วงเสวนา “ส่อง สว.ใหม่ฯ” เห็นพ้อง กกต.ประกาศรับรองผลก่อนแล้วสอยทีหลัง

กทม. 6 ก.ค. – วงเสวนา “ส่อง สว.ใหม่ ความหวังหรือวิกฤติครั้งใหม่” เห็นพ้อง กกต. ประกาศรับรองผลก่อนแล้วสอยทีหลัง หวั่นยืดอายุ สว.เก่า ชี้ 8 ก.ค. ไม่ควรนัดประชุมวุฒิสภา เชื่อ สว.ใหม่ แม้หน้าตาไม่ดีแต่มีความหวัง ชี้อาจแก้ รธน. เปลี่ยนระบบเลือกใหม่ ด้าน “นันทนา” เจ็บจี๊ด สว.สีน้ำเงินเพียบ มองนิยามศึก “โหดเหี้ยม หักหลัง ฮั้ว” นัดคุย 30 ว่าที่ สว. อุดมการณ์ตรงกันวันนี้ เล็งเสนอเลือกองค์กรอิสระ ให้แสดงวิสัยทัศน์แบบประกวดนางงาม


สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมราชดำเนินเสวนา หัวข้อ “ส่อง สว.ใหม่ ความหวังหรือวิกฤติครั้งใหม่” โดยมีนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง, นางนันทนา นันทวโรภาส ว่าที่สมาชิกวุฒิสภา และนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล ว่าที่สมาชิกวุฒิสภา พูดคุยแลกเปลี่ยน หลังการเลือก สว. ผ่านพ้นไปกว่า 10 วัน แต่ กกต. ยังไม่ประกาศผล

นายปริญญา กล่าวว่า ระบบการเลือก สว. ครั้งนี้ซับซ้อนที่สุด แต่บรรลุผลในการได้ผู้แทนปวงชนชาวไทยน้อยที่สุด ไม่บาลานซ์จังหวัด จังหวัดบุรีรัมย์ได้ สว. มากที่สุด 14 คน จึงไม่สะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริง เชื่อว่ามีการจัดตั้งซึ่งระบบนี้สุดท้ายแล้วใครจัดตั้งได้มากที่สุดก็ได้เปรียบ ซึ่ง สว. ไม่ได้มีเพียงอำนาจกลั่นกรองกฎหมาย แต่จะต้องเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระด้วย จึงเป็นแรงจูงใจให้เครือข่ายบ้านใหญ่เข้ามา เมื่อการเลือกไม่เที่ยงธรรมมีเครือข่ายบ้านใหญ่ จึงต้องดูว่า กกต. จะกล้าประกาศผลหรือไม่ แต่หากไม่ประกาศก็เท่ากับว่าจะเป็นการต่ออายุให้กับ สว.ชุดปัจจุบันได้อยู่ต่อ


นายปริญญา ยังระบุถึงประเด็นปัญหาในขณะนี้ว่า กกต. สามารถประกาศผลการเลือก สว. ก่อนและสอยทีหลังได้หรือไม่ หรือต้องรอให้ครบ 200 คนทีเดียว เนื่องจากกฎหมายไม่ได้เขียนไว้ว่าให้ประกาศได้ร้อยละ 95 เหมือน สส. และยังมีข้อถกเถียงอีกว่าบัญชีสำรอง สว. 100 คน จะสามารถเลื่อนขึ้นมาทดแทนส่วนที่ขาดไปได้เลยหรือไม่ แต่สิ่งที่ไม่ชัดเจนคือ กกต. ไม่สื่อสาร และเงียบหายไปเลย ควรประกาศว่า กกต. จะต้องใช้เวลากี่วันในการดำเนินการ

ส่วนกระแสข่าว สว.สีน้ำเงิน มีจริงหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า เป็นการคาดการณ์และสันนิษฐานกับความเกี่ยวข้องของเครือข่าย แต่ไม่อยากให้สรุปว่า สว.ชุดนี้ใช้ไม่ได้ และต้องเลือกกันใหม่ ทั้งนี้ สว.ชุดใหม่ ถือเป็นความหวัง เพราะมีที่มาหลากหลาย แม้จะมีข้อครหา แต่ กกต. ควรจะเร่งประกาศรับรองผล เพราะหากต้องรอให้บริสุทธิ์ผุดผ่องทุกคนอาจต้องรอข้ามปี จะยิ่งเป็นการลากยาวให้กับ สว.ชุดปัจจุบัน ขณะที่ระยะเวลาอันใกล้นี้จะมีการเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 2 คน จึงอาจถูกมองได้ว่าลากยาวเพื่อเหตุนี้ ส่วนการนัดประชุม สว. วันที่ 8 ก.ค.นี้ ต้องถามว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่

นายปริญญาทิ้งท้ายว่าการเลือก สว. ระบบนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย น่าจะมีการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกัน


นางนันทนา กล่าวว่า ส่วนตัวถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้เป็นสื่อ แต่อาชีพแรกคือสื่อ และทราบว่าเป็นอาชีพที่เงินน้อย มีเกียรติมีศักดิ์ศรี มีกิน แต่ไม่มีใช้ ยืนยันจะไปผลักดันเรื่องนี้ให้เพราะรายได้ของสื่อต่ำต้อย แต่ต้องรอให้ กกต. รับรองก่อน ขณะที่เห็นด้วยอย่างยิ่งให้ กกต. ประกาศรับรองไปก่อนค่อยสอยทีหลัง เพราะ สว.เก่า ดันมาขยันตอนนี้ นัดประชุมตรวจสอบ สว.ใหม่ ทั้งที่บทบาท ภาระหน้าที่ของ สว. คือกลั่นกรองกฎหมาย และหากเข้าไปได้อาจจะไปตรวจสอบ สว.เก่าด้วย เห็นว่า สว.เก่า ควรยุติบทบาทได้แล้วโดยมารยาท แม้ กกต. ยังไม่ประกาศรับรอง

นางนันทนา ยังระบุถึงการเลือก สว. ครั้งนี้ว่าเป็นแบบ “โหดเหี้ยม หักหลัง และฮั้ว” ต้องฝ่าด่านไปรับรางวัลให้ได้ ซึ่งโหดเหี้ยม คือการดำเนินการกำจัดจุดแข็งของผู้สมัครที่โปรไฟล์ดีมีชื่อเสียงออกไปก่อนตั้งแต่รอบเลือกกันเอง เป็นเหตุให้เห็นได้ว่าผู้สมัคร สว.ชื่อดังจะตกรอบ ส่วนหักหลังคือการเลือก รอบแรกต้องจับมือกัน แต่รอบต่อไปต้องใช้วิธีการหลอกให้เลือก เกิดการหักหลังและชี้หน้าด่ากันกลางวง สุดท้ายคือฮั้ว เพราะเห็นคะแนนที่ออกมา มีกลุ่มหนึ่งที่ได้คะแนนโดดเรียงกันเป็นแถวจำนวนมาก

นางนันทนา ระบุว่า ได้พยายามรวมกลุ่ม สว. ที่มีอุดมการณ์ร่วมกันประมาณ 30 คน นัดพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนกันวันนี้เป็นการภายใน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า สว.สายสีน้ำเงิน เข้ามามากที่สุดนั้น ถือเป็นเรื่องเจ็บจี๊ดและมีจริง

ขณะที่ สว.ใหม่จะเป็นความหวังหรือวิกฤตคิรั้งใหม่นั้น นางนันทนา ระบุว่า ถึงแม้ว่า สว.ชุดนี้ จะหน้าตาไม่สะสวย แต่ไม่ได้มีที่มาจากอันเดียวกันทั้งหมด การโหวตอะไรจะไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงไม่ใช่จะหมดหวัง สว.พันธุ์ใหม่จะต้องสื่อสารกับประชาชน สว.ชุดใหม่ โปร่งใส สื่อสาร รับใช้ประชาชน พร้อมจะเสนอให้วาระการเลือกองค์กรอิสระ มีการแสดงวิสัยทัศน์แบบการประกวดนางงาม และมีการถ่ายทอดสดการประชุมวุฒิสภา เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูล ไม่ใช่งุบงิบเลือกกันเอง

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. กล่าวว่า กรธ. ออกแบบการเลือกตั้ง สว.ครั้งนี้ เพื่อให้ปราศจากการแทรกแซงของกลุ่มทุน จึงให้ 20 กลุ่มอาชีพ และให้มีกระบวนการในการเลือกแบบทั้งเลือกกันเองและเลือกไขว้ เพื่อไม่ให้เกิดการฮั้วเกิดขึ้น แต่วันนี้เราได้คำตอบแล้วว่าเราได้สิ่งเหล่านี้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด และความเป็นตัวแทนกลุ่มอาชีพมีความหละหลวม​ ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นในชั้นของรัฐธรรมนูญ แต่มันเกิดจากระเบียบที่ให้เกิดการปรับปรุงอาชีพให้รับรองกันได้ ทำให้การลงสมัครเป็นไปตามผู้สมัคร และคนที่บงการว่าจะไปอยู่ตรงไหน มากกว่าพื้นเพ​ความรู้ความสามารถและความถนัดของแต่ละคน

นายสมชัย กล่าวต่อว่า สว.ชุดนี้ ถูกแทรกแซงจากฝากการเมืองชัดเจน ไม่มีความความเป็นกลาง สังเกตได้ตั้งแต่การเลือกกันในระดับอำเภอ เราเล็งเห็นว่าสมัครเข้าไปโดยไม่ได้อยากเป็น สว. แต่สมัครเข้าไปเปลี่ยนมอเตอร์ โดยได้ค่ารับจ้างประมาณ 2,500 บาท ซึ่งชาวบ้านมองว่าคุ้มกับการทำงาน 1 วัน โดยเลือกให้ผ่านกันไปในรอบแรก จากนั้นอยากให้ กกต. ไปตรวจสอบว่าเลือกรอบ 2 ส่งกระดาษเปล่ากันจำนวนมาก ทำให้เกิดบัตรเสียมหาศาล เพราะคนจ้างบอกแค่ว่า “ให้มาเลือกแค่รอบแรก” พอมาถึงระดับประเทศจะมีโพยสำเร็จรูปให้ครบทั้ง 20 กลุ่มเลย โดยไม่ว่าจะได้กลุ่มไหนก็จะมีโพยให้ โดยจำนวนหนึ่งเป็นชื่อของคนที่เขาอยากได้จริงๆ แต่โพยบางส่วนมาจากการตกลงและเรียกรับผลประโยชน์ ประมาณว่าถ้าอยากให้เราหนุนก็จ่ายมา เพื่อนำรายได้ตรงนี้มาใช้จ่าย ทำให้เห็นภาพของคะแนนที่ออกมา เป็นกลุ่มก้อนคะแนนสูง ที่เลือกเป็นชุดเหมือนๆ กัน

นายสมชัย ชี้ว่า อนาคต สว. ยังมีความหวัง แต่อนาคตทางการเมืองไทยถือว่าวิกฤติ ซึ้ง สว.ใหม่ ยังมีความหวัง ไม่ได้หน้าตาดีทั้งหมด แต่หน้าตาดีก็มีเยอะ อย่าเพิ่งคิดว่าเขาทำงานไม่ได้ มีที่มาไม่ชอบมาพากล ต้องยอมรับถึงผลและกติกาที่เกิดขึ้น ซึ่งก็หาทางแก้ไขต่อไปในอนาคต และมองว่าการนัดประชุมวุฒิสภา 8 ก.ค.นี้ จะมาขยันอะไร ตั้งคำถามว่าการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษา ตรวจสอบ การเลือก สว.67

นายไชยยงค์ กล่าวว่า การเลือก สว. ในครั้งนี้พบว่าผู้สมัครมีการศึกษากฎหมายและเตรียมตัวมากพอสมควร โดยมีการพิจารณาว่าจะสมัครกลุ่มใดแล้วจะมีโอกาสในการรับเลือก เช่น ในกลุ่ม 18 สายสื่อมวลชน จะพบว่าคนจัดรายการวิทยุ คนประกาศเสียงตามสาย หมู่บ้าน ในระดับจังหวัด โดนจับเลือกไปสมัครที่อำเภอที่มีผู้สมัครน้อย เพราะกลุ่มนี้ไม่ได้มีคนสมัครทุกอำเภอ ส่งผลให้ผู้สมัครสามารถผ่านเข้ารอบ 2 ได้ทันที ซึ่งเป็นวิธีการของคนที่ไม่ได้มาจากฝ่ายการเมือง เป็นวิธีคิดแบบศรีธนญชัย ซึ่งส่วนตัวสังเกตเห็นว่าคนที่ผ่านเข้ารอบเป็นคนที่ทำความรู้จักมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น มีการศึกษากฎหมายและระบบการเลือกจึงได้ผ่านเข้ามาได้ แม้ สว. จะมีบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ยังมองว่ามีความหวัง เพราะจากการตรวจสอบ 200 รายชื่อ จะมีคนไม่ตรงปกอยู่ประมาณ 20 คน ก็ถือเป็นส่วนน้อย เพราะส่วนตัวมองว่าการได้ สว. ที่เป็นตัวแทนจากกลุ่มอาชีพถือเป็นเรื่องที่ดีเป็นความหวังของประเทศได้ ไม่ใช่แค่เพียงเป็นคนที่มีความรู้เท่านั้น จะเห็นได้ว่าสว.ชุดปัจจุบันเป็นคนที่มีโปรไฟล์ดี แต่ก็ไม่เคยออกมาพูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไร ดังนั้น คนทุกคนเท่ากัน สว.ชุดใหม่ ไม่น่าจะเลวร้ายเหมือนที่หลายคนกลัว

นายไชยยงค์ ยังเห็นว่าประเทศไทยยังไม่สามารถที่จะฝากการแก้วิกฤติไว้กับการมี สว. ครั้งนี้ได้ แต่ สว.ชุดนี้อาจจะไปทำให้สามารถที่จะขับเคลื่อน แก้ปัญหาบางสิ่งบางอย่าง ให้ดีกว่าที่ผ่านมา และเห็นว่าจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหากมีช่องทาง ซึ่งส่วนตัวมีจุดยืนสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]

นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู”

สภาหอการค้าฯ 18 ก.ย.-นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ต้องผลักดันเต็มที่ พร้อมแก้ไขปัญหาภาคเอกชนสู่นโยบายรัฐบาล ยันทำทุกทางให้ไทยเป็นคู่ค้าที่ได้เปรียบ ไม่ปิดกั้นนโยบายคนอื่น ขอให้วินวินทุกฝ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือกับสภาหอการค้าไทยว่า ตนและทีมงานได้มาพบกับทางคณะกรรมการสภาหอการค้าไทย เหมือนกับวันที่เราไปเยี่ยมที่สภาอุตสาหกรรม เราพยายามที่จะไปพบกับภาคเอกชนก่อนที่จะเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุนหรือแก้ไข จะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อเวลาเข้าไปทำงานจะได้ดำเนินการให้ทุกอย่าง ขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว มาพบกับคณะผู้บริหารสภาหอการค้าไทย ถือว่าเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ เรารับฟังข้อเสนอแนะข้อกังวล สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลได้ดำเนินการ เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัว ทั้งด้านการเงิน ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน การส่งออก แรงงาน และโอกาสต่างๆ สำหรับประเทศไทยในอนาคต ได้มีการหารือลงในรายละเอียดมากพอสมควร และจะต้องมีการพบกันเป็นประเด็นไปหากมีความจำเป็น แต่ในภาพรวมจะหาโอกาสมาหารือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถามว่า หารือแล้วได้จัดเตรียมมาตรการความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายอนุทิน เผยว่า รับฟังปัญหาต่างๆ เรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการ แรงงาน ภาษี ขนส่งต่างๆ เราพยายามที่จะทะลายข้อจำกัดที่มีอยู่ ไม่จำเป็นไม่ปิดกั้นโอกาส ส่วนรายละเอียด ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำสิ่งเหล่านี้ไปหาทางทำให้คล่องตัวขึ้น […]

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]