“ภูมิธรรม” ชี้แค่มองคนละมุม ปม “วรชัย-พรหมินทร์”

ทำเนียบ 9 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อปม “วรชัย-พรหมินทร์” ไม่มีปัญหาการสื่อสาร ถูกทั้งสองฝ่ายแค่มองคนละมุม ควรสะท้อนกันภายในมากกว่าพูดผ่านสื่อ ทำงานร่วมกันแบบมีวุฒิภาวะ ชี้ นายกฯ ทำงานเยอะแต่ยาก เพราะปัญหาทับถมมานาน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง กรณีที่นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การลงพื้นที่และเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ว่าจะกลายเป็นปัญหาระหว่างคนภายในพรรคเพื่อไทย ว่า คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา ซึ่งขณะนี้เราก็พยายามทำความเข้าใจ ซึ่งนายวรชัย เองก็อาจจะไปรับรู้หรือรับฟังถึงปัญหาสภาพความเดือดร้อนประชาชนและพยายามสะท้อนออกมา อันที่จริงแล้วควรจะมาสะท้อนกันภายในเพราะไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่ได้รับมาครบถ้วนทั้งหมดหรือไม่ และสิ่งที่ดำเนินการอยู่ก็มีหลายด้านหลายเหตุผลที่จะต้องมาทำความเข้าใจในแต่ละเรื่อง เพราะวันนี้การแก้ปัญหาไม่ใช่แก้ง่ายๆ เพราะสิ่งที่เป็นปัญหานั้นต่อเนื่องมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่บริหารไม่ได้ดีและสร้างปัญหามาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งสภพทางภูมิศาสตร์การเมืองที่เกิดสงคราม และสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีปัญหา ขณะนี้พึ่งจะเริ่มฟื้นตัวบ้าง เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาทุกอย่างคงต้องทำอย่างรอบด้าน ตนคิดว่าหากทุกฝ่ายทำใจให้สงบและมานั่งคุยกันก็จะเข้าใจปัญหากันได้มากขึ้น


นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า นายวรชัย อาจจะสะท้อนภาพที่พี่น้องประชาชนเจอและได้เสนอมาซึ่งนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในสถานะการทำงานใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี การออกมาบอกว่านายวรชัย ไม่รู้ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะอย่างตนก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องของรัฐบาลที่ทำอยู่ ซึ่งตรงนี้คือการเอามุมของแค่ละคนที่เห็นและมาพูดคุยมาชั่งน้ำหนักกั ก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ ตนไม่อยากให้เรื่องนี้ยืดเยื้อเพราะที่จริงแล้วไม่ได้มีอะไร ซึ่งรัฐบาลตระหรักถึงปัญตรงนี้ดีอยู่แล้วและพยายามแก้ไข

เมื่อถามว่า จะต้องมีการพูดคุยกับนายวรชัย หรือไม่ในฐานะที่ปรึกษา นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ต้องคุยกันทุกฝ่าย ซึ่งตนก็ได้ยกไปคุยกับนายแพทย์พรหมินทร์ และตนก็ได้คุยกับนายวรชัย แล้ว ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้ต้องจบ ไม่ควรทำให้ประเด็นเล็กประเด็นน้อยถูกถามและไปขยายความที่เป็นควาทเห็นของแต่ละคน เพราะเนื่องนี้ควรที่จะรับรู้ร่วมกัน ไม่ใช่ไปใช้วิธีไปพูดผ่านสื่อ แบบนี้ตนว่ามันไม่ได้


นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนตัวคิดว่า นายแพทย์พรหมินทร์ คงจะจบเรื่องนี้แล้ว เพราะได้ชี้แจงในส่วนของรัฐบาลไป ซึ่งส่วนของนายวรชัย ตนก็ไม่อยากให้ไปขยายความอีก ในฐานะที่เราเป็นคนทำงานร่วมกัน ดังนั้นควรยุติ

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยเป็นส่วนตัวกับนายวรชัย ไปแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้พูดคุยไปแล้ว แต่ในเรื่องนี้ตนพึ่งเห็นในสองวันที่ผ่านมา ถ้าเป็นส่วนตัว ตนคิดว่าคงหยุดไปแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่สะท้อนออกมาแล้ว และไปคุยกันได้ ไม่ใช่ว่าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่งอีกคนพูดอีกอย่างหนึ่ง ตนมองว่านั่นไม่ใช่การทำงานที่มีวุฒิภาวะ ควรจะหยุด มีแต่จะพูดทำให้ความเชื่อมั่นและปัญหาของประเทศมากขึ้นไป ซึ่งที่จริงแล้วถูกทั้งสองฝ่ายเพียงแต่เห็นกันคนละด้าน

ในขณะที่มีคนพูดถึงการทำงานของนายกรัฐมนตรีว่า “ทำดีแต่ไม่มีผลงาน” ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรี ทำงานหนัก และสิ่งที่กำลังทำอยู่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่สะสมมายาวนาน ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าตั้งแต่ก่อนเข้ามาเป็นรัฐบาลจะต้องเจอกับปัญหาหนักแน่ๆ เพราะสภาพที่ทับถมมานาน ดังนั้นตนคิดว่านายกรัฐมนตรีก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และพยายามคลี่คลายในทุกจุด ซึ่งสิ่งที่นายกฯ กำลังดำเนินการมันเป็นปัญหาในหลายเรื่อง ทั้งการผูกขาดทั้งเรื่องของเศรษฐกิจที่ซบเซาลงและเศรษฐกิจโลกก็ส่งผลกระทบ ซึ่งทุกอย่างต้องใช้เวลา ตนที่กำกับดูและกระทรวงพาณิชย์เองก็ไม่ได้เป็นอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปจนเกินเลย เพราะตัวเลขการส่งออกของ 5 เดือนแรกปี 67 อยู่ที่ 2.6 ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ประเมิณไว้ว่าจะโตได้แค่ 2% ซึ่งอีก 7 เดือนที่เหลือก็จะต้องทำให้ได้ 2.3 ซึ่งตอนนี้เราเกินเป้าอยู่แล้ว ก็ต้องมาดูว่าการค้าขายในปัจจุบันไม่ใช่การส่งออกแบบเดิม แต่เรากำลังเริ่มดำเนินการแบบใหม่ ซึ่งก็สามารถเพิ่มยอดค่าใช้จ่ายได้อีกแบบหนึ่ง ตนคิดว่าจะมองปัญหาเพียงจุดเดียวไม่พอ ต้องมองในภาพรวม เพราะตอนนี้เรากำลังก้าวไปข้างหน้า และวันนี้พืชผลการเกษตรก็ทำได้เยอะ ซึ่งการทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พืชผลทางการเกษตรก็ดีขึ้นทุกตัว สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ซึ่งสิ่งที่สำคัญเราต้องไปตรวจสอบกับประชาชนที่เป็นผู้ผลิตดีขึ้นด้วยหรือไม่ เพราะฉะนั้นปัญหาหลายเรื่องมันซับซ้อน และก็ต้องดูปัจจัยอย่างอื่นไม่ใช่แค่ปัญหาของประชาชนเพียงอย่างเดียว ซึ่งวันนี้เข้ามาต้องแก้ปัญหาให้ไปถึงราก เพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปตลอดกาล


เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์นี้ พรรคกับรัฐบาลจำเป็นต้องสื่อสารกันมากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สื่อสารกันดีอยู่แล้ว แต่ในตัวบุคคลอาจจะมีคลาดเคลื่อนกันบ้าง คิดว่าเรื่องนี้ปรับปรุงได้ไม่มีปัญหา และการทำงานของพรรคกับรัฐบาลเองก็มีอยู่แล้วอย่างในวันอังคาร รัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทยก็จะเดิยทางเข้าประชุมพรรค และในส่วนของสภาก็เข้าสภา วันธรรมดาเราก็ทำหน้าที่บริหารในส่วนรับผิดชอบของตนเอง รัฐมนตรีทุกคนต่างก็งานล้นมือ ต้องของเวลานิดนึงให้เราได้ทำงานจริงๆ เพราะเรากำลังทำในสิ่งที่เป็นปัญหายุ่งยาก.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]