“ชาดา” ตอบกระทู้ปมแก้ กม.ต่างชาติเช่าที่ 99 ปี-ถือครองคอนโดฯ

รัฐสภา 4 ก.ค.- “ชาดา” ตอบกระทู้ระบุการทบทวนหลักเกณฑ์ให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี – ถือครองคอนโด 75% อยู่ระหว่างการศึกษา ยัน ไม่ขายชาติ


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (4 ก.ค.) มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสด ที่นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สดถามนายกรัฐมนตรี

นายศุภณัฐ ถามกระทู้เกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่เห็นชอบตามที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีเสนอขอให้กระทรวงมหาดไทย ทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายให้สิทธิต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด จากเดิมไม่เกิน 49% เป็นไม่เกิน 75% เปิดกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิเช่าได้ไม่เกิน 99 ปี เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าเหตุใดจึงรีบร้อนจะแก้กฎหมายเร่งด่วนเช่นนี้ ในขณะที่ต่างชาติถือครองคอนโด 16% และเห็นว่าเมื่อชาวต่างชาติเข้ามาซื้อ หรือเช่าอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ จะทำให้บ้านมีราคาสูงขึ้น ยิ่งทำให้คนไทยไม่สามารถซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้ และชาวต่างชาติที่เข้ามาเช่า ก็มีสิทธิ์เช่นเดียวกับ เป็นเจ้าของที่ดิน 99 ปี โดยสามารถ ส่งเป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานได้ด้วย


นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่า การกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาตอบกระทู้แทน ชี้แจงว่าตนไม่ได้อยู่ในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติในเรื่องนี้ แต่เมื่อกลับมาก็ได้ศึกษาและได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ไปศึกษาผลได้ผลเสีย ผลกระทบ ซึ่งกรณีทรัพย์อิงสิทธิ์ที่จะเป็น 99 ปี เป็นการจัดการของเจ้าของที่ที่ไม่อยากจะขาย เป็นการให้เข้าไปปรับปรุง ซึ่งกรณีกฎหมายนี้ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องการเช่าเหมือนเกาะฮ่องกง และต้องยอมรับว่ากฎหมายที่จะให้ต่างชาติที่เป็นแหล่งเงินทุนเข้ามาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะตายตัวไม่ได้ ต้องมีการปรับปรุงและแก้ไข เพราะในภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างหนึ่ง เราก็อาจไม่ต้องการเงินทุนจากต่างชาติ แต่ในสภาพเศรษฐกิจอีกอย่างหนึ่งเราก็ต้องการเงินทุนจากต่างชาติ ปัญหาคือการที่ ราจะให้ต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทย ก็ต้องดูว่าเป็นแหล่งเงินทุนของต่างชาติไม่ได้เข้ามาครอบครอง หรือยึดในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งขอเรียนว่าคนไทยก็กลัวกฎหมายแบบนี้ เกรงว่าคนต่างชาติมาครอบงำประเทศไทย แต่ในภาวะหนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าถ้าเราอยากกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องปรับปรุงเรื่องข้อกฎหมาย แต่เรื่องนี้ในนายกรัฐมนตรีให้ศึกษาไม่ได้ให้ทำเลย และวันนี้กรมที่ดินก็กำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ทั้งนี้เรื่องให้ต่างชาติถือครองคอนโดมากกว่า 49% เคยมีมาแล้ว 5 ปีแล้วยกเลิกไป แต่อย่างไรก็ตามขอย้ำว่ายังไม่ได้มีการดำเนินการ

“เป็นการสั่งให้ไปดำเนินการศึกษายังไม่มีอะไรกระทรวงมหาดไทยกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ แต่ผลยังไม่ออกมา และต้องศึกษาในแง่ของเศรษฐกิจ ในแง่ของกฎหมายหลายอย่าง และผมยังคุยกับกรมที่ดินว่าต้องชัดเจน เพราะจะออกเป็นนโยบายหรือจะแก้กฎหมายต้องชัดเจนตอบได้ว่าเหตุผลอะไรดีอย่างไร จึงจะให้เพิ่มมา ถือครองได้ 75% ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ซึ่งต้องศึกษาถึงขั้นขนาดว่าเขาจะครอบครอง ประเภทไหนมากกว่า” นายชาดา กล่าว

นายชาดา ย้ำว่าขออย่ามองว่าจะแก้ไขกฎหมายช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะการแก้ไขกฎหมายใดๆก็ต้องมีการศึกษาและเมื่อเสนอเข้ามาก็ต้องนำเข้าสู่สภา และอยากให้มองเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจกับต่างชาติได้ผลประโยชน์ ซึ่งเราคนไทยไม่อยากให้ใครมาครอบครองแผ่นดินของเราแน่นอน ในความเป็นคนไทยแต่ในบางเรื่อง ถ้าเป็นเรื่องของธุรกิจไม่ใช่กลุ่มใหญ่มากนัก ก็ต้องมาคิดกันดูและวิเคราะห์ ซึ่งตนก็ไม่ยอมให้ชาติไหนมาครอบครองประเทศไทย แล้วเดินกร่างไปทั่ว โดยที่คนไทยไม่มีสิทธิ์เข้าไป ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องมาศึกษาในแง่ของเศรษฐกิจว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เราจะทำอย่างไร และวันนี้โลกก็โลกาภิวัฒน์ การเคลื่อนที่ของกลุ่มทุนนั้นมาไวไปไว ทุกคนก็หาประโยชน์จากเงินทุนของต่างชาติเหมือนกัน และในเรื่องของเศรษฐกิจ ต้องทำ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะยกที่ดินให้ใคร และตนก็คงไม่ยอม ใครก็คงสั่งตนไม่ได้ แต่ก็ต้องเอามาดู เพราะหลังจากที่นายกรัฐมนตรีบอกให้แก้กฎหมายก็มีหลายเรื่องอย่างเช่น เรื่องการแก้พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน ที่พรรคก้าวไกลเสนอมา ตนก็ยังให้มีการศึกษา ตรงนี้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจว่าเราจะเล่นอย่างไร แต่ไม่ใช่เรื่องของการขายชาติเราคง ไม่ยอมแน่นอน แต่ต้องหาเหตุผลที่ดีว่าเหมาะสมหรือไม่กับเวลานี้และสมควรทำหรือไม่ ก็ต้องมาว่ากันอีกที และเชื่อว่าถ้าเป็นผลเสียมากกว่า หากเสนอกลับไปในคณะรัฐมนตรีก็คงไม่ฟื้นแต่ตอนนี้เป็นคำสั่งที่ว่าให้ไปแก้กฎหมายเหมือนไปศึกษาวิเคราะห์ดูว่าต้องทำอะไรอย่างไร


“ขอให้สบายใจได้และเรื่องนี้ต้องชี้แจงกับประชาชน นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้เป็นเจ้าของแผ่นดิน ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาบริหารบ้านเมือง แผ่นดินนี้เป็นของคนไทยทุกคน จะทำอะไรต้องถามประชาชนก่อน แต่แนวคิดคนที่เป็นนักบริหารก็ต้องมีแนวคิด มีไอเดียเป็นสิ่งที่ไม่ใช่นั่งอยู่เฉยๆไม่คิดอะไรเลยก็คงไม่ได้ ต้องให้ธุรกิจนำพาประเทศไปในทางที่ถูกที่ควรดังนั้นขอท่านไม่ต้องห่วงและขอให้แยกกัน และต้องมีวิธีคิดเรื่องเศรษฐกิจกับเรื่องของความมั่นคงของชาติและเรื่องของผลประโยชน์แผ่นดินไทยการดูแลประเทศมีหลากหลายมิติ”นายชาดา กล่าว

นายศุภณัฐ ยังถามต่อว่าหลังรัฐบาลเข้ามาทำงาน 3 เดือนนายกรัฐมนตรีให้ออกมาตรการ ช่วยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 7 มาตรการโดยบอกว่าจะทำให้ มียอดการขายคอนโดมหาศาลและจะมีการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น หลายแสนล้าน ถ้าดีจริงแล้วเหตุใดต้องมาปรับแก้กฎหมายให้สิทธิ์ต่างชาติเช่นนี้อีก พร้อมระบุการกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้ แต่ต้องไม่ทำให้ประเทศเสียหายและไม่ต้องทำให้ประเทศได้รับความเสี่ยง และอยากทราบว่า 7 มาตรการที่รัฐบาลออกมานั้น ผ่านมา 1 ปีแล้ว คนไทยได้รับผลดีอย่างไร

นายชาดา ชี้แจงโดยยืนยันอีกครั้งว่าทั้งหมดอยู่ระหว่างการศึกษา และ 7 มาตรการในการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์รัฐบาลก็ดำเนินการอยู่ การแก้ไขปัญหาต่างๆคงไม่ ได้ทำเพียงแนวทางเดียว แต่ในการบริหารประเทศจะต้องมีโครงการต่างๆออกมา ไม่ใช่ “ร้องเพลงเดียวตลอด” ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ก็ต้องคิดและหาทางหลังจากได้รับทราบปัญหาต่างๆก็พยายามหาแนวทางแก้ไข แต่การจะทำในเรื่องนี้ขอย้ำว่ากรมที่ดินก็ต้องทำอย่างละเอียด ชี้แจงกับประชาชนได้ โดยกฎหมายก่อนจะออกมาก็ต้องมีการทำประชาพิจารณ์และยังมีรายละเอียดอื่นๆทั้งเรื่องค่าธรรมเนียมต่างๆ ด้วย .-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]