เพื่อไทยขอรอผลศึกษา กมธ.นิรโทษกรรม เรื่อง 112

รัฐสภา 6 มิ.ย.-“วิสุทธิ์” ยันเพื่อไทยขอรอผลศึกษา กมธ.นิรโทษกรรมเรื่อง 112 ก่อนตัดสินใจ ลั่นไม่กังวลแม้โยง “ทักษิณ” ย้ำไม่มีผล ต่อเสถียรภาพรัฐบาล เชื่อ “เศรษฐา” ตั้ง “วิษณุ” คิดดีแล้ว มั่นใจไม่มีคลื่นใต้น้ำ บอกกระบวนการ 3 ล้มเป็นแค่จินตนาการ

นายวิสุทธิ์ ​ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงจุดยืนของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ในการนิรโทษกรรมให้กับคดี 112 ว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในสภา ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา ดังนั้น จึงต้องรอฟังก่อนว่าคณะกรรมาธิการที่มาจากทุกพรรคการเมืองว่าอย่างไร และเชื่อว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานและไม่มีอะไรน่ากังวล แต่หลายคนพยายามหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อพาดพิงถึงบางคน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นผลการศึกษาเลยไม่ควรตีตนไปก่อนไข้


สำหรับกรณีที่มีคนจับตาเพราะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดนคดีมาตรา 112 ด้วยนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องที่นายทักษิณ จะต้องกังวล เพราะถ้ากังวลคงไม่กลับมา แต่ตนเชื่อมั่นว่านายทักษิณ มั่นใจในพยานหลักฐานทางคดีจึงกลับมา ซึ่งตนและพรรคเพื่อไทยก็ไม่กังวล

ส่วนนอกจากนี้ยังมีข่าวดีอื่นๆ รุมเร้า รวมถึงคดีของนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีด้วย จะสั่นคลอนต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่นั้น ประธานวิป กล่าวว่า ไม่มีผลต่อเสถียรภาพอะไรของรัฐบาลทั้งนั้นไม่ว่าคดีอะไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะกรณีของ นายกรัฐมนตรีเพราะก่อนตั้งนายพิชิต ก็ได้ปรึกษากฤษฎีกาแล้ว ดังนั้นไม่มีอะไรน่าหนักใจและในพรรคก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ และในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่มีรายงานข่าวว่ามีความวิตกกังวลเรื่องการตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีนั้น ซึ่งตนนั่งเป็นประธานในที่ประชุมพรรคขอยืนยันว่าไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ แต่กลับมีการไปมโน ว่าหัวหน้าพรรคขอพูดซึ่งยืนยันว่าไม่มี เพียงแต่ตนประธานในที่ประชุมได้เชิญหัวหน้าพรรคพูด เรื่องความรักความสามัคคี และสิ่งที่พูด ทุกคนประทับใจถึงขั้นปรบมือกันทั้งพรรค คือสิ่งที่หัวหน้าพรรคพูดว่า ครอบครัวจะโดนอะไรมาก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่จะทำไม่ใช่เรื่องแค่แค้นมีแต่การแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน ขอให้สสทุกคนออกไปรับฟังปัญหา และนำมาเสนอ เพื่อให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ยืนยันไม่มีใครพูดถึงขั้นว่าจะทำให้พรรคแตก และหลังจากที่หัวหน้าพรรคพูดก็ไม่มี สส.คนใดถามแม้แต่คนเดียว ดังนั้นยืนยันว่าไม่มีใครติดใจเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ตั้งนายวิษณุ เป็นที่ปรึกษา เพราะมอบอำนาจให้นายกรัฐมนตรีไปแล้ว จึงมีอำนาจในการตัดสินใจ คงคิดดีและคิดถูกแล้วและคงปรึกษาหลายๆคนแล้วด้วย พร้อมย้ำว่า หากมีคนที่มีความสามารถมาเป็นที่ปรึกษาจะไม่ดีได้อย่างไร ตนคิดว่าต้องตั้งอีกเป็นร้อยด้วยซ้ำ ซึ่งนายวิษณุ อยู่กับพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย การเมืองมีการเปลี่ยนข้างบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะต้องมาตีตราว่าคนนั้นคนนี้อยู่พรรคนี้มาก่อน หรืออยู่ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้มาก่อนหากคิดเช่นนี้ประเทศชาติจะเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ตนคิดว่าวันนี้ใครจะใส่เสื้อสีไหนก็ไม่สำคัญ ดังนั้นเราต้องเดินไปข้างหน้า


ส่วนมีความมั่นใจต่อการต่อสู้คดีที่มีที่มีนายวิษณุ มาเป็นที่ปรึกษานั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมานายวิษณุ อยู่มานาน ต้นมาเป็น สส.ครั้งแรกเมื่อปี 44 ก็เห็นนายวิษณุมาเป็นเลขาครม.แล้ว และมาเป็นรองนายกในสมัยที่นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง “วิษณุ” อยู่กับนายกฯ มาทุกสมัย ถ้าไม่มีฝีมือจริงคงอยู่ไม่ได้ขนาดนั้น ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นขออย่ากังวล

นายวิสุทธิ์ ยังปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่าหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง แล้วทำให้เกิดการเปลี่ยนตัวนายกฯ จะทำอย่างไร โดยบอกเพียงว่าเรื่องยังไม่เกิดแต่เชื่อว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีใครกังวล

ส่วนที่มีรายงานกระบวนการ 3 ล้ม นั้นนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ล้มนั่นล้มนี่มีคนจินตนาการกันเยอะแยะ ซึ่งคนเหล่านั้นไม่ได้มาเหยียบพรรคตนแต่รู้มากกว่าตนอีก ซึ่งตนเป็นประธาน สส.ยังไม่รู้เท่า ถือเป็นการจินตนาการเรื่องนั้นเรื่องนี้ว่าจะมีคนถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคนเหล่านี้คิดแต่เรื่องไม่สร้างสรรค์ ความเกลียดชังอะไรกันนักหนาและสงสัยว่าในใจมีความเกลียดชังอะไรกันนักหนา ขอให้เลิกได้แล้วเพราะประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า ประชาชนต้องรอดเศรษฐกิจต้องดี ส่วนเรื่องที่จะล้มคนนั้นคนนี้เป็นความคิดที่อาฆาตมาดร้าย ขอให้ไปฟังธรรมะบ้าง จิตใจจะได้แจ่มใส ซึ่งตนเองไม่อยากให้มีใครล้มหายตายจากหรือมีเรื่องมีราวอะไรทั้งนั้น


เมื่อถามยามว่า สส. ในพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีคลื่นใต้น้ำใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในพรรคเพื่อไทยทุกคนเชื่อมั่นในนายกรัฐมนตรีและตนยังไม่เคยได้ยินซึ่งตนเปิดใจฟัง สส.ทุกคน มีแต่ให้กำลังใจเห็นว่านายกทำงานหนักมาก มีแต่เป็นห่วงสุขภาพ นายกรัฐมนตรีและดีใจที่ทุ่มเทเอาใจใส่แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนซึ่งปัญหาเก่าหมักหมมมานาน พวกเราไม่ได้ว่าอะไร หรือคิดล้มอะไร มีแต่คิดจะส่งเสริม ให้นายกฯ เดินไปข้างหน้าและทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองรอด.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]