ทำเนียบ 29 พ.ค.-รัฐบาลสนับสนุน “โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับภาคเกษตรและเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง มีความมุ่งมั่นผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง พร้อมสนับสนุนทุกโครงการทุกกิจกรรมเพื่อให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ล่าสุดรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ระดับประเทศ โดยกำหนดจัดงานใน 6 จังหวัด สำหรับจุดหลักจะอยู่ที่ ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปาย ตามพระราชดำริ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ท่าโป่งแดง) ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 และจุดรอง จำนวน 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดชัยนาท จังหวัดราชบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดสงขลา ซึ่งกำหนดจัดงานในช่วงเวลาเดียวกัน (1 – 31 กรกฎาคม 2567)
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสำหรับกิจกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมลงนามถวายพระพร พิธีถวายพระพรชัยมงคล การจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในส่วนกิจกรรมการให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ นั้น จะมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาให้บริการการวิเคราะห์ปัญหาการดำเนินงานเชิงพื้นที่ และกำหนดแนวทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหาให้มีความเหมาะสม
โดยผลการดำเนินงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมาพบว่ามีเกษตรกรลงทะเบียนเพื่อขอรับบริการ (คลินิก 01) จำนวน 73,870 ราย จากเป้าหมาย จำนวน 30,800 ราย มีเกษตรกรเข้ารับบริการในคลินิกต่าง ๆ (คลินิก 02) จำนวน 185,145 ราย (เกษตรกร 1 ราย สามารถเข้ารับบริการ ได้มากกว่า 1 คลินิก) โดยให้บริการเสร็จสิ้นในวันเปิดให้บริการ จำนวน 183,273 ราย หรือ ร้อยละ 98.99 มีเกษตรกรที่ติดตามให้บริการต่อเนื่อง จำนวน 1,872 ราย
ทั้งนี้ มีเกษตรกรให้ความสนใจในการเข้ารับบริการคลินิกต่าง ๆ ดังนี้ คลินิกส่งเสริมการเกษตร จำนวน 29,447 ราย, คลินิกสหกรณ์ จำนวน 25,196 ราย คลินิกดิน จำนวน 22,770 ราย คลินิกพืช จำนวน 21,748 ราย คลินิกปศุสัตว์ จำนวน 17,440 ราย คลินิกข้าว จำนวน 15,834 ราย คลินิกประมง จำนวน 12,705 ราย คลินิกหม่อนไหม จำนวน 12,257 ราย คลินิกบัญชี จำนวน 11,301 ราย คลินิกกฎหมาย (ส.ป.ก.) จำนวน 8,702 ราย คลินิกอื่น ๆ จำนวน 5,427 ราย และคลินิกชลประทาน จำนวน 2,318 ราย ตามลำดับ จากผลสำรวจพบว่าเกษตรกรมีความพึงพอใจ เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการเข้ารับบริการคลินิกเกษตร ได้ความรู้ คำแนะนำ เช่น โรคและแมลงศัตรูพืช การปรับปรุงดิน การดูแลพืช ตลอดจนได้รับปัจจัยการผลิต เช่น พันธุ์พืชผักสวนครัว สารชีวภัณฑ์ เวชภัณฑ์ น้ำหมัก และยังสามารถนำความรู้/คำแนะนำไปใช้ประโยชน์ เช่น เรื่องโรคและแมลงศัตรูพืช การปรับปรุงบำรุงดิน การเลี้ยงสัตว์/สัตว์น้ำ การบริหารจัดการน้ำ กฎหมายที่ดิน ส.ป.ก. เป็นต้น
“สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พบว่ามีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ โดยมีเกษตรกรลงทะเบียนเพื่อขอรับบริการ (คลินิก 01) จำนวน 38,675 ราย จากเป้าหมาย 30,800 ราย และเข้ารับบริการในคลินิกต่าง ๆ (คลินิก 02) จำนวน 83,819 ราย ทั้งนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าทุกโครงการและสนับสนุนทุกกิจกรรมที่สามารถช่วยให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรดีขึ้น เพื่อให้เกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี อันจะทำให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีความเข้มแข็งตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ นอกจากนี้ เกษตรกรยังสามารถติดตาม แผนการเปิดให้บริการคลินิกได้ที่เว็บไซต์ https://clinickaset.doae.go.th/site/index ” นายชัย กล่าว.-314-สำนักข่าวไทย