นักวิชาการมองอาจมีเคลื่อนไหวเรียกร้องขอประกันตัว คดี 112

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย.-นักวิชาการมองหลัง “ทักษิณ” ได้ประกันตัวคดี 112 อาจมีเคลื่อนไหวเรียกร้องขอประกันตัว เพื่อสร้างบรรทัดฐานความเท่าเทียม ประเมินถูกผลักเรื่องเข้าสู่การออกกฎหมายนิรโทษกรรม บอกกลุ่มพยายามจะตี 3 ล้ม คือ “ล้มเหลวไม่เป็นท่า”

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงคดีทางการเมืองใหญ่ 4 เรื่องในวันนี้ (18 มิ.ย.) ว่า กรณีแรกที่ศาลอาญาให้ประกันตัว นายทักษิณ ชินวัตร คดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นั้น ถือว่าเป็นไปตามความคาดหมายของหลายคนที่บอกแล้วว่านายทักษิณ ไม่น่าจะหลบหนี ถึงแม้จะมีบางคนโน้มน้าวเรื่องการตัดสินใจของนายทักษิณ ให้หนีเพื่อเข้าทางกลุ่มพลังอำนาจ ทางการเมืองที่จะล้มรัฐบาล แต่เมื่อคุณทักษิณ ตัดสินใจไม่หลบหนี และเข้าสู่กระบวนการ โดยสิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ไม่แน่ใจว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าใดในการต่อสู้ในชั้นศาล เพียงแต่ข้อเรียกร้องทางสังคมเรื่องการประกันตัวนักโทษคดี 112 ก็จะเกิดขึ้นทันที เพราะกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองจะเรียกร้องขอประกันตัวเพื่อสร้างบรรทัดฐานความเท่าเทียมของความเป็นมนุษย์ ระหว่างนายทักษิณกับผู้ต้องหาคนอื่นทำให้เรื่องนี้จะเกี่ยวโยงถึงแนวทางการออกกฏหมายนิรโทษกรรม เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของนายทักษิณคนเดียวแต่จะมีความสัมพันธ์กับเรื่องอื่นด้วย เนื่องจากนายทักษิณได้ประกันตัว แต่ผู้ต้องหาคดี 112 อีกหลาย 10 ชีวิตมีความพยายามหลายครั้งในการยื่นขอประกันแต่ไม่ได้รับการประกันตัว ถึงแม้จะมีก็อาจจะเป็นในส่วนน้อยมาก ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นใหม่ทางการเมืองเกิดขึ้น จนทำให้มีความชอบธรรมในการผลักเรื่องนี้เข้าสู่การออกกฏหมายนิรโทษกรรม และไปรับลูกกับท่าทีของกรรมาธิการ ท่าทีของพรรคการเมืองรวมถึงกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ก่อให้เกิดแนวร่วมมุมกลับระหว่างกรรมาธิการในสายพรรคเพื่อไทยและกรรมาธิการในสายพรรคก้าวไกล จากเหตุการณ์นี้


ส่วนประเด็นการเมืองนอกสภา การวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองการตัดสินใจของนายทักษิณ และได้ประกันตัวถือว่าทำให้นายทักษิณ เป็นคนที่มีบารมีทางการเมืองที่สูงขึ้น ณ เวลานี้ บวกกับมีคดีที่ สว. 40 คน ร้องศาลรัฐธรรมนูญ กรณีความเป็นรัฐของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จากการตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ก็ทำให้อำนาจการเมืองนอกสภาของนายทักษิณ ปรากฏชัดมากขึ้น

“กลุ่มคนพยายามจะตี 3 ล้ม คือล้มรัฐบาล ยุบพรรคก้าวไกล และทำลายการเลือก สว.ชุดใหม่ ถ้าดูแล้วขอสรุปได้เลยว่า “ล้มเหลวไม่เป็นท่า” อีกทั้งยังทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ไร้อำนาจการต่อรอง เพราะความพยายามในการทำ 3 ล้ม ไม่สำเร็จ และนายทักษิณ มีอำนาจมากขึ้น ดังนั้นหลังจากนี้ไปการขยับเขยื้อนทางการเมืองของนายทักษิณก็จะทำง่ายขึ้น เนื่องจากทุกอย่างอยู่ในกลไกที่นายทักษิณ สามารถคุมสภาพได้ ทั้ง สส. สว.ที่กำลังเลือก อยู่ในเครือข่ายของพรรคการเมืองใหญ่ รวมถึงหลังจากนี้กลุ่มทุนน่าจะเข้าหานายทักษิณ”รศ.ดร.โอฬาร ระบุ


เมื่อถามว่าจังหวะก้าวเดินสายของนายทักษิณ ในช่วงการพักโทษที่ผ่านมา ส่งผลดีหรือเสียมากกว่ากัน รศ.ดร.โอฬาร มองว่า ไม่ส่งผลดีกับกลุ่มที่ไม่ชอบนายทักษิณ ก็จะยังคงความไม่ชอบ รวมถึงถูกมองว่าเป็นอภิสิทธิ์ชน เหมือนเป็นการเติมคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลไปด้วย แต่หากพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค และนายทักษิณ เดินสายพบปะบ้านใหญ่ ดิวคุยผลประโยชน์กันลงตัว ควบคุมกลไกโดยรอบได้แบบนี้คำถามคือหากพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่ พรรคก้าวไกลจะตั้งหลักไม่ทัน นี่ถือเป็นการช่วงชิงโอกาสทางการเมือง มีโอกาสในการกลับมาจัดตั้งรัฐบาล

“ถ้าเราเชื่อว่ามีดิวจริงๆ แล้วการไปดิวต้องการจัดสรรส่วนแบ่งอำนาจของนายทักษิณ ดูการตั้งรัฐบาลเหมือนจะถูกกินรวบ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นนายทักษิณกินรวบแทน ต้องยอมรับชั้นเชิญของนายทักษิณ” รศ.ดร.โอฬาร ระบุ

สำหรับการเลือก สว. หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าสี่มาตราของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ นั้น รศ.ดร.โอฬาร กล่าวว่า การเลือก สว. ถือว่าผ่านฉลุยถึงแม้จะมีหลักฐานเรื่องการฮั้วหรือล็อคโหวตกัน แต่ กกต. ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานก็ไม่สามารถทำอะไรได้


ส่วนจะไม่มีสะดุดหรือล้มกระดานตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ใช่หรือไม่ รศ.ดร.โอฬาร กล่าวว่าจะสะดุดล้มก็ต่อเมื่อมีพยานหลักฐานและมีผู้ร้องเยอะจนเกิดความวุ่นวายจนคุมสถานการณ์ไม่ได้ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่าตอนนี้ กกต. แกล้งหลับตาข้างเดียวหรือไม่เพราะแม้จะมีเรื่องแต่ก็ออกมาระบุว่าสถานการณ์เรียบร้อย ไม่มีปัญหาข้อบกพร่อง และผลักภาระให้กับผู้ร้อง แต่ถึงแม้มีปัญหาผู้ที่ได้รับเลือกถูกร้องก็ยังมี ลำดับสำรองไว้อีก 100 คน ทำให้การเลือกเสร็จสิ้นตามกระบวนการแต่ความชอบธรรมเป็นเรื่องที่ประชาชนจะประเมิน

ขณะที่คดียุบของพรรคก้าวไกล มอง การต่อสู้ของพรรคก้าวไกลจะเป็นลักษณะบู๊ล้างผลาญแต่จะสู้อยู่ในกรอบและแง่กฎหมาย ที่ตนเองมีความได้เปรียบ ทำให้มีโอกาสรอดจากการถูกยุบพรรคได้ เพราะการที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกหลักฐานเพิ่มเติมจาก กกต. จากข้อชี้แจงของพรรคก้าวไกลและ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาแถลงประเด็นที่กกต. ทำไม่ครบถ้วนกระบวนความยื่นร้องยุบพรรค สามารถตีความได้ว่า ศาลมองไปเช่นนั้นจึงไม่สามารถร้องยุบพรรคก้าวไกลได้

รศ.ดร.โอฬาร ยังกล่าวถึงประเด็นของนายเศรษฐา ที่ถูก 40 สว. ร้องศาลถึงความเป็นรัฐมนตรี ว่าหากผลออกมาไม่เป็นคุณ แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยยังมีแคนดิเดตนายกฯ อีกสอง คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายชัยเกษม นิติศิริ ทำให้การที่จะให้ลุงในป่ามาเป็นเองคงเป็นไปได้ยาก เพราะคงไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 250 เสียง อีกทั้งสว. ชุดเดิมที่ถือเป็นฐาน ก็จะหมดอำนาจไปด้วย.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]