นักวิชาการมองอาจมีเคลื่อนไหวเรียกร้องขอประกันตัว คดี 112

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย.-นักวิชาการมองหลัง “ทักษิณ” ได้ประกันตัวคดี 112 อาจมีเคลื่อนไหวเรียกร้องขอประกันตัว เพื่อสร้างบรรทัดฐานความเท่าเทียม ประเมินถูกผลักเรื่องเข้าสู่การออกกฎหมายนิรโทษกรรม บอกกลุ่มพยายามจะตี 3 ล้ม คือ “ล้มเหลวไม่เป็นท่า”

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงคดีทางการเมืองใหญ่ 4 เรื่องในวันนี้ (18 มิ.ย.) ว่า กรณีแรกที่ศาลอาญาให้ประกันตัว นายทักษิณ ชินวัตร คดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นั้น ถือว่าเป็นไปตามความคาดหมายของหลายคนที่บอกแล้วว่านายทักษิณ ไม่น่าจะหลบหนี ถึงแม้จะมีบางคนโน้มน้าวเรื่องการตัดสินใจของนายทักษิณ ให้หนีเพื่อเข้าทางกลุ่มพลังอำนาจ ทางการเมืองที่จะล้มรัฐบาล แต่เมื่อคุณทักษิณ ตัดสินใจไม่หลบหนี และเข้าสู่กระบวนการ โดยสิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ไม่แน่ใจว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าใดในการต่อสู้ในชั้นศาล เพียงแต่ข้อเรียกร้องทางสังคมเรื่องการประกันตัวนักโทษคดี 112 ก็จะเกิดขึ้นทันที เพราะกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองจะเรียกร้องขอประกันตัวเพื่อสร้างบรรทัดฐานความเท่าเทียมของความเป็นมนุษย์ ระหว่างนายทักษิณกับผู้ต้องหาคนอื่นทำให้เรื่องนี้จะเกี่ยวโยงถึงแนวทางการออกกฏหมายนิรโทษกรรม เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของนายทักษิณคนเดียวแต่จะมีความสัมพันธ์กับเรื่องอื่นด้วย เนื่องจากนายทักษิณได้ประกันตัว แต่ผู้ต้องหาคดี 112 อีกหลาย 10 ชีวิตมีความพยายามหลายครั้งในการยื่นขอประกันแต่ไม่ได้รับการประกันตัว ถึงแม้จะมีก็อาจจะเป็นในส่วนน้อยมาก ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นใหม่ทางการเมืองเกิดขึ้น จนทำให้มีความชอบธรรมในการผลักเรื่องนี้เข้าสู่การออกกฏหมายนิรโทษกรรม และไปรับลูกกับท่าทีของกรรมาธิการ ท่าทีของพรรคการเมืองรวมถึงกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ก่อให้เกิดแนวร่วมมุมกลับระหว่างกรรมาธิการในสายพรรคเพื่อไทยและกรรมาธิการในสายพรรคก้าวไกล จากเหตุการณ์นี้


ส่วนประเด็นการเมืองนอกสภา การวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองการตัดสินใจของนายทักษิณ และได้ประกันตัวถือว่าทำให้นายทักษิณ เป็นคนที่มีบารมีทางการเมืองที่สูงขึ้น ณ เวลานี้ บวกกับมีคดีที่ สว. 40 คน ร้องศาลรัฐธรรมนูญ กรณีความเป็นรัฐของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จากการตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ก็ทำให้อำนาจการเมืองนอกสภาของนายทักษิณ ปรากฏชัดมากขึ้น

“กลุ่มคนพยายามจะตี 3 ล้ม คือล้มรัฐบาล ยุบพรรคก้าวไกล และทำลายการเลือก สว.ชุดใหม่ ถ้าดูแล้วขอสรุปได้เลยว่า “ล้มเหลวไม่เป็นท่า” อีกทั้งยังทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ไร้อำนาจการต่อรอง เพราะความพยายามในการทำ 3 ล้ม ไม่สำเร็จ และนายทักษิณ มีอำนาจมากขึ้น ดังนั้นหลังจากนี้ไปการขยับเขยื้อนทางการเมืองของนายทักษิณก็จะทำง่ายขึ้น เนื่องจากทุกอย่างอยู่ในกลไกที่นายทักษิณ สามารถคุมสภาพได้ ทั้ง สส. สว.ที่กำลังเลือก อยู่ในเครือข่ายของพรรคการเมืองใหญ่ รวมถึงหลังจากนี้กลุ่มทุนน่าจะเข้าหานายทักษิณ”รศ.ดร.โอฬาร ระบุ


เมื่อถามว่าจังหวะก้าวเดินสายของนายทักษิณ ในช่วงการพักโทษที่ผ่านมา ส่งผลดีหรือเสียมากกว่ากัน รศ.ดร.โอฬาร มองว่า ไม่ส่งผลดีกับกลุ่มที่ไม่ชอบนายทักษิณ ก็จะยังคงความไม่ชอบ รวมถึงถูกมองว่าเป็นอภิสิทธิ์ชน เหมือนเป็นการเติมคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลไปด้วย แต่หากพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค และนายทักษิณ เดินสายพบปะบ้านใหญ่ ดิวคุยผลประโยชน์กันลงตัว ควบคุมกลไกโดยรอบได้แบบนี้คำถามคือหากพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่ พรรคก้าวไกลจะตั้งหลักไม่ทัน นี่ถือเป็นการช่วงชิงโอกาสทางการเมือง มีโอกาสในการกลับมาจัดตั้งรัฐบาล

“ถ้าเราเชื่อว่ามีดิวจริงๆ แล้วการไปดิวต้องการจัดสรรส่วนแบ่งอำนาจของนายทักษิณ ดูการตั้งรัฐบาลเหมือนจะถูกกินรวบ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นนายทักษิณกินรวบแทน ต้องยอมรับชั้นเชิญของนายทักษิณ” รศ.ดร.โอฬาร ระบุ

สำหรับการเลือก สว. หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าสี่มาตราของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ นั้น รศ.ดร.โอฬาร กล่าวว่า การเลือก สว. ถือว่าผ่านฉลุยถึงแม้จะมีหลักฐานเรื่องการฮั้วหรือล็อคโหวตกัน แต่ กกต. ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานก็ไม่สามารถทำอะไรได้


ส่วนจะไม่มีสะดุดหรือล้มกระดานตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ใช่หรือไม่ รศ.ดร.โอฬาร กล่าวว่าจะสะดุดล้มก็ต่อเมื่อมีพยานหลักฐานและมีผู้ร้องเยอะจนเกิดความวุ่นวายจนคุมสถานการณ์ไม่ได้ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่าตอนนี้ กกต. แกล้งหลับตาข้างเดียวหรือไม่เพราะแม้จะมีเรื่องแต่ก็ออกมาระบุว่าสถานการณ์เรียบร้อย ไม่มีปัญหาข้อบกพร่อง และผลักภาระให้กับผู้ร้อง แต่ถึงแม้มีปัญหาผู้ที่ได้รับเลือกถูกร้องก็ยังมี ลำดับสำรองไว้อีก 100 คน ทำให้การเลือกเสร็จสิ้นตามกระบวนการแต่ความชอบธรรมเป็นเรื่องที่ประชาชนจะประเมิน

ขณะที่คดียุบของพรรคก้าวไกล มอง การต่อสู้ของพรรคก้าวไกลจะเป็นลักษณะบู๊ล้างผลาญแต่จะสู้อยู่ในกรอบและแง่กฎหมาย ที่ตนเองมีความได้เปรียบ ทำให้มีโอกาสรอดจากการถูกยุบพรรคได้ เพราะการที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกหลักฐานเพิ่มเติมจาก กกต. จากข้อชี้แจงของพรรคก้าวไกลและ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาแถลงประเด็นที่กกต. ทำไม่ครบถ้วนกระบวนความยื่นร้องยุบพรรค สามารถตีความได้ว่า ศาลมองไปเช่นนั้นจึงไม่สามารถร้องยุบพรรคก้าวไกลได้

รศ.ดร.โอฬาร ยังกล่าวถึงประเด็นของนายเศรษฐา ที่ถูก 40 สว. ร้องศาลถึงความเป็นรัฐมนตรี ว่าหากผลออกมาไม่เป็นคุณ แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยยังมีแคนดิเดตนายกฯ อีกสอง คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายชัยเกษม นิติศิริ ทำให้การที่จะให้ลุงในป่ามาเป็นเองคงเป็นไปได้ยาก เพราะคงไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 250 เสียง อีกทั้งสว. ชุดเดิมที่ถือเป็นฐาน ก็จะหมดอำนาจไปด้วย.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย