นราธิวาส 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หนุน “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า” เพื่อสร้างสันติสุข พร้อมเน้นขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ลงพื้นที่ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประชุมติดตามความคืบหน้าการยกระดับ พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยกับรัฐติดชายแดนของมาเลเซียสู่การเป็นเมืองคู่แฝด โดยมี พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พลโท ศานติ ศกุลตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 รองเลขาธิการ ศอ.บต. รองผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ร่วมประชุมรายงานความคืบหน้าการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การเดินทางลงมาพื้นที่ในครั้งนี้ ตั้งใจรับฟังทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน โดยเฉพาะประชาชน เยาวชน และผู้นำศาสนา ทั้งความยากลำบากและความสำเร็จในการทำงาน เพื่อให้เข้าใจพื้นที่มากขึ้น และสามารถนำไปปรับมอบนโยบายการทำงาน ขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด
นายภูมิธรรม ยังระบุว่า คำว่าสนามรบเป็นสนามการค้า เป็นเป้าหมายของรัฐบาลเพื่อสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยโครงการต่างๆที่กำลังดำเนินการ เช่น การพัฒนาเมืองคู่แฝด การพัฒนาด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก และการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 คาดว่าน่าจะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นในปี 2569 เนื่องจากกำลังเร่งพิจารณางบประมาณปี 68 ให้แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามทุกเรื่องที่นำเสนอเป็นการขับเคลื่อนและทำงานของ ศอ.บต. จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เพื่อชายแดนใต้และประเทศชาติ
จากนั้นนายภูมิธรรม และคณะลงพื้นที่ติดตามรับฟังความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก หรือสะพานสุไหงโก-ลก แห่งที่ 2 มีลักษณะโครงสร้างเป็นรูปเรือ มาจากการออกแบบของฝั่งประเทศมาเลเซีย สะท้อนภูมิปัญญาของทั้ง 2 ประเทศ
ความคืบหน้าการดำเนินโครงการเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมด้านเทคนิคร่วมไทย-มาเลเซีย หารือการสำรวจพื้นที่ในฝั่งไทย การปรับแบบ รายละเอียด การออกแบบ และกรอบระยะเวลาโครงการ นอกจากนี้กรมทางหลวงอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษา EIA และอยู่ระหว่างพิจารณาจัดทำร่างความตกลงการก่อสร้างร่วมกัน เนื่องจากบริเวณก่อสร้างสะพานดังกล่าว เป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นเวลานาน ดังนั้นต้องมีการหารือกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบมากที่สุด.-314.-สำนักข่าวไทย