1 ก.ค.- “อนุทิน” หวั่นเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจบันนังสตา ฉุดรั้งประเทศ มองคนไทยด้วยกัน ทำไปก็ไม่เกิดประโยชน์ สมเพชคนด้อยค่า สว. ชี้ ทัศนคติเลวร้าย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงเหตุลอบวางระเบิดรถยนต์บริเวณบ้านพักและแฟลตตำรวจภูธรบันนังสตา จังหวัดยะลาเมื่อวานนี้ว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เข้าไปดูแลเยียวยาเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้มีการสืบทราบตัวผู้กระทำความผิด โดยมีภาพตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งก่อนเกิดเหตุพลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงพื้นที่ และไล่หลังไม่กี่ชั่วโมงก็เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่
ส่วนเหตุจูงใจการก่อเหตุ ยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียด ซึ่งตนเองมองว่าไม่ควรทำ คนไทยด้วยกัน ทำไปก็ไม่เกิดประโยชน์กับผู้ใดเลย เมืองเขาสวยงามสงบอยู่แล้ว เศรษฐกิจกำลังจะดีขึ้น คนมั่นใจไปท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้งคนไทยและมาเลเซีย พอเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ก็จะดึงฉุดในสิ่งที่กำลังจะไปข้างหน้าให้ถอยหลังเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย พร้อมกับมองว่าเป็นสำนึกของทุกคน
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดใหม่ ไม่มีความรู้ ความสามารถ ว่า ตนเองรู้สึกสมเพชคนด้อยค่า เป็นการแสดงที่ให้เห็นชัดเจนว่าคนที่พูด เช่น สว.ไม่มีการศึกษา สว.ขายก๋วยเตี๋ยว สว.เป็นคนขับรถ สว.เป็นชาวนา คนที่พูดด้อยค่ายิ่งกว่า สว.อีก ตนเองพูดในฐานะที่เป็นผู้อ่านข่าวคนหนึ่ง อยากให้เข้าใจว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่ากัน นี่คือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญชุดนี้ที่ต้องการให้มีคนหลากหลาย
อยากฝากประชาชนที่ตั้งข้อสังเกตอย่าง สส.ต้องจบปริญญาตรี ซึ่งระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือรัฐมนตรีต้องจบปริญญาตรีเป็นขั้นต่ำ แต่ในการเลือก สว.ไม่มีการระบุเรื่องการศึกษา ไม่เรียนหนังสือยังเป็นได้ เพราะเขาต้องการเอาคนที่หลากหลาย มีประสบการณ์ ในการดำรงชีวิตมา ถ้าเราได้มาตามกระบวนการทุกอย่างแล้ว เราก็ต้องเดินต่อไป ป่วยการไปพูดว่า คนนี้มีอาชีพอะไร หรือการศึกษาเป็นอย่างไร ซึ่งตนเองเห็นว่าเป็นการขัดเจตนารมณ์ และเป็นการแสดงทัศนคติที่เลวร้าย ใช้ไม่ได้ .317.-สำนักข่าวไทย