“เทพไท” แฉบัตรเบ่งปลิวว่อนทำเนียบฯ-สภาฯ

กทม. 6 ก.ค. – “เทพไท” แฉบัตรเบ่งปลิวว่อน “ทำเนียบฯ-สภา” จี้ “เศรษฐา-วันนอร์” ต้องรับผิดชอบ ปัดกวาดพวกเหลือบการเมืองที่เข้ามาใช้รัฐสภาเป็นสถานที่หาประโยชน์ ให้เสร็จสิ้นและหมดไปโดยเร็วที่สุด


นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องการวิ่งเต้นหาตำแหน่งทางการเมือง เพื่อนำไปพิมพ์นามบัตร และใช้บัตรประจำตำแหน่ง ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรออกให้ ไปหาประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ว่าเกิดขึ้นมาในทุกยุคทุกสมัย จนกลายเป็นเรื่องปกติในแวดวงการเมืองไปแล้ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะไม่ใช่เฉพาะวิ่งเต้น ใช้เส้นสายฝากเข้าเป็นที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ หรือเลขานุการเท่านั้น แต่มีการซื้อขายตำแหน่งกัน และนำบัตรประจำตำแหน่งนั้นๆ หาประโยชน์หรือไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “บัตรเบ่ง” สร้างความเสียหายให้กับสถาบันรัฐสภาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา จะต้องหามาตรการแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยเร็ว ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา เงียบหายผ่านไปกับสายลม

นายเทพไท กล่าวว่า แต่ที่ยิ่งกว่านั้นปัญหาการซื้อขายบัตรประจำตำแหน่งทางการเมือง กำลังลุกลามเข้าไปสู่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปเป็นที่ปรึกษา ผู้ติดตาม คณะทำงานหน้าห้อง มีการวิ่งเต้นซื้อขายวุฒิการศึกษา ปริญญาบัตร เพื่อนำไปต่อยอดในตำแหน่งทางการเมืองอีกด้วย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นขบวนการใหญ่โต ทั้งในทำเนียบรัฐบาล และสภาผู้แทนราษฎร


นายเทพไท เห็นว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในทุกวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลทางการเมืองที่มีตำแหน่งสำคัญ มักจะเลี้ยงลูกน้อง หรือมีลูกน้อง ผู้ติดตามเดินล้อมหน้าล้อมหลังเป็นจำนวนมาก เดินทางไปไหนมาไหนแต่ละครั้ง มีรถผู้ติดตามกันเป็นขบวนยาวเหยียด สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมเป็นอย่างมาก ยิ่งค่านิยมสังคมไทยชอบคนตำแหน่งใหญ่โต มีบารมี ฟอร์มใหญ่ สร้างภาพเก่ง ให้เป็นที่นับหน้าถือตาของสังคม ทั้งที่เบื้องหลังของคนเหล่านี้ทำธุรกิจสีเทา เป็นนักฮั้วประมูล หากินกับผู้รับเหมา โกงกินงบประมาณแผ่นดิน

“ตนอยู่ในแวดวงการเมืองมาเป็นเวลา 20 กว่าปี ได้เห็นผู้คนที่เข้ามาอยู่วงการนี้ทุกรูปแบบ มีตั้งแต่พวก 18 มงกุฎ พวกล็อบบี้ยิสต์ หรือนักต้ม นักตบทรัพย์ ที่เข้ามาเป็นเหลือบเกาะนักการเมือง หาประโยชน์กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไท ยังขอให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดของฝ่ายบริหาร สะสางปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทำเนียบรัฐบาล และนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในฐานะประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ ได้สะสาง ปัดกวาดพวกเหลือบการเมืองที่เข้ามาใช้รัฐสภาเป็นสถานที่หาประโยชน์ ให้เสร็จสิ้นและหมดไปโดยเร็วที่สุด และอยากให้รัฐบาลได้ปลูกฝังค่านิยม ไม่ไหว้คนโกง ไม่นับถือหรือเคารพคนเลว เป็นค่านิยมให้เกิดขึ้นในสังคม ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ ขอให้มีความจริงจัง ยึดแนวความคิดของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ.-319-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ราคาไข่ไก่พุ่งไม่หยุด เจ้าของร้านขนมไทยโอด ต้นทุนสูง กำไรลด

พุ่งไม่หยุด! ไข่ไก่ปรับขึ้นอีก ถือเป็นการปรับราคาครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน กระทบการค้าที่ใช้ไข่ไก่เป็นวัตถุดิบ เจ้าของร้านขายขนมไทย โอดต้นทุนสูง กำไรลด กำลังซื้อหดหาย แทบอยู่ไม่ได้

นายกฯ สวมเสื้อศรีโคตรบูร สักการะพญาศรีสัตตนาคราช

นายกฯ สวมเสื้อศรีโคตรบูร เผยอาการป่วยดีขึ้นแล้ว ก่อนสักการะพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมจุดเรือไฟบก ผลักดันสู่ประเพณีไหลเรือไฟโลก ด้านประชาชนตะโกน ขอบคุณที่มานครพนม

ครบ 1 เดือน ตึก สตง.ถล่ม ทุกร่างต้องได้กลับบ้าน

บรรดาญาติๆ ของแรงงานอาคาร สตง.พังถล่มขณะก่อสร้าง ยังคงเฝ้ารอร่างลูกหลานกลับบ้าน แม้วันนี้คงไม่มีปาฏิหาริย์แล้ว ตลอด 30 วันที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนพยายามทุ่มเท หวังลบเลือนฝันร้ายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์

นายกฯ ไข้กลับอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว

นายกฯ ไข้กลับ มีอาการอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวทั้งวัน ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุมแก้ปัญหายาเสพติดข้ามแดน บอก ราคายาเสพติดแพงขึ้น สะท้อนผลการปราบปราม เน้นย้ำ ให้ความรู้ – โทษ แก่เด็ก และเยาวชน พร้อมให้โอกาสผู้เสพกลับคืนสังคม