“มาริษ” โชว์วิสัยทัศน์ มุ่งผลักดันบทบาทไทยในเวทีโลก

15 มิ.ย.- “มาริษ” แสดงวิสัยทัศน์ “Re-ignite Thai Diplomacy” ขับเคลื่อนภารกิจด้านการต่างประเทศ ให้ไทยกลับมาเป็นจุดสนใจของทุกประเทศทั่วโลก


นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบปะสื่อมวลชน พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ “Re-ignite Thai Diplomacy” เกี่ยวกับภารกิจด้านการต่างประเทศที่ได้รับมอบหมายจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า กระทรวงการต่างประเทศจะมุ่งมั่นฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้ต่างประเทศกลับมาเชื่อมั่นดังเดิม เนื่องจากที่ผ่านมาไทยสูญเสียโอกาสไปมาก ฉะนั้นกระทรวงฯ จะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านธุรกิจ การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว เราจึงพยายามย้ำให้ต่างชาติทราบว่าขณะนี้ประเทศไทยกลับมาสู่การเป็นประชาธิปไตยแล้ว ซึ่งไม่มีช่วงเวลาใดเหมาะสมที่จะทำธุรกิจกับประเทศเราเท่าตอนนี้ เพราะรัฐบาลชุดนี้ถือเป็น Pro business ที่สมบูรณ์แบบ

ขณะเดียวกัน เราจะเน้นให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยพยายามผลักดันเรื่องนโยบายเศรษฐกิจและการต่างประเทศ ให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสของทั้งสองประเทศได้ประโยชน์ พร้อมกับเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทั้งเรื่องฝีมือแรงงานและการศึกษาด้วย เนื่องจากถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ


อย่างไรก็ดี นายมาริษ ย้ำว่า สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือความร่วมมือของสถานเอกอัครราชทูตทั่วโลก ที่จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และผลักดันให้ผลลัพธ์เกิดเป็นรูปธรรม ด้วยเหตุนี้ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องทำงานร่วมกันอย่างแข็งขัน เพื่อทำให้ความมุ่นมั่นนี้สำเร็จ เพราะส่วนตัวเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพพร้อมอยู่แล้ว ทั้งด้านอาหาร การท่องเที่ยว และการแพทย์ ดังนั้นหากเราสามารถเป็นศูนย์กลางโลกในมิติต่างๆ ได้ตามแนวนโยบาย Ignite Thailand ของนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่าจะช่วยขับเคลื่อนประเทศให้ไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ยังให้คำมั่นด้วยว่า จะพยายามผลักดันเขตการค้าเสรี หรือ FTA ที่เป็นตลาดใหม่ๆ อาทิ ในกลุ่มประเทศแอฟริกา เอเชียกลาง และลาตินอเมริกา เพื่อปูพื้นฐานให้นายกรัฐมนตรีได้มีโอกาสเดินทางไปเจรจาและประสบผลสำเร็จในการเยือน โดยเรื่องนี้จะทำไปพร้อมๆกับการให้วีซ่าฟรี นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะกว่า 20% ของGDP ประเทศไทยล้วนมาจากการท่องเที่ยว ฉะนั้นเราจะเดินหน้านโยบาย 6 countries 1 destination เพื่อร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีชายแดนติดต่อกัน ให้ภาคการท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น แต่สำหรับข้อกังวลเรื่องความมั่นคงนั้น นายมาริษ กล่าวว่าจะมีการนำระบบ ETA (Electronic Traveling Authorization) มาช่วยติดตามนักท่องเที่ยว

ส่วนเรื่องการผลักดันซอต์ฟพาวเวอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า การแลกเปลี่ยนกับประเทศอื่นๆ จะทำให้ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ไทยจะต้องร่วมมือกับอาเซียนและกรอบความร่วมมือต่างๆ อาทิ BRICS OECD และ IPEF เพื่อสร้างพลังในเวทีโลกและแก้ไขปัญหาต่างๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝุ่น PM2.5 ความมั่นคง ยาเสพติด และคอลเซ็นเตอร์


ก่อนกล่าวทิ้งท้ายถึงมาตรการคุ้มครองคนไทย โดยยืนยันว่าจะดูแลคุ้มครองคนไทยให้ทันกับเหตุการณ์ และทำให้สอดคล้องกับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เพราะไทยเป็นประเทศที่ไม่มีศัตรูและเป็นมิตรกับทุกประเทศ ฉะนั้นเราจะมีบทบาทเป็นตัวเชื่อมที่ทำให้นานาประเทศเกิดความสันติสุข .312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ