นักวิชาการมองอาจมีเคลื่อนไหวเรียกร้องขอประกันตัว คดี 112

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย.-นักวิชาการมองหลัง “ทักษิณ” ได้ประกันตัวคดี 112 อาจมีเคลื่อนไหวเรียกร้องขอประกันตัว เพื่อสร้างบรรทัดฐานความเท่าเทียม ประเมินถูกผลักเรื่องเข้าสู่การออกกฎหมายนิรโทษกรรม บอกกลุ่มพยายามจะตี 3 ล้ม คือ “ล้มเหลวไม่เป็นท่า”

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงคดีทางการเมืองใหญ่ 4 เรื่องในวันนี้ (18 มิ.ย.) ว่า กรณีแรกที่ศาลอาญาให้ประกันตัว นายทักษิณ ชินวัตร คดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นั้น ถือว่าเป็นไปตามความคาดหมายของหลายคนที่บอกแล้วว่านายทักษิณ ไม่น่าจะหลบหนี ถึงแม้จะมีบางคนโน้มน้าวเรื่องการตัดสินใจของนายทักษิณ ให้หนีเพื่อเข้าทางกลุ่มพลังอำนาจ ทางการเมืองที่จะล้มรัฐบาล แต่เมื่อคุณทักษิณ ตัดสินใจไม่หลบหนี และเข้าสู่กระบวนการ โดยสิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ไม่แน่ใจว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าใดในการต่อสู้ในชั้นศาล เพียงแต่ข้อเรียกร้องทางสังคมเรื่องการประกันตัวนักโทษคดี 112 ก็จะเกิดขึ้นทันที เพราะกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองจะเรียกร้องขอประกันตัวเพื่อสร้างบรรทัดฐานความเท่าเทียมของความเป็นมนุษย์ ระหว่างนายทักษิณกับผู้ต้องหาคนอื่นทำให้เรื่องนี้จะเกี่ยวโยงถึงแนวทางการออกกฏหมายนิรโทษกรรม เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของนายทักษิณคนเดียวแต่จะมีความสัมพันธ์กับเรื่องอื่นด้วย เนื่องจากนายทักษิณได้ประกันตัว แต่ผู้ต้องหาคดี 112 อีกหลาย 10 ชีวิตมีความพยายามหลายครั้งในการยื่นขอประกันแต่ไม่ได้รับการประกันตัว ถึงแม้จะมีก็อาจจะเป็นในส่วนน้อยมาก ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นใหม่ทางการเมืองเกิดขึ้น จนทำให้มีความชอบธรรมในการผลักเรื่องนี้เข้าสู่การออกกฏหมายนิรโทษกรรม และไปรับลูกกับท่าทีของกรรมาธิการ ท่าทีของพรรคการเมืองรวมถึงกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ก่อให้เกิดแนวร่วมมุมกลับระหว่างกรรมาธิการในสายพรรคเพื่อไทยและกรรมาธิการในสายพรรคก้าวไกล จากเหตุการณ์นี้


ส่วนประเด็นการเมืองนอกสภา การวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองการตัดสินใจของนายทักษิณ และได้ประกันตัวถือว่าทำให้นายทักษิณ เป็นคนที่มีบารมีทางการเมืองที่สูงขึ้น ณ เวลานี้ บวกกับมีคดีที่ สว. 40 คน ร้องศาลรัฐธรรมนูญ กรณีความเป็นรัฐของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จากการตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ก็ทำให้อำนาจการเมืองนอกสภาของนายทักษิณ ปรากฏชัดมากขึ้น

“กลุ่มคนพยายามจะตี 3 ล้ม คือล้มรัฐบาล ยุบพรรคก้าวไกล และทำลายการเลือก สว.ชุดใหม่ ถ้าดูแล้วขอสรุปได้เลยว่า “ล้มเหลวไม่เป็นท่า” อีกทั้งยังทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ไร้อำนาจการต่อรอง เพราะความพยายามในการทำ 3 ล้ม ไม่สำเร็จ และนายทักษิณ มีอำนาจมากขึ้น ดังนั้นหลังจากนี้ไปการขยับเขยื้อนทางการเมืองของนายทักษิณก็จะทำง่ายขึ้น เนื่องจากทุกอย่างอยู่ในกลไกที่นายทักษิณ สามารถคุมสภาพได้ ทั้ง สส. สว.ที่กำลังเลือก อยู่ในเครือข่ายของพรรคการเมืองใหญ่ รวมถึงหลังจากนี้กลุ่มทุนน่าจะเข้าหานายทักษิณ”รศ.ดร.โอฬาร ระบุ


เมื่อถามว่าจังหวะก้าวเดินสายของนายทักษิณ ในช่วงการพักโทษที่ผ่านมา ส่งผลดีหรือเสียมากกว่ากัน รศ.ดร.โอฬาร มองว่า ไม่ส่งผลดีกับกลุ่มที่ไม่ชอบนายทักษิณ ก็จะยังคงความไม่ชอบ รวมถึงถูกมองว่าเป็นอภิสิทธิ์ชน เหมือนเป็นการเติมคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลไปด้วย แต่หากพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค และนายทักษิณ เดินสายพบปะบ้านใหญ่ ดิวคุยผลประโยชน์กันลงตัว ควบคุมกลไกโดยรอบได้แบบนี้คำถามคือหากพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่ พรรคก้าวไกลจะตั้งหลักไม่ทัน นี่ถือเป็นการช่วงชิงโอกาสทางการเมือง มีโอกาสในการกลับมาจัดตั้งรัฐบาล

“ถ้าเราเชื่อว่ามีดิวจริงๆ แล้วการไปดิวต้องการจัดสรรส่วนแบ่งอำนาจของนายทักษิณ ดูการตั้งรัฐบาลเหมือนจะถูกกินรวบ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นนายทักษิณกินรวบแทน ต้องยอมรับชั้นเชิญของนายทักษิณ” รศ.ดร.โอฬาร ระบุ

สำหรับการเลือก สว. หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าสี่มาตราของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ นั้น รศ.ดร.โอฬาร กล่าวว่า การเลือก สว. ถือว่าผ่านฉลุยถึงแม้จะมีหลักฐานเรื่องการฮั้วหรือล็อคโหวตกัน แต่ กกต. ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานก็ไม่สามารถทำอะไรได้


ส่วนจะไม่มีสะดุดหรือล้มกระดานตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ใช่หรือไม่ รศ.ดร.โอฬาร กล่าวว่าจะสะดุดล้มก็ต่อเมื่อมีพยานหลักฐานและมีผู้ร้องเยอะจนเกิดความวุ่นวายจนคุมสถานการณ์ไม่ได้ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่าตอนนี้ กกต. แกล้งหลับตาข้างเดียวหรือไม่เพราะแม้จะมีเรื่องแต่ก็ออกมาระบุว่าสถานการณ์เรียบร้อย ไม่มีปัญหาข้อบกพร่อง และผลักภาระให้กับผู้ร้อง แต่ถึงแม้มีปัญหาผู้ที่ได้รับเลือกถูกร้องก็ยังมี ลำดับสำรองไว้อีก 100 คน ทำให้การเลือกเสร็จสิ้นตามกระบวนการแต่ความชอบธรรมเป็นเรื่องที่ประชาชนจะประเมิน

ขณะที่คดียุบของพรรคก้าวไกล มอง การต่อสู้ของพรรคก้าวไกลจะเป็นลักษณะบู๊ล้างผลาญแต่จะสู้อยู่ในกรอบและแง่กฎหมาย ที่ตนเองมีความได้เปรียบ ทำให้มีโอกาสรอดจากการถูกยุบพรรคได้ เพราะการที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกหลักฐานเพิ่มเติมจาก กกต. จากข้อชี้แจงของพรรคก้าวไกลและ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาแถลงประเด็นที่กกต. ทำไม่ครบถ้วนกระบวนความยื่นร้องยุบพรรค สามารถตีความได้ว่า ศาลมองไปเช่นนั้นจึงไม่สามารถร้องยุบพรรคก้าวไกลได้

รศ.ดร.โอฬาร ยังกล่าวถึงประเด็นของนายเศรษฐา ที่ถูก 40 สว. ร้องศาลถึงความเป็นรัฐมนตรี ว่าหากผลออกมาไม่เป็นคุณ แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยยังมีแคนดิเดตนายกฯ อีกสอง คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายชัยเกษม นิติศิริ ทำให้การที่จะให้ลุงในป่ามาเป็นเองคงเป็นไปได้ยาก เพราะคงไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 250 เสียง อีกทั้งสว. ชุดเดิมที่ถือเป็นฐาน ก็จะหมดอำนาจไปด้วย.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย