เลขาฯ ป.ป.ช. ยันให้เอกสารสอบนาฬิกาหรู “บิ๊กป้อม” ครบถ้วนแล้ว

ป.ป.ช. 5 มิ.ย.-เลขาฯ ป.ป.ช. ยืนยันให้เอกสารสอบนาฬิกาหรู “บิ๊กป้อม” ครบถ้วนแล้ว สาบานต่อศาลพูดจริงทุกคำ เผยเตรียมถกยื่นอุทธรณ์ค่าปรับ 1 หมื่นบาท

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีนายวีระ สมความคิด ยื่นต่อศาลปกครองกลาง ขอให้มีคำสั่งให้ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูลในสำนวนการสอบสวนการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะกรณีนาฬิกาหรูโดยไม่มีการคาดดำ หลังจากเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางศาลปกครองกลางได้นัดคู่กรณีไปไต่สวน ว่า กรณีนี้เป็นการตีความว่าการเปิดเผยนั้น ควรเปิดเผยมากน้อยแค่ไหน แต่มีความเข้าใจไม่ตรงกัน ซึ่ง ป.ป.ช. มองว่าหลังมีคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดให้มีการเปิดเผยเอกสารก็ได้เชิญนายวีระมา และมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ ยอมรับว่า บางเรื่อง ป.ป.ช.ปกปิดเป็นกระดาษขาว เนื่องจากเห็นว่า ข้อความ ข้อเท็จจริงไปซ้ำกับรายงานที่มอบให้นายวีระไปแล้ว จึงถ่ายเอกสารให้เฉพาะความเห็นของเจ้าหน้าที่ หัวหน้า ผู้อำนวยการสำนักและเลขา เป็นการก๊อปปี้มา จึงไม่ได้เปิดเผย


ป.ป.ช.ได้พิจารณาคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด ให้เปิดเผยข้อมูลนั้น เป็นการเปิดเผยตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสาร ซึ่ง ป.ป.ช.ได้นำรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วยรายละเอียด ว่า ป.ป.ช.ได้มีการตรวจสอบ ขอทราบเอกสารรายงานจากบุคคลใด สอบปากคำบุคคลใด ซึ่งป.ป.ช.เข้าใจว่าเพียงพอแล้ว ที่จะให้ข้อมูลกับผู้ที่มาขอทราบข้อมูลข่าวสาร

เลขาธิการ ป.ป.ช. ยังกล่าวว่า กรณีที่นายวีระ ได้ออกมาระบุว่ามีเอกสาร 16 แผ่นที่เป็นกระดาษเปล่านั้น ขอยืนยันว่า ไม่ใช่กระดาษเปล่า เพียงแต่เป็นการถ่ายจากสำเนา ทำให้ภาพอาจจะไม่คมชัด เป็นเงารางๆ ส่วนการคาดแถบดำ เป็นการคาดชื่อ นามสกุล ตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ พยานบุคคล บริษัทที่เกี่ยวข้อง รายชื่อ กรรมการผู้จัดการ รวมทั้งรูปภาพถ่ายหน้าบุคคลเพื่อไม่ให้รุ้ว่าเป็นบุคคลใด เพราะต้องคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลเบาะแส ไม่เช่นนั้นจะกระทบกับกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครกล้าให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. เพราะไม่ได้ประสงค์ให้ข้อมูลต่อผู้ร้อง ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็คไม่มีใครมาให้ข้อมูลต่อป.ป.ช. นี่เป็นสิ่งที่ ป.ป.ช.จำเป็น และยืนยันว่า ต้องรักษาความปลอดภัย และยังสอดคล้องกับศาลปกครองสูงสุดว่า ให้ปกปิดได้


“ท่านบอกว่าที่คาดดำนั้น เป็นการปกปิดข้อความ ซึ่งก็เป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ท่านเอาไปโพสต์ว่า ป.ป.ช.ปกปิดข้อมูล จนกระทั่ง ป.ป.ช.บอกว่าขอให้ศาลปกครองที่สั่งบังคับคดีชี้ขาดได้หรือไม่ ที่ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางไปแล้วเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ได้เชิญคู่กรณีไป ผมก็ไปร่วมด้วย และอธิบายให้ศาลฟัง ศาลท่านไต่สวน รวบรวมเอกสารแล้ว เราเอาเอกสารทั้งหมดที่มีในมือไปให้ศาลดู ไม่ได้มีการปกปิด ข้อเท็จจริงอยู่ในรายงานแล้ว รายงานการประชุมก็ส่งไปครบถ้วนแล้ว ซึ่งมีมติที่ประชุมอยู่แล้ว” นายนิวัติไชย กล่าว

เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ก็อยู่ในอำนาจของศาลที่จะวินิจฉัยว่า ป.ป.ช.ได้ดำเนินการตามคำบังคับครบถ้วนหรือไม่ โดยต้องรอคำวินิจฉัย ส่วนที่ระบุว่า เลขาธิการ ป.ป.ช.โกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในวันที่ไปให้ถ้อยคำต่อศาลนั้น ก็มีการให้สาบาน ตนก็ได้กล่าวคำสาบานว่าจะให้ถ้อยคำด้วยความซื่อตรง ด้วยความจริง ถ้าไม่ตรง ไม่จริง ก็ขอให้ตนมีอันเป็นไป ตามคำสาบานของศาล ตนคิดว่า ตนคงไม่กล้าโกหก เพราะคำที่ให้ปฏิญาณต่อหน้าศาลนั้นรุนแรงมาก ส่วนจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ไม่ทราบ เพราะไม่กล้าที่จะให้ข้อความเท็จต่อศาล และศาลเองก็มีการตรวจสอบ และเปรียบเทียบสิ่งที่ ป.ป.ช.ได้ให้กับนายวีระ และเอกสารที่ ป.ป.ช.ถืออยู่ในมือ อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ตนจึงไม่ขอก้าวล่วง

ขณะที่คำสั่งที่ให้ ป.ป.ช.ชำระเงินค่าปรับ 10,000 บาท นั้น เรื่องนี้สำนักงาน ป.ป.ช อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ครบระยะเวลา ต้องดูคำพิพากษาของศาลก่อน ว่า ป.ป.ช.ได้ดำเนินการครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่า เป็นการเข้าใจที่คาดเคลื่อน และเข้าใจผิดในสาระสำคัญ แต่ไม่โทษใคร เพราะต่างฝ่ายต่างมีมุมมอง ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนบางสำนักได้มาขอเอกสารไป ป.ป.ช.ก็ได้ให้รายงานไป ทางสื่อมวลชนก็ไม่ได้มีความเห็นอะไร คิดว่า อ่านแล้วน่าจะเข้าใจ เพราะมีรายละเอียด ตนก็ไม่แน่ใจว่า ต้องการอะไรมากกว่านี้อีก.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม