เพื่อไทยขอรอผลศึกษา กมธ.นิรโทษกรรม เรื่อง 112

รัฐสภา 6 มิ.ย.-“วิสุทธิ์” ยันเพื่อไทยขอรอผลศึกษา กมธ.นิรโทษกรรมเรื่อง 112 ก่อนตัดสินใจ ลั่นไม่กังวลแม้โยง “ทักษิณ” ย้ำไม่มีผล ต่อเสถียรภาพรัฐบาล เชื่อ “เศรษฐา” ตั้ง “วิษณุ” คิดดีแล้ว มั่นใจไม่มีคลื่นใต้น้ำ บอกกระบวนการ 3 ล้มเป็นแค่จินตนาการ

นายวิสุทธิ์ ​ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงจุดยืนของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ในการนิรโทษกรรมให้กับคดี 112 ว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในสภา ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา ดังนั้น จึงต้องรอฟังก่อนว่าคณะกรรมาธิการที่มาจากทุกพรรคการเมืองว่าอย่างไร และเชื่อว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานและไม่มีอะไรน่ากังวล แต่หลายคนพยายามหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อพาดพิงถึงบางคน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นผลการศึกษาเลยไม่ควรตีตนไปก่อนไข้


สำหรับกรณีที่มีคนจับตาเพราะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดนคดีมาตรา 112 ด้วยนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องที่นายทักษิณ จะต้องกังวล เพราะถ้ากังวลคงไม่กลับมา แต่ตนเชื่อมั่นว่านายทักษิณ มั่นใจในพยานหลักฐานทางคดีจึงกลับมา ซึ่งตนและพรรคเพื่อไทยก็ไม่กังวล

ส่วนนอกจากนี้ยังมีข่าวดีอื่นๆ รุมเร้า รวมถึงคดีของนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีด้วย จะสั่นคลอนต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่นั้น ประธานวิป กล่าวว่า ไม่มีผลต่อเสถียรภาพอะไรของรัฐบาลทั้งนั้นไม่ว่าคดีอะไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะกรณีของ นายกรัฐมนตรีเพราะก่อนตั้งนายพิชิต ก็ได้ปรึกษากฤษฎีกาแล้ว ดังนั้นไม่มีอะไรน่าหนักใจและในพรรคก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ และในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่มีรายงานข่าวว่ามีความวิตกกังวลเรื่องการตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีนั้น ซึ่งตนนั่งเป็นประธานในที่ประชุมพรรคขอยืนยันว่าไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ แต่กลับมีการไปมโน ว่าหัวหน้าพรรคขอพูดซึ่งยืนยันว่าไม่มี เพียงแต่ตนประธานในที่ประชุมได้เชิญหัวหน้าพรรคพูด เรื่องความรักความสามัคคี และสิ่งที่พูด ทุกคนประทับใจถึงขั้นปรบมือกันทั้งพรรค คือสิ่งที่หัวหน้าพรรคพูดว่า ครอบครัวจะโดนอะไรมาก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่จะทำไม่ใช่เรื่องแค่แค้นมีแต่การแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน ขอให้สสทุกคนออกไปรับฟังปัญหา และนำมาเสนอ เพื่อให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ยืนยันไม่มีใครพูดถึงขั้นว่าจะทำให้พรรคแตก และหลังจากที่หัวหน้าพรรคพูดก็ไม่มี สส.คนใดถามแม้แต่คนเดียว ดังนั้นยืนยันว่าไม่มีใครติดใจเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ตั้งนายวิษณุ เป็นที่ปรึกษา เพราะมอบอำนาจให้นายกรัฐมนตรีไปแล้ว จึงมีอำนาจในการตัดสินใจ คงคิดดีและคิดถูกแล้วและคงปรึกษาหลายๆคนแล้วด้วย พร้อมย้ำว่า หากมีคนที่มีความสามารถมาเป็นที่ปรึกษาจะไม่ดีได้อย่างไร ตนคิดว่าต้องตั้งอีกเป็นร้อยด้วยซ้ำ ซึ่งนายวิษณุ อยู่กับพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย การเมืองมีการเปลี่ยนข้างบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะต้องมาตีตราว่าคนนั้นคนนี้อยู่พรรคนี้มาก่อน หรืออยู่ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้มาก่อนหากคิดเช่นนี้ประเทศชาติจะเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ตนคิดว่าวันนี้ใครจะใส่เสื้อสีไหนก็ไม่สำคัญ ดังนั้นเราต้องเดินไปข้างหน้า


ส่วนมีความมั่นใจต่อการต่อสู้คดีที่มีที่มีนายวิษณุ มาเป็นที่ปรึกษานั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมานายวิษณุ อยู่มานาน ต้นมาเป็น สส.ครั้งแรกเมื่อปี 44 ก็เห็นนายวิษณุมาเป็นเลขาครม.แล้ว และมาเป็นรองนายกในสมัยที่นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง “วิษณุ” อยู่กับนายกฯ มาทุกสมัย ถ้าไม่มีฝีมือจริงคงอยู่ไม่ได้ขนาดนั้น ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นขออย่ากังวล

นายวิสุทธิ์ ยังปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่าหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง แล้วทำให้เกิดการเปลี่ยนตัวนายกฯ จะทำอย่างไร โดยบอกเพียงว่าเรื่องยังไม่เกิดแต่เชื่อว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีใครกังวล

ส่วนที่มีรายงานกระบวนการ 3 ล้ม นั้นนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ล้มนั่นล้มนี่มีคนจินตนาการกันเยอะแยะ ซึ่งคนเหล่านั้นไม่ได้มาเหยียบพรรคตนแต่รู้มากกว่าตนอีก ซึ่งตนเป็นประธาน สส.ยังไม่รู้เท่า ถือเป็นการจินตนาการเรื่องนั้นเรื่องนี้ว่าจะมีคนถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคนเหล่านี้คิดแต่เรื่องไม่สร้างสรรค์ ความเกลียดชังอะไรกันนักหนาและสงสัยว่าในใจมีความเกลียดชังอะไรกันนักหนา ขอให้เลิกได้แล้วเพราะประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า ประชาชนต้องรอดเศรษฐกิจต้องดี ส่วนเรื่องที่จะล้มคนนั้นคนนี้เป็นความคิดที่อาฆาตมาดร้าย ขอให้ไปฟังธรรมะบ้าง จิตใจจะได้แจ่มใส ซึ่งตนเองไม่อยากให้มีใครล้มหายตายจากหรือมีเรื่องมีราวอะไรทั้งนั้น


เมื่อถามยามว่า สส. ในพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีคลื่นใต้น้ำใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในพรรคเพื่อไทยทุกคนเชื่อมั่นในนายกรัฐมนตรีและตนยังไม่เคยได้ยินซึ่งตนเปิดใจฟัง สส.ทุกคน มีแต่ให้กำลังใจเห็นว่านายกทำงานหนักมาก มีแต่เป็นห่วงสุขภาพ นายกรัฐมนตรีและดีใจที่ทุ่มเทเอาใจใส่แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนซึ่งปัญหาเก่าหมักหมมมานาน พวกเราไม่ได้ว่าอะไร หรือคิดล้มอะไร มีแต่คิดจะส่งเสริม ให้นายกฯ เดินไปข้างหน้าและทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองรอด.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]