บริษัทอู่กรุงเทพฯ 28 มิ.ย.- “สุทิน” ตรวจเยี่ยม บริษัทอู่กรุงเทพฯ ผลักดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ พบขาดสภาพคล่อง เร่ง ปรับโครงสร้าง แก้กฎหมาย เปิดให้ระดมทุน หวัง แข่งขันกับเอกชนได้
ที่บริษัทอู่กรุงเทพฯ รัฐวิสาหกิจในความควบคุมกองทัพเรือ สังกัดกระทรวงกลาโหม นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเดินทางมาตรวจเยี่ยมว่า บริษัทอู่กรุงเทพฯ เป็นรัฐวิสาหกิจ ในกระทรวงกลาโหม จะมาเยี่ยมชม และมาติดตามความคืบหน้าเสถียรภาพทางธุรกิจ รวมไปจนถึงสถานะทางการเงิน การวางแผนใน ปัจจุบัน และอนาคต เพราะขณะที่เรากำลังจะผลักดันส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ บริษัทอู่กรุงเทพฯเป็นองค์กรที่จะสนองนโยบายได้ดีที่สุดที่หนึ่ง หากมีอะไรที่จะสนับสนุนส่งเสริมสร้างความแข็งแรงขึ้นมา เพื่อที่จะรองรับนโยบายตรงนั้นได้
นายสุทิน กล่าวต่อว่า บริษัทอู่กรุงเทพฯ ภารกิจเดิม คือการสร้าง ต่อเรือ ซ่อมเรือ ซึ่งต่อไปนี้กองทัพ จะมีเรื่องนี้เข้ามามาก เพราะฉะนั้น ต้องเตรียมการให้บริษัทของเรามีความพร้อม สร้างความแข็งแรงรองรับงานเหล่านี้ ส่วนมาตรฐานเทียบเท่ากับต่างประเทศได้หรือไม่นั้น ตนเชื่อว่าประสบการณ์ที่ยาวนาน ความรู้ความเชี่ยวชาญมี แต่ในเรื่องของกำลังคน ทุน อาจจะเติมได้และ บริษัทอู่กรุงเทพฯ แม้จะมีคนไม่มากพอ ที่จะรับงานขนาดใหญ่ เช่นเรือฟริเกต แต่สามารถใช้วิธีร่วมลงทุนกับภาคส่วนอื่นได้
ทั้งนี้ทางบริษัทอู่ กรุงเทพฯ ได้สะท้อนปัญหาหลายประการ ขอได้รับการสนับสนุนและโอกาส ในการที่จะได้งานของกระทรวงกลาโหม หรือ หน่วยงานรัฐ เพราะที่ผ่านมา ปล่อยให้ดำเนินการเข้าแข่งขันเสรีในทุกอย่าง บางครั้งอาจจะมีข้อจำกัดสู้เอกชนไม่ได้ ทำให้บริษัทเสียโอกาสไปมาก ทั้งนี้หากกระทรวงกลาโหม มีมาตรการการบริหารที่ช่วยให้ทางบริษัทมีความแข็งแรงสู้เอกชนได้ด้วย ก็อยากให้แก้ปัญหาตรงนี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องขาดสภาพคล่อง รายรับไม่พอรายจ่าย หากกระทรวงกลาโหม อนุมัติได้ดำเนินการหาทุน ตามแนวทางที่ทำได้
นายสุทิน ยังย้ำอีกว่า แม้บริษัทอู่กรุงเทพฯ จะอยู่ในสังกัดกระทรวงกลาโหม แต่ได้งานของ หน่วยงานรัฐและกองทัพไม่มากนัก ในส่วนของการซ่อมเรือเอกชนก็มีบ้าง เหตุเพราะ สภาพคล่องต่ำลง ก็อ่อนแอ สู้งานเอกชนลำบาก เพราะฉะนั้นการทำให้ บริษัทอู่กรุงเทพฯ แข็งแรงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกในทุกๆด้าน จะสามารถไปหางานต่อสู้กับทุกที่ได้กลับมาฟื้นตัวได้
“บริษัทอู่ กรุงเทพฯไม่ได้มีสิทธิพิเศษ ต้องแข่งขันเสรีเช่นเดียวกับบริษัทอื่น ส่วนแนวทางแก้ปัญหา ปฏิรูปองค์กรใหม่ ส่วนกระทรวงกลาโหม จะหาทางช่วยเหลือภายใต้ระเบียบกฎหมายที่ทำได้ เพื่อให้ได้งาน” นายสุทินกล่าวพร้อมเชื่อมั่นว่า
แม้บริษัทอู่กรุงเทพฯ จะมีปัญหาสภาพคล่องแต่เชื่อว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายการผลักดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศซึ่งในส่วนของตนก็จะเข้าไปดูแลเพื่อให้สามารถต่อสู้กับภาคเอกชนได้ ในขณะเดียวกันตนก็ต้องไปสนับสนุน บริษัทของเอกชนด้วยเช่นกัน -313 .-สำนักข่าวไทย