“จิราพร” ชวนคนไทยติดตาม “พิธีการจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์”

6 ก.ค. – “จิราพร” ชวนคนไทยติดตามโบราณราชประเพณี “พิธีการจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์” ถวายในหลวง ในปีมหามงคล


นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เปิดเผยถึงกำหนดการพิธีจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 นี้

นางสาวจิราพร เปิดเผยว่า พิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 108 แห่งในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เป็นโบราณราชประเพณี เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดได้จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธี เพื่อถวายความจงรักภักดีในปีมหามงคลนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน


นางสาวจิราพร กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) เวลา 17.09 น. ทุกจังหวัดจะจัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และต่อเนื่องด้วยการจัดพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 8 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป

จากนั้นจะได้มีการจัดมหรสพสมโภช ในระหว่างวันที่ 11-15 กรกฎาคม 2567 ณ ท้องสนามหลวง ก่อนจะเชิญคนโทน้ำพุทธมนต์มาเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จากนั้นจะได้มีการเชิญน้ำพระพุทธมนต์ฯ จากวัดพระเชตุพนฯ ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในช่วงเช้าของวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567

โอกาสนี้ นางสาวจิราพร ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว และร่วมติดตามรับชมการถ่ายทอดสดพิธีกรรมสำคัญที่อยู่คู่เมืองไทยมานานและหาชมได้ยาก โดยสามารถรับชมได้ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT2HD) และช่องทางออนไลน์ รวมถึงสามารถติดตามข้อมูลพิธีกรรมสำคัญได้ทางเว็บไซต์ “พระลาน” www.phralan.in.th เพื่อความเป็นสิริมงคลและร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ.-314-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เตรียมสถานที่รับร่างผู้เสียชีวิตเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้

เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมสถานที่รอรับร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กำชับดูแลด้านจิตใจและช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียให้ครบถ้วน

ธงแดงเตือนน้ำป่า

เชียงใหม่ชักธงแดง เตือนเก็บของขึ้นที่สูง

เชียงใหม่ชักธงแดง หลังน้ำป่าหลากหลายพื้นที่ น้ำปิงขึ้นสูง คาดสูงสุดเกือบ 5 เมตร คืนนี้ เตือนชุมชนในเมือง 7 โซน เก็บของขึ้นที่สูง

ไต้ฝุ่นกระท้อน

พายุไต้ฝุ่น “กระท้อน” ขึ้นฝั่งเกาะไต้หวันเช้าวันนี้

กรมอุตุฯ เผยพายุไต้ฝุ่น “กระท้อน” กำลังจะเคลื่อนขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของเกาะไต้หวัน เช้าวันนี้ ส่วนไทยยังต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักต่อเนื่องอีกหนึ่งวัน จากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคอีสานตอนล่าง ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมในระดับล่างทางด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง

ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา

เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ เหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเสียพระราชหฤทัย และทรงห่วงใย เหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเกิดเพลิงไหม้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่เด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ และทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่อ่วมหลังน้ำปิงล้นทะลัก ท่วมหนักในรอบหลายสิบปี

น้ำท่วมเชียงใหม่ยังวิกฤติ หลังน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทะลักเข้าท่วมชุมชนย่านการค้า เรียกว่าเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดของเชียงใหม่ในรอบหลายสิบปี

น้ำพัดช้างล้ม

ช้างล้ม 2 เชือก คาดถูกน้ำพัดไปติดอุโมงค์ส่งน้ำ

ยืนยันช้าง 2 เชือกตายแล้ว พลอยทอง อายุกว่า 40 ปี ตาบอด 2 ข้าง ฟ้าใส อายุ 16 ปี เป็นช้างของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม คาดถูกกระแสน้ำพัดลอยไปติดอุโมงค์ส่งน้ำ เจ้าหน้าที่เตรียมฝังวันนี้

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่ม “เหนือ-กลาง-ใต้” ระวังน้ำท่วม-น้ำป่า

กรมอุตุฯ เตือนรับมือฝนตกหนัก “เหนือ-กลาง-ใต้” ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนภาคอีสานอากาศเย็นตอนเช้า

ปฏิบัติการกู้ชีวิตช้างจมน้ำ หลังน้ำป่าหลากท่วมมูลนิธิอนุรักษ์ช้างฯ

หลังน้ำป่าจากบนดอยหลากลงลำน้ำแม่แตง ทะลักท่วมมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเหมือนบ้านหลังสุดท้ายของช้างกว่า 100 เชือก และสัตว์นานาชนิด รวมเกือบ 4,000 ตัว ซึ่งอพยพช้างและสัตว์ส่วนใหญ่ออกมาได้แล้ว แต่ยังมีช้างอีกกว่า 10 เชือก จมน้ำที่ท่วมสูงเกือบ 3 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยเหลือออกมา แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก