“ชาดา” ตอบกระทู้ปมแก้ กม.ต่างชาติเช่าที่ 99 ปี-ถือครองคอนโดฯ

รัฐสภา 4 ก.ค.- “ชาดา” ตอบกระทู้ระบุการทบทวนหลักเกณฑ์ให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี – ถือครองคอนโด 75% อยู่ระหว่างการศึกษา ยัน ไม่ขายชาติ


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (4 ก.ค.) มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสด ที่นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สดถามนายกรัฐมนตรี

นายศุภณัฐ ถามกระทู้เกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่เห็นชอบตามที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีเสนอขอให้กระทรวงมหาดไทย ทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายให้สิทธิต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด จากเดิมไม่เกิน 49% เป็นไม่เกิน 75% เปิดกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิเช่าได้ไม่เกิน 99 ปี เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าเหตุใดจึงรีบร้อนจะแก้กฎหมายเร่งด่วนเช่นนี้ ในขณะที่ต่างชาติถือครองคอนโด 16% และเห็นว่าเมื่อชาวต่างชาติเข้ามาซื้อ หรือเช่าอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ จะทำให้บ้านมีราคาสูงขึ้น ยิ่งทำให้คนไทยไม่สามารถซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้ และชาวต่างชาติที่เข้ามาเช่า ก็มีสิทธิ์เช่นเดียวกับ เป็นเจ้าของที่ดิน 99 ปี โดยสามารถ ส่งเป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานได้ด้วย


นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่า การกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาตอบกระทู้แทน ชี้แจงว่าตนไม่ได้อยู่ในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติในเรื่องนี้ แต่เมื่อกลับมาก็ได้ศึกษาและได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ไปศึกษาผลได้ผลเสีย ผลกระทบ ซึ่งกรณีทรัพย์อิงสิทธิ์ที่จะเป็น 99 ปี เป็นการจัดการของเจ้าของที่ที่ไม่อยากจะขาย เป็นการให้เข้าไปปรับปรุง ซึ่งกรณีกฎหมายนี้ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องการเช่าเหมือนเกาะฮ่องกง และต้องยอมรับว่ากฎหมายที่จะให้ต่างชาติที่เป็นแหล่งเงินทุนเข้ามาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะตายตัวไม่ได้ ต้องมีการปรับปรุงและแก้ไข เพราะในภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างหนึ่ง เราก็อาจไม่ต้องการเงินทุนจากต่างชาติ แต่ในสภาพเศรษฐกิจอีกอย่างหนึ่งเราก็ต้องการเงินทุนจากต่างชาติ ปัญหาคือการที่ ราจะให้ต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทย ก็ต้องดูว่าเป็นแหล่งเงินทุนของต่างชาติไม่ได้เข้ามาครอบครอง หรือยึดในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งขอเรียนว่าคนไทยก็กลัวกฎหมายแบบนี้ เกรงว่าคนต่างชาติมาครอบงำประเทศไทย แต่ในภาวะหนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าถ้าเราอยากกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องปรับปรุงเรื่องข้อกฎหมาย แต่เรื่องนี้ในนายกรัฐมนตรีให้ศึกษาไม่ได้ให้ทำเลย และวันนี้กรมที่ดินก็กำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ทั้งนี้เรื่องให้ต่างชาติถือครองคอนโดมากกว่า 49% เคยมีมาแล้ว 5 ปีแล้วยกเลิกไป แต่อย่างไรก็ตามขอย้ำว่ายังไม่ได้มีการดำเนินการ

“เป็นการสั่งให้ไปดำเนินการศึกษายังไม่มีอะไรกระทรวงมหาดไทยกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ แต่ผลยังไม่ออกมา และต้องศึกษาในแง่ของเศรษฐกิจ ในแง่ของกฎหมายหลายอย่าง และผมยังคุยกับกรมที่ดินว่าต้องชัดเจน เพราะจะออกเป็นนโยบายหรือจะแก้กฎหมายต้องชัดเจนตอบได้ว่าเหตุผลอะไรดีอย่างไร จึงจะให้เพิ่มมา ถือครองได้ 75% ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ซึ่งต้องศึกษาถึงขั้นขนาดว่าเขาจะครอบครอง ประเภทไหนมากกว่า” นายชาดา กล่าว

นายชาดา ย้ำว่าขออย่ามองว่าจะแก้ไขกฎหมายช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะการแก้ไขกฎหมายใดๆก็ต้องมีการศึกษาและเมื่อเสนอเข้ามาก็ต้องนำเข้าสู่สภา และอยากให้มองเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจกับต่างชาติได้ผลประโยชน์ ซึ่งเราคนไทยไม่อยากให้ใครมาครอบครองแผ่นดินของเราแน่นอน ในความเป็นคนไทยแต่ในบางเรื่อง ถ้าเป็นเรื่องของธุรกิจไม่ใช่กลุ่มใหญ่มากนัก ก็ต้องมาคิดกันดูและวิเคราะห์ ซึ่งตนก็ไม่ยอมให้ชาติไหนมาครอบครองประเทศไทย แล้วเดินกร่างไปทั่ว โดยที่คนไทยไม่มีสิทธิ์เข้าไป ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องมาศึกษาในแง่ของเศรษฐกิจว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เราจะทำอย่างไร และวันนี้โลกก็โลกาภิวัฒน์ การเคลื่อนที่ของกลุ่มทุนนั้นมาไวไปไว ทุกคนก็หาประโยชน์จากเงินทุนของต่างชาติเหมือนกัน และในเรื่องของเศรษฐกิจ ต้องทำ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะยกที่ดินให้ใคร และตนก็คงไม่ยอม ใครก็คงสั่งตนไม่ได้ แต่ก็ต้องเอามาดู เพราะหลังจากที่นายกรัฐมนตรีบอกให้แก้กฎหมายก็มีหลายเรื่องอย่างเช่น เรื่องการแก้พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน ที่พรรคก้าวไกลเสนอมา ตนก็ยังให้มีการศึกษา ตรงนี้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจว่าเราจะเล่นอย่างไร แต่ไม่ใช่เรื่องของการขายชาติเราคง ไม่ยอมแน่นอน แต่ต้องหาเหตุผลที่ดีว่าเหมาะสมหรือไม่กับเวลานี้และสมควรทำหรือไม่ ก็ต้องมาว่ากันอีกที และเชื่อว่าถ้าเป็นผลเสียมากกว่า หากเสนอกลับไปในคณะรัฐมนตรีก็คงไม่ฟื้นแต่ตอนนี้เป็นคำสั่งที่ว่าให้ไปแก้กฎหมายเหมือนไปศึกษาวิเคราะห์ดูว่าต้องทำอะไรอย่างไร


“ขอให้สบายใจได้และเรื่องนี้ต้องชี้แจงกับประชาชน นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้เป็นเจ้าของแผ่นดิน ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาบริหารบ้านเมือง แผ่นดินนี้เป็นของคนไทยทุกคน จะทำอะไรต้องถามประชาชนก่อน แต่แนวคิดคนที่เป็นนักบริหารก็ต้องมีแนวคิด มีไอเดียเป็นสิ่งที่ไม่ใช่นั่งอยู่เฉยๆไม่คิดอะไรเลยก็คงไม่ได้ ต้องให้ธุรกิจนำพาประเทศไปในทางที่ถูกที่ควรดังนั้นขอท่านไม่ต้องห่วงและขอให้แยกกัน และต้องมีวิธีคิดเรื่องเศรษฐกิจกับเรื่องของความมั่นคงของชาติและเรื่องของผลประโยชน์แผ่นดินไทยการดูแลประเทศมีหลากหลายมิติ”นายชาดา กล่าว

นายศุภณัฐ ยังถามต่อว่าหลังรัฐบาลเข้ามาทำงาน 3 เดือนนายกรัฐมนตรีให้ออกมาตรการ ช่วยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 7 มาตรการโดยบอกว่าจะทำให้ มียอดการขายคอนโดมหาศาลและจะมีการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น หลายแสนล้าน ถ้าดีจริงแล้วเหตุใดต้องมาปรับแก้กฎหมายให้สิทธิ์ต่างชาติเช่นนี้อีก พร้อมระบุการกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้ แต่ต้องไม่ทำให้ประเทศเสียหายและไม่ต้องทำให้ประเทศได้รับความเสี่ยง และอยากทราบว่า 7 มาตรการที่รัฐบาลออกมานั้น ผ่านมา 1 ปีแล้ว คนไทยได้รับผลดีอย่างไร

นายชาดา ชี้แจงโดยยืนยันอีกครั้งว่าทั้งหมดอยู่ระหว่างการศึกษา และ 7 มาตรการในการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์รัฐบาลก็ดำเนินการอยู่ การแก้ไขปัญหาต่างๆคงไม่ ได้ทำเพียงแนวทางเดียว แต่ในการบริหารประเทศจะต้องมีโครงการต่างๆออกมา ไม่ใช่ “ร้องเพลงเดียวตลอด” ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ก็ต้องคิดและหาทางหลังจากได้รับทราบปัญหาต่างๆก็พยายามหาแนวทางแก้ไข แต่การจะทำในเรื่องนี้ขอย้ำว่ากรมที่ดินก็ต้องทำอย่างละเอียด ชี้แจงกับประชาชนได้ โดยกฎหมายก่อนจะออกมาก็ต้องมีการทำประชาพิจารณ์และยังมีรายละเอียดอื่นๆทั้งเรื่องค่าธรรมเนียมต่างๆ ด้วย .-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 26 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 7 จังหวัดรับมือ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “ก๋อมัย” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย.- สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]