“โรม” มองไม่เป็นผลดี “ทักษิณ” บทบาทการเมืองมากไป

รัฐสภา 4 ก.ค.- “โรม” มอง “ทักษิณ” มีบทบาทมากไป ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล “เศรษฐา” จะถูกตั้งคำถามเรื่องภาวะผู้นำ ใครคือนายกฯ ตัวจริงกันแน่ เชื่อ “เสรีพิศุทธ์” ถอนฟ้องไม่ได้ เพราะเป็นคดีอาญา หลังปูด 2 อดีตนายกฯ ขอร้อง


นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า สาเหตุที่ไปถอนฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตามความผิด ม.157 กรณีเสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพราะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาขอร้อง ว่า เข้าใจมาโดยตลอด ว่า นายทักษิณกลับมาประเทศไทยเพื่อเลี้ยงหลาน แต่ดูเหมือนว่าบทบาทของนายทักษิณในทางการการเมืองจะเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ จึงคิดว่าการที่นายทักษิณ มีบทบาท โดยเฉพาะในรัฐบาลนี้มากขึ้น รวมไปถึงอาจจะเรียกได้ว่า เป็นคนที่คอยปัดเป่าสิ่งต่างๆ ให้พ้นไปจากนายเศรษฐา จึงคิดว่าบทบาทของนายทักษิณแบบนี้ ทำให้เกิดข้อครหา ที่สำคัญว่า ตกลงแล้วมีผลต่อรัฐบาลนี้หรือไม่ ซึ่งนายทักษิณมีอิทธิพลต่อรัฐบาลนี้ ก็จะเกิดการตั้งคำถามว่า สภาวะการเป็นผู้นำของนายเศรษฐามีอยู่อย่างไร จะเกิดคำถามว่า ประเทศนี้ ใครกันแน่ ที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง พร้อมมองว่าสภาพการเมืองแบบนี้ เป็นสภาพการเมืองที่ไม่ดี จะทำลายความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ ว่าเมื่อนายเศรษฐาประกาศหรือพูดในเรื่องใด เราควรจะเชื่อนายเศรษฐา หรือไม่ หรือควรจะไปถามซ้ำกับนายทักษิณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การเมืองที่เราอยากเห็น การเมืองแบบนี้ควรเปลี่ยนผ่านได้แล้ว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้านายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วมันมีปัญหาข้อกฎหมายในเรื่องของการที่จะต้องพิสูจน์กัน ไม่ว่าจะในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือศาล ตนเชื่อว่านักการเมืองหลายคนรวมถึงตัวเอง ก็จะโดนข้อกล่าวหาต่างๆ มากมาย แต่แน่นอนว่า เราไม่ได้วิธีการล็อบบี้อะไร ถึงที่สุดถ้าต้องพิสูจน์ในข้อกฎหมาย ก็ต้องพิสูจน์ เข้าใจว่ากรณีนี้ เป็นคดีอาญา และเข้าใจว่า พล.ต.อเสรีพิศุทธ์ คงไม่สามารถถอนฟ้องได้ เพราะถ้าเรื่องนี้ผิดจริงก็ต้องว่าไปตามผิด


ส่วนกรณีที่อาจจะต้องให้นายทักษิณไปวิ่งเต้น ป.ป.ช.เองนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ยิ่งเสียหาย การไปวิ่งเต้นกับ ป.ป.ช. ในทางกฎหมาย โดยทั่วไป ไม่ควรจะมีใครทำได้อยู่แล้ว เพราะจะเท่ากับว่า องค์กรอิสระก็จะไม่อิสระในการทำหน้าที่ และการใช้กฎหมายต่างๆ ก็จะหลายมาตรฐาน หลักกฎหมายและความถูกต้อง ก็จะไม่มีอยู่จริง

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตราย มากไปกว่านั้นจริงๆ นายทักษิณก็ไม่ได้มีสถานะอะไรในรัฐบาลนี้ การที่นายทักษิณพยายามมามีบทบาทแบบนี้ ก็ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล เดี๋ยวก็จะมีคนไปร้องนู่นร้องนี่อีก ซึ่งก็จะเป็นปัญหาที่ไม่จบ ผมไม่อยากให้คุณทักษิณมีบทบาทแบบนี้เลย เพราะภาพรวมทางการเมืองจะทำลายในเรื่องความเป็นผู้นำของคุณเศรษฐาอย่างมาก”

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่า ไม่สนับสนุนการใช้นิติสงคราม เพราะเชื่อว่าพรรคการเมืองจะขึ้นมามีอำนาจได้ ก็ด้วยการสนับสนุนของประชาชน พรรคการเมืองจะดับไป ก็ด้วยการที่ประชาชนไม่สนับสนุน เรื่องนิติสงคราม ไม่ควรจะถูกใช้ ถ้าเป็นเรื่องทางกฎหมาย ก็ควรจะว่ากันด้วยพยานหลักฐานตามความถูกผิดจริงๆ เช่น เรื่องที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน หรือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เรื่องเหล่านี้ ก็ต้องมีกฎหมายเข้ามาดูแล แต่ถ้าเป็นนิติสงคราม ใช้ในการกลั่นแกล้งกัน เราไม่สนับสนุน แต่ก็ต้องไปพิสูจน์กันว่า เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติหรือไม่ เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ให้อำนาจกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์กันต่อไป.-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฝากขังทิดแย้ม

ฝากขัง-ค้านประกัน “ทิดแย้ม” และพวก ยักยอกเงินวัดไร่ขิง

17 พ.ค.- ตำรวจควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พร้อมพวกอีก 2 คน ไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว คดียักยอกเงินวัดเล่นพนันออนไลน์ เมื่อเวลา 10.39 น. พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” และหญิงคนสนิทออกจากห้องควบคุม ขึ้นรถตู้ นำตัวไปฝากขัง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย่านตลิ่งชัน โดยทั้ง 2 มีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ตอบคำถามและให้สัมภาษณ์ใดๆ เมื่อทางผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเงินจำนวนดังกล่าวนั้นได้นำไปเล่นการพนันหรือไม่ และเงินจำนวนทั้งหมดเป็นเงินของวัดหรือไม่ “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ยกมือแสดงสัญลักษณ์ปฏิเสธไม่ขอพูด และไม่ขอตอบคำถามใดๆ พร้อมกับเดินอย่างสงบนิ่งขึ้นรถตู้ออกจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะที่การสอบปากคำทั้งคู่ ยังคงให้การภาคเสธ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้คัดค้านการประกันตัว ทั้ง 2 เนื่องจากเป็นคดีเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำการทุจริต มูลค่าความเสียหาย จำนวนมาก อีกทั้งหากได้รับการประกันตัวหวั่นผู้ต้องหายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและหลบหนีคดี ซึ่งยากต่อการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีในภายหลัง อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ทนายความพร้อมกับลูกศิษย์ เตรียมคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ยื่นขอประกันตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” เช่นเดียวกับหญิงคนสนิททางญาติก็เตรียมคำร้องพร้อมกับหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวเช่นเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย

‘ยุน ซ็อก-ยอล’ อดีต ปธน.เกาหลีใต้ ลาออกจากพรรคพีพีพี

โซล 17 พ.ค. – นายยุน ซ็อก-ยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งกล่าววันนี้ว่า เขากำลังจะลาออกจากพรรคพลังประชาชน หรือ พีพีพี ที่มีแนวนโยบายอนุรักษ์นิยม นายยุน ซึ่งประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปี่ที่แล้ว และต่อมาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ได้รับเสียงเรียกร้องจากสมาชิกพรรคพีพีพีให้เขาลาออกจากตำแหน่งเพื่อเรียกเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมจากกลุ่มผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่มีแนวนิยมสายกลาง ซึ่งไม่มองการกระทำของของนายยุนออกไปในเชิงลบ นายยุน โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า เขาขอแสดงความขอบคุณต่อสมาชิกพรรคและเพื่อนร่วมงานที่ไว้วางใจและสนับสนุนเขา แม้ว่าเขาจะมีข้อบกพร่อง แต่โปรดสนับสนุนนายคิม มุน-ซู ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคพลังประชาชน การประกาศลาออกจากพรรคของนายยุน เกิดขึ้นในขณะที่นายคิมมีคะแนนตามหลังนายอี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคเสรีประชาธิปไตยอย่างมาก จากผลสำรวจความคิดเห็นของกัลลัปเกาหลี ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มิถุนายนนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

คุมฝากขัง “เอกพจน์” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

17 พ.ค.- ตำรวจไซเบอร์คุมตัว “เอกพจน์” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ไปขออำนาจศาลอาญารัชดา ฝากขัง พร้อมบอกตอนนี้ตัวใครตัวมัน เมื่อเวลา 08.45 น. พนักงานสอบสวน ตำรวจไซเบอร์ สอท.3 เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เบิกตัวนายเอกพจน์ หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ พระคนสนิท อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 604/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค.68 ข้อหา “พ.ร.บ.การพนันร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออีเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐามผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขัง ทั้งนี้ ระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถ นายเอกพจน์ เปิดเผยว่า อดีตเจ้าวาสวัดไร่ขิงหรือทิดแย้มให้กดเงินและโอนเงินให้กับนางสาวธัญญวัฒน์ จริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร โดยโอนให้หลายครั้ง แต่ละครั้งก็หลักล้าน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าตอนนี้ยังนับถืออดีตเจ้าคุณแย้มหรือไม่ หรือไม่ นายเอกพจน์ตอบว่าตอนนี้ตัวใครตัวมัน ก่อนจะขึ้นรถควบคุมตัวไปที่ศาลอาญารัชดา .-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 17 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคของไทยมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย