fbpx

“พิธา” มั่นใจก้าวไกลรากฐานแข็งแรง สส.ทำงานเต็มที่ แม้เสี่ยงถูกยุบ

สกลนคร 23 มิ.ย.- “พิธา” ขอย้อนความจำวาทะ “กระดุม 5 เม็ด” บอกเกิดครั้งแรกที่นี่ ปลุกใจประชาชน แม้เสี่ยงถูกยุบ แต่ สส.ยังทำงานเต็มที่ ไม่หวั่นไหวจนต้องขายวิญญาณ มั่นใจ รากฐานแข็งแรง


23 มิ.ย. 2567 ที่โรงแรมพีซี แกรนด์ พาเลซ จังหวัดสกลนคร พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายณรงค์เดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ และทีมงานจังหวัด ร่วมประชุมสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อจัดตั้งสาขาพรรคก้าวไกล ประจำจังหวัดสกลนคร โดยมีสมาชิกมาเข้าร่วมรับฟังแนวทางการขับเคลื่อนพรรคอย่างพร้อมเพียง

นายพิธา กล่าวกับสมาชิกพรรคว่า วันนี้ต้องการมาแสดงความขอบคุณพี่น้องชาวสกลนคร ขอบคุณสมาชิกพรรคก้าวไกลที่สกลนคร และร่วมเป็นสักขีพยานในการจัดตั้งสาขาพรรค เพราะตัวเลขสมาชิกพุ่งขึ้นเรื่อยๆจนน่าประทับใจ และมาอัพเดรตสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนทางการเมือง


นายพิธา บอกว่า หากพูดในอดีต “ถ้าไม่มีสกลนคร ไม่มีพิธา” เพราะตอนที่พี่น้องชาวกลนครไว้วางใจชาวอนาคตใหม่ในอดีตได้คะแนนมา 80,000 คะแนน ทั้งที่เป็นพรรคใหม่ และในช่วงนั้นตนเองจะต้องอภิปรายในสภา เพราะดูเรื่องเกษตร ก็นั่งรถทัวร์มาหาข้อมูลในพื้นที่จากชาวสกลนคร มาถึงก็ไปดูหนองหาร ไปกินไข่กระทะ และไปดูเรื่องการเกษตร และมีคำถามเกิดขึ้นในวันนั้นว่าชาวนาที่ส่งออกในประเทศไทยจริงๆมีกี่คน โดยเฉพาะการพูดถึงโฉดนดที่ดินของชาวนา และการส่งออกข้าวไปต่างประเทศ เพราะ 3 ใน 4 ของคนไทยไม่มีที่ดินของตัวเอง และพอทำนาได้ก็ไม่มีเงินเก็บเพราะต้องเอาไปลงทุนค่าปุ๋ยค่ายา

“ที่บอกว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว แต่สมัยก่อนในน้ำมีปลาในนามีหนี้ จนทำให้ชาวนาเขาไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆ”

ซึ่งทำให้จากการลงพื้นที่ในครั้งนั้น เกิดเป็นการอภิปรายกระดุม 5 เม็ด ในสภา ทำให้ความเป็นสส.ของตนเองเป็นหนี้บุญคุณชาวสกลนคร อีกทั้งยังได้ความรู้เรื่องของกัญชา เรื่องการใช้แรงงานในอิสราเอล ทำให้ตนเองรู้ว่า หากกลับไปพูดอะไรในสภาต้องมาหาประชาชนก่อน ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่า ไม่ได้เป็น สส.ที่น้ำเต็มแก้วเพราะเรียนรู้ตลอดเวลา และนำไปพูดเพราะความเชื่อจริงๆ


นายพิธา ยังกล่าวต่อว่า หากพูดถึงความเป็นปัจจุบันของสกลนคร เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้มา 2 แสนคะแนน และเชื่อว่าหากในอนาคตไม่ปล่อยมือครั้งหน้าจะมากขนาดไหน ถึงจะมีความพยายามในการยุบพรรคของเราอีกครั้ง 2 พรรคใน 5 ปี ก็ไม่เป็นไร พรรคเราเป็นพรรคคนตัวเล็ก สส.ก็ยังทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวหรือต้องขายวิญญานเพื่อให้พรรคอยู่รอดได้ และถึงแม้จะเป็นความเสี่ยงว่าอาจจะยุบหรือไม่ยุบก็ได้ แต่ก็ยังเป็นความเสี่ยงอยู่ แต่สมาชิกของเราในภาพรวมปัจจุบันยังเพิ่มขึ้นๆ ซึ่งเป็นการให้กำลังใจการทำงานกับพรรคก้าวไกล จึงต้องขอขอบคุณทุกคน

“ในอดีตไม่มีสกลนครไม่มีพิธา และในปัจจุบัน ไม่ต้องกังวลว่าเราจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ทำงาน ไมาค้องกังวลว่านโยบายเราตะเปลี่ยนไป ยังคงดูแลพี่น้องแรงงาน พี่น้องเกษตรกร คนตัวเล็กตัวน้อย และเสียงของคนที่ไม่ดังพอต่อไปในสังคมของเรา ก็จะยังคงทำงานต่อไป” นายพิธา กล่าว

ส่วนอนาคตในวันที่ 3 ก.ค.หรือ 9 ก.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดประชุมคดียุบพรรค ตนมองว่า วิธีการปลุกใจและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ดีที่สุด คือความซื่อตรงและอธิบายด้วยความเข้าใจ ที่ไม่ได้เป็นการละเมิดศาลหรือเอาความคิดของศาลมาเล่าให้ฟัง โดยในวันที่ 3 ก.ค.จะมีการพิจารณาต่อขิงศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนวันที่9 ก.ค.จะมีการตรวจพยานหลักฐาน ซึ่งก็น่าจะเป็นพยานเอกสารหรือพยานที่อาจจะมีโอกาสได้พูด

“จะมีโอกาสในอนาคต ในการไต่สวน จะมีโอกาสให้ผมได้ขึ้น ว่าความอธิบายถึงเจตนาของพรรคก้าวไกลกรือพยานหลักฐานของพรรคก้าวไกล หรือระเบียบของกกต.ที่ยื่นยุบเราอย่างที่เคยแถลงหรือไม่”

เราก็พยายามสู้เต็มที่ในหลักกฎหมายและข้อเท็จจริง เพราะศาลบอกว่าไม่ควรแสดงความคิดเห็นชี้นำ ตนเองจึงเอาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงมาเล่าให้ฟัง และเรายังคงสู้มาตลอด โดยเฉพาะสกลนครได้มากว่า 2 แสนคะแนน ดังนั้นจึงต้องมีความเป็นธรรมที่สามารถอธิบายเหตุและผลของเราได้ จึงต้องมีมิติการต่อสู้ทางกฎหมาย 9 มิติ และวิธีที่ดีที่สุดคือ การทำให้สังคงทำให้ประชาชนเห็นว่าการมีพรรคก้าวไกลอยู่มีประโยชน์มากกว่าการไม่มีพรรคก้าวไกล

นายพิธา กล่าวอีกว่า แน่นอนว่าก้าวไกลเป็นพรรคใหม่อยู่มา 5 ปีถ้าเทียบกับพรรคอื่นๆ ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่หากดูในเชิงรัฐศาสตร์ การมีอยู่ของพรรคก้าวไกลดีต่อสังคมไทยมากกว่าการไม่มี ต้นทุนการฆ่าพรรคก้าวไกลสูงกว่า ส่วนศาลจะตัดสินอย่างไรเป็นดุลยพินิจของศาลไม่สามารถก้าวล่วงได้

แม้เราจะพร้อมทุกสถานการณ์ แต่ในการมีการประชุมทุกภาค มันคือโครงสร้างของพรรค ถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อพรรค เปลี่ยนสีพรรค เปลี่ยนโลโก้พรรคก็ไปต่อได้

ตอนพรรคอนาคตใหม่ตนเองจำได้ว่ามีคนพูดว่าทำไมต้องทำให้มันยุ่งยากมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็เพราะคือเครื่องมือตรวจสอบว่ารากฐานของพรรคแข็งแรง ถึงแม้ใครจะมารังแก ใครจะมาทำลาย รากฐานของพรรคก็ยังไปต่อได้

“เขาอยากจะตีหัวผม หัวอาจจะไม่อยู่ แต่เดี๋ยวจะมีหัวคนใหม่ที่เก่งกว่ามา แต่รากฐานก็คือพี่น้องประชาชนมีสมาชิกพรรค ที่ยังไม่หวั่นไหว ยังคงเข้มแข็ง และลงรากลึกไปแล้ว อีกหน่อยก็เหมือนต้นไม้ที่ผลิใบในทุกฤดู แต่รากไม่ได้เป็นพิษ รากแข็งแรง รากเต็มไปด้วยสารอาหาร รากเต็มไปด้วยความรู้ วิสัยทัศน์ และวิธีคิด แบบที่เราคิดว่าประเทศไทยควรจะเป็น เพราะฉะนั้นไม่ว่าสถานการณ์ในอนาคตจะออกมาเป็นแบบไหนพวกเราทุกคนไปต่อได้อย่างแน่นอน ผมฟันธง” นายพิธา กล่าว.- 312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บุกเดี่ยวชิงทองห้างดังเชียงใหม่ กวาดทอง 50 บาทหนี

คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองในร้านทองกลางห้างดังที่เชียงใหม่ กวาดทองไปกว่า 50 บาท โดยใช้เวลาแค่ 1 นาที 40 วินาที เจ้าหน้าที่ไล่ล่าคนร้าย

รวบแล้ว ‘บอล ปากแหว่ง’ ก่อเหตุชิงทรัพย์ 3.3 ล้าน

รวบแล้ว “บอล ปากแหว่ง” ก่อเหตุชิงทรัพย์เงินสด 3.3 ล้านบาท บริเวณลานจอดรถห้างดังย่านพัฒนาการ หลังหนีกบดานที่ สปป ลาว กำลังประสานส่งตัวมาดำเนินคดีที่ไทย

เต็นท์รถดิ้นหนีตาย ขายขาดทุนคันเป็นแสน

ท่ามกลางสงครามราคา ทั้งรถไฟฟ้าและรถน้ำมัน รวมทั้งสภาพเศรษฐกิจ ทำให้รถถูกยึดจำนวนมาก ไฟแนนซ์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้เต็นท์รถมือสองใน จ.เชียงใหม่ ซบเซาอย่างหนัก ปิดตัวลงไปเยอะ ที่เหลือต้องดิ้นรนอย่างหนัก ยอมขายขาดทุน เพื่อประคองตัวให้รอด ขณะที่อีกมุมอาจเป็นโอกาสทองของผู้บริโภค

สาวใหญ่ อสม. ยอมคืนลอตเตอรี่ถูกรางวัลให้ “ตาอ้าย” แล้ว

หวยอลเวง จ.ลำปาง กรณี “ตาอ้าย” อายุ 74 ปี ถูกสาวใหญ่ อสม.ขโมยสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 ไป ล่าสุด สาวใหญ่ ยอมรับสารภาพว่าเอาไปจริง และนำสลากมาคืนให้แล้ว โดยมอบให้ผ่านตำรวจ สภ.เสริมงาม

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดังเชียงใหม่

รวบแล้วหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองเกือบร้อยบาท ในร้านทองกลางห้างดัง จ.เชียงใหม่ วางแผนลวงเจ้าของรถเก๋งไปฆ่า เพื่อชิงรถมาก่อเหตุชิงทอง ก่อนจัดฉากนำรถและศพไปทิ้งบนดอยสุเทพ

ทั่วไทยเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์

จังหวัดต่างๆ ประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567

พฐ.สันนิษฐานไฟไหม้เยาวราช เกิดจากจุดธูปเทียนไหว้พระ

พฐ.ตรวจสอบบ้านต้นเพลิง เหตุไฟไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุจากจุดธูปเทียนไหว้พระ ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันรอบชุมชนมีประปาหัวแดง-ถังดับเพลิงเพียงพอ แต่เพลิงลุกไหม้เร็วมาก จนควบคุมไม่ทัน

ทร.นำกำลังพลฝึกซ้อมฝีพายเรือพระที่นั่งจริงทั้ง 4 ลำ ครั้งแรก

ทร.นำกำลังพลฝีพายขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ลงฝึกซ้อมกับเรือพระที่นั่งจริงทั้ง 4 ลำ เป็นครั้งแรก