รัฐสภา 6 มิ.ย.-“วิสุทธิ์” ยันเพื่อไทยขอรอผลศึกษา กมธ.นิรโทษกรรมเรื่อง 112 ก่อนตัดสินใจ ลั่นไม่กังวลแม้โยง “ทักษิณ” ย้ำไม่มีผล ต่อเสถียรภาพรัฐบาล เชื่อ “เศรษฐา” ตั้ง “วิษณุ” คิดดีแล้ว มั่นใจไม่มีคลื่นใต้น้ำ บอกกระบวนการ 3 ล้มเป็นแค่จินตนาการ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงจุดยืนของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ในการนิรโทษกรรมให้กับคดี 112 ว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในสภา ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา ดังนั้น จึงต้องรอฟังก่อนว่าคณะกรรมาธิการที่มาจากทุกพรรคการเมืองว่าอย่างไร และเชื่อว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานและไม่มีอะไรน่ากังวล แต่หลายคนพยายามหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อพาดพิงถึงบางคน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นผลการศึกษาเลยไม่ควรตีตนไปก่อนไข้
สำหรับกรณีที่มีคนจับตาเพราะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดนคดีมาตรา 112 ด้วยนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องที่นายทักษิณ จะต้องกังวล เพราะถ้ากังวลคงไม่กลับมา แต่ตนเชื่อมั่นว่านายทักษิณ มั่นใจในพยานหลักฐานทางคดีจึงกลับมา ซึ่งตนและพรรคเพื่อไทยก็ไม่กังวล
ส่วนนอกจากนี้ยังมีข่าวดีอื่นๆ รุมเร้า รวมถึงคดีของนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีด้วย จะสั่นคลอนต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่นั้น ประธานวิป กล่าวว่า ไม่มีผลต่อเสถียรภาพอะไรของรัฐบาลทั้งนั้นไม่ว่าคดีอะไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะกรณีของ นายกรัฐมนตรีเพราะก่อนตั้งนายพิชิต ก็ได้ปรึกษากฤษฎีกาแล้ว ดังนั้นไม่มีอะไรน่าหนักใจและในพรรคก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ และในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่มีรายงานข่าวว่ามีความวิตกกังวลเรื่องการตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีนั้น ซึ่งตนนั่งเป็นประธานในที่ประชุมพรรคขอยืนยันว่าไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ แต่กลับมีการไปมโน ว่าหัวหน้าพรรคขอพูดซึ่งยืนยันว่าไม่มี เพียงแต่ตนประธานในที่ประชุมได้เชิญหัวหน้าพรรคพูด เรื่องความรักความสามัคคี และสิ่งที่พูด ทุกคนประทับใจถึงขั้นปรบมือกันทั้งพรรค คือสิ่งที่หัวหน้าพรรคพูดว่า ครอบครัวจะโดนอะไรมาก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่จะทำไม่ใช่เรื่องแค่แค้นมีแต่การแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน ขอให้สสทุกคนออกไปรับฟังปัญหา และนำมาเสนอ เพื่อให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ยืนยันไม่มีใครพูดถึงขั้นว่าจะทำให้พรรคแตก และหลังจากที่หัวหน้าพรรคพูดก็ไม่มี สส.คนใดถามแม้แต่คนเดียว ดังนั้นยืนยันว่าไม่มีใครติดใจเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ตั้งนายวิษณุ เป็นที่ปรึกษา เพราะมอบอำนาจให้นายกรัฐมนตรีไปแล้ว จึงมีอำนาจในการตัดสินใจ คงคิดดีและคิดถูกแล้วและคงปรึกษาหลายๆคนแล้วด้วย พร้อมย้ำว่า หากมีคนที่มีความสามารถมาเป็นที่ปรึกษาจะไม่ดีได้อย่างไร ตนคิดว่าต้องตั้งอีกเป็นร้อยด้วยซ้ำ ซึ่งนายวิษณุ อยู่กับพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย การเมืองมีการเปลี่ยนข้างบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะต้องมาตีตราว่าคนนั้นคนนี้อยู่พรรคนี้มาก่อน หรืออยู่ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้มาก่อนหากคิดเช่นนี้ประเทศชาติจะเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ตนคิดว่าวันนี้ใครจะใส่เสื้อสีไหนก็ไม่สำคัญ ดังนั้นเราต้องเดินไปข้างหน้า
ส่วนมีความมั่นใจต่อการต่อสู้คดีที่มีที่มีนายวิษณุ มาเป็นที่ปรึกษานั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมานายวิษณุ อยู่มานาน ต้นมาเป็น สส.ครั้งแรกเมื่อปี 44 ก็เห็นนายวิษณุมาเป็นเลขาครม.แล้ว และมาเป็นรองนายกในสมัยที่นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง “วิษณุ” อยู่กับนายกฯ มาทุกสมัย ถ้าไม่มีฝีมือจริงคงอยู่ไม่ได้ขนาดนั้น ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นขออย่ากังวล
นายวิสุทธิ์ ยังปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่าหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง แล้วทำให้เกิดการเปลี่ยนตัวนายกฯ จะทำอย่างไร โดยบอกเพียงว่าเรื่องยังไม่เกิดแต่เชื่อว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีใครกังวล
ส่วนที่มีรายงานกระบวนการ 3 ล้ม นั้นนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ล้มนั่นล้มนี่มีคนจินตนาการกันเยอะแยะ ซึ่งคนเหล่านั้นไม่ได้มาเหยียบพรรคตนแต่รู้มากกว่าตนอีก ซึ่งตนเป็นประธาน สส.ยังไม่รู้เท่า ถือเป็นการจินตนาการเรื่องนั้นเรื่องนี้ว่าจะมีคนถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคนเหล่านี้คิดแต่เรื่องไม่สร้างสรรค์ ความเกลียดชังอะไรกันนักหนาและสงสัยว่าในใจมีความเกลียดชังอะไรกันนักหนา ขอให้เลิกได้แล้วเพราะประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า ประชาชนต้องรอดเศรษฐกิจต้องดี ส่วนเรื่องที่จะล้มคนนั้นคนนี้เป็นความคิดที่อาฆาตมาดร้าย ขอให้ไปฟังธรรมะบ้าง จิตใจจะได้แจ่มใส ซึ่งตนเองไม่อยากให้มีใครล้มหายตายจากหรือมีเรื่องมีราวอะไรทั้งนั้น
เมื่อถามยามว่า สส. ในพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีคลื่นใต้น้ำใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในพรรคเพื่อไทยทุกคนเชื่อมั่นในนายกรัฐมนตรีและตนยังไม่เคยได้ยินซึ่งตนเปิดใจฟัง สส.ทุกคน มีแต่ให้กำลังใจเห็นว่านายกทำงานหนักมาก มีแต่เป็นห่วงสุขภาพ นายกรัฐมนตรีและดีใจที่ทุ่มเทเอาใจใส่แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนซึ่งปัญหาเก่าหมักหมมมานาน พวกเราไม่ได้ว่าอะไร หรือคิดล้มอะไร มีแต่คิดจะส่งเสริม ให้นายกฯ เดินไปข้างหน้าและทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองรอด.-312.-สำนักข่าวไทย