใหม่เข้ามาในระบบ โรงงานต่างๆจะผลิตสินค้า มารองรับการซื้อของประชาชน ทำให้เกิดการจ้างงานเกิดขึ้น

อีกเรื่องหนึ่งเป็นปัญหายาเสพติด เราต้องยอมรับว่า เราจะกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาอุตสาหกรรมใหม่ๆ เข้ามา แต่หากประชาชนของเรายังมอมเมา ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการลงพื้นที่ของตนหลายครั้งก็เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตนเชื่อว่าทุกท่านในที่นี้ที่ลงพื้นที่ไป นอกจากปัญหาปากท้อง ปัญหายาเสพติดก็ยังเจอเยอะ

นายกรัฐมนตรี ยังเล่าถึงการไป กอ.รมน. ที่หลายท่านอยากให้ยุบ แต่ตนยังเห็นศักยภาพในการพัฒนาประเทศได้อีกเยอะ สามารถช่วยเหลือประชาชนในช่วงน้ำท่วม กันที่ดินทหารมาให้ประชาชนทำกิน ซึ่งในการทำงานร่วมกันกับฝ่ายปกครอง

สำหรับหนี้นอกระบบก็เป็นปัญหาเศรษฐกิจอีกอย่างหนึ่ง ก็มีการร่วมกับฝ่ายปกครอง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับนายกิติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะประธานที่ปรึกษา ก็ทำงานไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ให้หนี้นอกระบบหมดไป เพราะหากมีหนี้นอกระบบ ก็ไม่มีแรงทำงานและไปหวังพึ่งยาเสพติด

“เราแพ้อินโดนีเซีย แพ้เวียดนามมาโดยตลอดแต่ตอนนี้เรากำลังจะขึ้นมา เพราะรัฐบาลนี้ให้ความสนใจ และบินไปเจรจาการค้าเพื่อจะให้มีการลงทุนต่างประเทศเข้ามาเป็นรูปธรรม แต่เพิ่ง 10 เดือน ทุกท่านทราบดีว่าจะให้ลงทุนเป็นแสนล้าน ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ กว่าเขาตัดสินใจลงทุนในประเทศ แต่ก็มีการพัฒนาขั้นตอนต่างๆไปในทางที่ดี” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า เรื่องการเกษตรก็เป็นสิ่งสำคัญแม้จะไม่เป็นอุตสาหกรรมที่เซ็กซี่ แต่พี่น้องหลาย 10 ล้านคน ยังต้องพึ่งการเกษตรอยู่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ลงพื้นที่ไปทำงานอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง การเปิดตลาดค้าขาย ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นภายใน 4 ปี นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีความพร้อมในการผลักดันสินค้าฮาลาล

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราเองก็อยากเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเอเชีย พยายามไม่ทะเลาะกับใคร อยากให้มั่นใจว่าประเทศไทยเป็นมิตรกับทุกคนและสามารถส่งผ่านสินค้าออกไปได้

จากนั้น นางสาวศิริกัญญา ตั้งคำถามต่อ โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถามที่ตนเองถาม ก็เท่ากับเป็นการยืนยันว่า ไม่มีมาตรการช่วยพยุงค่าครองชีพ และไม่มีมาตรเกี่ยวกับโรงงานปิดกิจการและ SMS ล้ม ให้กับประชาชนในระยะสั้น เพราะจากการที่นายกรัฐมนตรีตอบ วิเคราะห์ปัญหาถูกวินิจฉัยโรคถูก แต่ทางออกยังมืดแปดด้านและไม่เห็นเป็นรูปธรรม โดยที่ไม่ต้องรอดิจิทัลวอลเล็ตหรือรอนักลงทุนเข้ามาลงทุน ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรหากงบไม่พอที่จะเอาไปใช้ในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเวลานี้ หรือรัฐบาลอาจสร้างแรงจูงใจให้กับท้องถิ่น เอาเงินสะสมของตนเองมาใช้เป็นเงินลงทุนขนาดเล็กในชุมชนเพื่อให้เกิดการจ้างงานในต่างจังหวัด และเศรษฐกิจจะกระชุ่มกระชวย กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาบ้าง เพราะเงินสะสมเหล่านี้มีอยู่จริงไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท หากรัฐบาลออกครึ่งหนึ่ง ท้องถิ่นออกอีกครึ่งหนึ่ง ก็จะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากที่มีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องรอดิจิทัลวอลเล็ตออกมา

พร้อมสอบถามกรณีการเพิ่มสัดส่วนต่างชาติซื้อ อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ที่นายกฯ เป็นต้นคิดและสั่งการกระทรวงมหาดไทยให้เร่งรัดดำเนินการ ซึ่งมาตรการนี้มีผลกระทบในเชิงลบค่อนข้างมาก ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้น ประชาชนที่ไม่มีบ้านได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีเงินที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นของต่างชาติและอาจจะต้องไปเช่าบ้านของต่างชาติด้วย แล้วสุดท้ายคนไทยได้อะไรจากมาตรการนี้ สัดส่วนที่เกิดผลต่อเศรษฐกิจคืออะไร

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจเรายังทำอย่างต่อเนื่อง บางอย่างไม่ต้องใช้งบประมาณก็ได้ ใช้นโยบาย ใช้การมุ่งมั่น ใช้การประสานงานก็ได้ ส่วนมาตรการขยายเวลาเช่า 99 ปี มันเป็นการเชื่อมต่อกับหลายอย่าง เป็นการเรียกร้องจากฝ่ายต่างประเทศที่อยากให้เพิ่มเวลาเช่าทรัพย์อิงสิทธิ

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า คงไม่ได้เป็นเรื่องการขายชาติ เป็นการให้ศึกษาว่าเหมาะสมหรือไม่ ขอฝากไว้ว่า ต่อไปต้องมาดูว่า ถ้าเกิดทำแล้วจะส่งผลระยะยาวให้กับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยก่อให้เกิดการลงทุนระหว่างประเทศสูงขึ้นหรือไม่ และยืนยันว่า ต้องมีการศึกษาและตั้งใจทำอย่างซื่อสัตย์สุจริต ปราศจากเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทุกประการ ไม่ได้มีการกดดันใครทั้งสิ้น

“ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ ภายใต้การนำของผม จะวิ่งสู้เพื่ออนาคต และพรรคร่วมทุกพรรคในรัฐบาลเราก็จะช่วยวิ่งสู้ต่อไป เพื่อปัจจุบันที่ดีกว่า จะต้องสู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

พายุ “คาจิกิ” แนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค. ฝนหนักหลายพื้นที่

กทม. 24 ส.ค.-กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 พายุ “คาจิกิ” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค.68 ไทยฝนเพิ่มมากขึ้น ตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง บริเวณอีสานตอนบน ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (24 ส.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 570 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น […]

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]