เตรียมความพร้อมคุ้มครองสุขภาพประชาชน

ทำเนียบรัฐบาล 25 มิ.ย.- “พัชรวาท – สมศักดิ์” ยกระดับความร่วมมือ เตรียมความพร้อมคุ้มครองสุขภาพประชาชน สร้างภูมิคุ้มกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานร่วมในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ “การบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสาขาสาธารณสุข ภายใต้แผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ” โดยนายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ กับ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและเตรียมความพร้อมในการรับมือต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เชื่อมโยงการวางแผนตามแนวทางการปรับตัวและนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีส่วนร่วม

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้ความสำคัญกับการรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน จึงได้มีความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้านสาธารณสุขอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพของประเทศไทยตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในทุกพื้นที่ รวมถึงการลดและป้องกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของประชาชนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการบูรณาการการดำเนินงานของทั้งสองกระทรวง ตั้งแต่แผนและมาตรการที่เกี่ยวข้อง การเตรียมความพร้อมเพื่อคุ้มครองสุขภาพประชาชน การพัฒนามาตรฐาน งานวิชาการ นวัตกรรม ข้อมูลสารสนเทศ องค์ความรู้เรื่องความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการปรับตัวฯ ตามเป้าหมายของประเทศไทย ที่สอดคล้องกับแผนการปรับตัวฯ ระดับโลกด้านสาธารณสุขอีกด้วยโดย ทส. จะสนับสนุนการเชื่อมโยงการดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือทั้งในและระหว่างประเทศ ตลอดจนการขอรับการสนับสนุนด้านการเงิน เพื่อสร้างสังคมที่มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้แก่ประชาชนชาวไทยต่อไป


ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกพบว่า มีประชากร 3,600 ล้านคน อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และคาดว่าในช่วงปี   พ.ศ. 2573 – 2593 จะมีผู้เสียชีวิตจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มขึ้นประมาณ 250,000 คนต่อปี ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลังในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งในระดับนานาชาติ ตามนโยบายขององค์การอนามัยโลกและในระดับประเทศ โดยผลักดันนโยบายและแผนปฏิบัติการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้านสาธารณสุข (พ.ศ. 2564 – 2573) รวมทั้ง การสร้าง“ระบบสุขภาพที่มีความยืดหยุ่น ภายใต้ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการพัฒนาระบบการให้บริการสุขภาพ เมื่อเผชิญกับภัยที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ตลอดจนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพให้แก่ประชาชนและชุมชนสามารถจัดการความเสี่ยงต่อสุขภาพ และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบันซึ่งการทำงานร่วมกันของทั้งสองกระทรวง และเป็นต้นแบบการขยายผลความร่วมมือเพื่อสร้างสิ่งที่ดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยและโลกใบนี้อย่างยั่งยืนต่อไป.317 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร