รัฐสภา 18 มิ.ย.- สภาฯ เดินหน้าถกแก้ กม.ประชามติ “เพื่อไทย” แจงแก้ระบบเสียงข้างมาก 2 ชั้น หวังดัน รธน.ผ่านง่าย ด้าน “ก้าวไกล” ท้วงให้เขียนกติกาเป็นธรรม ไม่วางเป้าเพื่อให้ได้เปรียบเรื่องแก้ รธน.
ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ…. ซึ่งมีผู้เสนอสู่สภาฯ รวม 4 ฉบับ คือ ฉบับของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฉบับของพรรคเพื่อไทย ฉบับของพรรคก้าวไกล และฉบับของพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ ก่อนการอภิปราย ผู้ที่เสนอร่างกฎหมายได้ชี้แจงต่อสภาฯ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ ในการชี้แจงฉบับของพรรคเพื่อไทย เสนอโดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการแก้ไขประเด็นการออกเสียงเพื่อนำไปสู่การผ่านประชามติ จากเดิมที่ใช้เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง 2 ชั้น คือ ผู้มาใช้สิทธิต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ และ เสียงเห็นชอบต้องเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ ถือว่าเป็นประเด็นสำคัญ หากเทียบกับการประชามติรัฐธรรรมนูญ 2560 พบว่ามีผู้มีสิทธิ 50 ล้านคน ออกมาใช้สิทธิ 29.7 ล้านคน เห็นชอบ 16.8 ล้านเสียง ไม่เห็นชอบ 10.5 ล้านเสียง หากมีผู้ไม่ออกมาใช้สิทธิ 4 ล้านคน รัฐธรรมนูญ 2560 จะไม่ผ่าน ทั้งนี้ การออกเสียงประชามติมีเหตุผลความจำเป็นต้องการสอบถามความเห็นประชาชน ดังนั้นเรื่องนี้อาจเป็นปัญหา โดยเฉพาะประชามติแก้ไขเพิ่มเติมหรือจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นควรแก้ไขเพื่อให้ปฏิบัติได้ ไม่ใช่ใช้เสียงมากเกินไป
ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า การแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ตนมองว่าไม่ควรออกแบบให้โดยยึดติดเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหลักเท่านั้น เพราะ พ.ร.บ.ประชามติ ไม่ใช่ทุกอย่างที่ส่งผลต่อกระบวนการทำรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีตัวแปรซึ่งกำหนดว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้เร็ว หรือมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย เป็นประเด็นที่อยู่นอกเหนือกฎหมายประชามติ อย่างไรก็ดี ตนเห็นต่างเรื่องจำนวนครั้งของการทำประชามติ และควรมีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง 100% ของประชาชน ทั้งนี้ ครม.ยังไม่รับหลักการดังกล่าว
“ครม.ไม่เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ จนกว่ามี พ.ร.บ.ประชามติ ฉบับใหม่ ทั้งที่โฆษกรัฐบาลกำหนดว่าจะทำประชามติครั้งแรกในระหว่างวันที่ 21 ก.ค.-21 ส.ค. นั้นไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ ผมไม่ได้รับคำยืนยันด้วยว่า หาก ครม.ต้องแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ก่อนจัดทำประชามติครั้งแรก ทำไมต้องรอจนถึงวันนี้ ทั้งนี้ ร่างของพรรคเพื่อไทย และร่างของพรรคก้าวไกล เสนอสู่สภาฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.67” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวว่า เมื่อทุกพรรคและรัฐสภามีธงชัดเจนอยากเห็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากออกแบบกฎหมายประชามติโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผลลัพธ์ของประชามติเกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ จะถูกตั้งคำถามว่าต้องการแก้กติกาเพื่อให้ฝ่ายที่สนับสนุนได้เปรียบใช่หรือไม่ อย่างไรก็ดี ตนขอเรียกร้องให้ สส. คำนึงถึงเป้าหมายของการออกแบบกติกาประชามติ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เหมาะสม ประสิทธิภาพ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ว่าประชามติเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ หรือเราสนับสนุนฝ่ายที่เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับประเทศที่ถูกถามในเรื่องการทำประชามติ.-312-สำนักข่าวไทย