รัฐสภา 21 มิ.ย.-“กมลศักดิ์” สส.ประชาชาติ เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.งบ 68 วาระ 1 แนะทบทวนกฎหมายให้ ศอ.บต.มีอำนาจใช้งบประมาณ พัฒนา-แก้ปัญหา ให้ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่สอง สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568
นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นราธิวาส พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ตนเองเห็นด้วยกับวาระที่ 1 ว่า จำเป็นต้องมีงบประมาณในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาประเทศให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ขอเสนอความเห็นและความเป็นห่วง ต่อการใช้งบประมาณของการแก้ปัญหา 3 ชายแดนภาคใต้ เพราะการใช้งบ 67 ยังไม่เต็มที่ โดยปีนี้งบลดลงจากปีที่แล้ว 6% กว่า เพราะเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี แต่ปัญหายังคงมีอยู่ และไม่ได้ลดลงตาม
นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า งบทั้งหมดตามคำแถลงของนายกรัฐมนตรี แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของมิติความมั่นคงมีอยู่ประมาณกว่า 40% แต่หลาย ๆ เรื่องไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมากนัก เพราะปัญหาเก่ายังคงอยู่ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างปัจจุบันนี้คนที่เคยถูกดำเนินคดี ในฐานข้อมูลของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังมีชื่ออยู่ ยังพบอุปสรรคปัญหาในการเดินทางออกนอกประเทศ ยังไม่ได้รับการแก้ไขและยังไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายกมลศักดิ์ คาดหวังว่า งบประมาณปี 68 จะถูกนำไปใช้แก้ปัญหาคาราคาซัง ที่ไม่ใช่เฉพาะของในรัฐบาลชุดนี้ แต่ที่มีอยู่ก่อนแล้ว ให้ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาความมั่นคง
“สภาฯ ของเรามีกรรมาธิการวิสามัญกระบวนการเพื่อสันติภาพ อยากให้ทางฝ่ายบริหารกรรมาธิการชุดนี้ได้มีการศึกษาเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับกระบวนการเพื่อสันติภาพ ตามนโยบายคำสั่งของนายกฯ ที่มีอยู่แล้ว เป็นข้อเสนอแนะในเรื่องนี้ และเพื่อสนับสนุกระบวนการสันติภาพ แก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธีคือ กระบวนการพูดคุยให้จริงจัง” นายกมลศักดิ์กล่าว
นายกมลศักดิ์ กล่าวต่อว่า การใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่เฉพาะมิติความมั่นคง การพัฒนาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือที่อื่น ทำเพื่อให้ดีขึ้น และผลกระทบที่เกิดต้องกลับสู่สภาวะเดิมหรือดีขึ้น แต่ช่วงปี 67 ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาตใต้ ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเรื่องปากท้อง จากอุทกภัยอย่างรุนแรงในรอบหลาย 10 ปี ซึ่งยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า การเยียวยาที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงอยากฝากถึงกรรมาธิการที่กำลังจะมีการตั้งขึ้นในการพิจารณางบประมาณปี 68 ว่า การลงรายละเอียดสอบถามปัญหาที่ยังค้างคาอยู่ จะแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ยังมีปัญหาใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกเรื่องคือ ปัญหายาเสพติด ซึ่งคาราคาซังมานาน ถ้าดูงบ 68 ของคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดนั้น เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา แต่ที่รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมได้ชี้แจงต่อสภาฯ เข้าใจว่า งบที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งอยากให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายยาเสพติดมาตรา 118 กับ 120 คือ การให้มีศูนย์ฟื้นฟูการบำบัดยาเสพติด และสนับสนุนฟื้นฟูคนที่ติดยาเสพติดผ่านการบำบัดแล้ว หางานและอาชีพให้เขาทำ นี่คือสิ่งที่ตนเองเห็นว่ามีความจำเป็น ในส่วนของวาระที่ 1 ในชั้นรับหลักการ ตนเองคงให้โอกาสรัฐบาลที่มีฝ่ายบริหารในการนำงบประมาณไปใช้เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างตรงจุด
ส่วนแผนพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า หลายเรื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาถึงวันนี้ ได้เห็นภาพว่า การพัฒนาโดยมีหน่วยงานศูนย์บริหารการราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มี พ.ร.บ. ศอ.บต. 2563 จนถึงขณะนี้การพัฒนา 10 กว่าปีกับ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้องมีการทบทวน เพื่อให้ ศอ.บต.มีอำนาจในการนำงบประมาณไปใช้ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ปัญหาลดเร็วกว่านี้ อย่างอุทกภัยที่ผ่านมา ศอ.บต.ก็ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการใช้งบประมาณเยียวยาให้ประชาชน อำนาจหน้าที่ ศอ.บต.หลาย ๆ อย่างต้องหาเครื่องมือพิเศษให้มากกว่านี้ และยังมีคำสั่ง คสช. อีก 2 ฉบับที่ต้องยกเลิก เพื่อเป็นเครื่องมือให้ ศอ.บต. สามารถพัฒนาใช้งบประมาณในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นอิสระมากกว่านี้ แม้หลาย ๆ เรื่องในการพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจไม่เกี่ยวข้องกับงบประมาณโดยตรง แต่ถึงเวลาที่ต้องทบทวนกฎหมาย และระเบียบที่มีอยู่ เพื่อแก้ปัญหาปากท้อง และเศรษฐกิจของประชาชนได้ตรงตามความประสงค์.-317.-สำนักข่าวไทย