พม. มีสวัสดิการซ่อมบ้านผู้สูงอายุ-ที่อยู่อาศัยคนพิการ  

ทำเนียบ 29 พ.ค.- “รัดเกล้า” เผย พม. มีสวัสดิการซ่อมบ้านผู้สูงอายุ  ปรับสภาพที่อยู่อาศัยคนพิการ  ระบุ แม้งบฯ น้อย แต่ประสานหน่วยอื่น-เอกชนมาช่วยเสริม


นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ดูแลสวัสดิการให้กลุ่มเปราะบาง เช่น ซ่อม สร้างบ้านให้ผู้มีรายได้น้อย คนพิการ ผู้สูงอายุ แต่ด้วยงบประมาณมีจำกัดจึงใช้ความร่วมมือกับภาคเอกชนในพื้นที่ พร้อมขอสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์สร้างบ้านและใช้ช่างชุมชนหรือช่างจากทหารมาช่วยซ่อม สร้างบ้าน 

สำหรับขั้นตอนซ่อมบ้านผู้สูงอายุ ได้กำหนดคุณสมบัติคือ 1. ผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไป  2. อยู่ในครอบครัวยากจน 3. ที่อยู่อาศัยทรุดโทรม ไม่มั่นคง 4.อาศัยอยู่ในครอบครัวไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และ 5.ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ โดยมีขั้นตอนการพิจารณาในต่างจังหวัด คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สำรวจข้อมูลผู้สูงอายุที่ต้องการซ่อมแซมบ้าน จัดส่งการประมาณค่าวัสดุซ่อมแซมบ้านพร้อมด้วยเอกสารมายังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) จากนั้น พมจ.จะมีการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านสอบข้อเท็จจริงเพื่อประเมินสภาพบ้านและนำมาประชุมคณะกรรมการเพื่อจัดลำดับการซ่อมแซมบ้านก่อนที่ พมจ. ดำเนินการจะซื้อวัสดุซ่อมแซมบ้านจากนั้นดำเนินการซ่อมแซมบ้านภายใน 60 วันและรายงานผลการซ่อมแซมบ้าน จัดสรรคงบประมาณไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งเป็นการสนับสนุนเฉพาะค่าวัสดุสำหรับซ่อมบ้าน


ขณะเดียวกัน พม. ยังมีการดูแลปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการรายละไม่เกิน 40,000 บาทด้วย ซึ่งคนพิการจะต้องมีคุณสมบัติ มีบัตรประจำตัวคนพิการ อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 6 เดือน ที่อยู่ไม่มั่นคง ไม่เหมาะสมกับสภาพความพิการมีรายได้น้อย ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ หรือได้รับแต่ไม่มีเพียงพอ โดยมีขั้นตอนการพิจารณาคือ คนพิการ ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะต้องยื่นคำร้อง ที่ศูนย์บริการคนพิการกรุงเทพฯหรือสาขา จากนั้นเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เยี่ยมบ้านคนพิการ พิจารณาอนุมัติแจ้งผลการอนุมัติ ก่อนจะเข้าปรับที่อยู่อาศัยให้คนพิการ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ในพื้นที่ต่างจังหวัดคนพิการจะต้องยื่นคำร้อง พมจ. จากนั้น พมจ. จะส่งเรื่องให้ อปท. ประสานให้ อปท.เป็นหน่วยให้บริการมีการเยี่ยมบ้าน สอบข้อเท็จจริงและอนุมัติงบ พร้อมปรับที่อยู่อาศัยให้คนพิการ ส่วนกรณีไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย จะต้องมีหลักฐานจากการยินยอมจากเจ้าของกรณี เป็นบ้านเช่าต้องมีหลักฐานว่าอยู่อาศัยได้ไม่น้อยกว่า 6 เดือนซึ่งสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02 -354-3388 ต่อ 209 หรือศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ

“ขอบคุณตัวแทนจากฝ่ายค้าน ที่ตั้งข้อสงสัยบนเวทีงานมหกรรมนโยบายพรรคก้าวไกล Policy Fest ครั้งที่ 1 ‘ก้าวไกล Big Bang’  ที่ตัดไปเมื่อวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า “สวัสดิการดีๆ เหล่านี้ที่มีอยู่แล้ว แต่ประชาชนไม่รับทราบ และงบประมาณแท้จริงไปไม่ถึงมือประชาชน เพราะไปอยู่ในมือหัวคะแนน” นั้น ในฐานะฝ่ายค้านท่านมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยได้แต่ การกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานจะเป็นการทำให้รัฐบาลรับผู้ดำเนินการเสียหายได้ วอนประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟัง  ขอยืนยันว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยมี พมจ. และ อปท. เป็นกลไกทำงานสำคัญ ได้ดำเนินการพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย คนพิการ เพื่อสร้างสังคมที่ดีให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ อย่างตรงไปตรงมาและมีการดำเนินการดูแลพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ไร้รอยต่อจากการบริหารของรัฐบาลก่อนจนถึงรัฐบาลชุดนี้  การประชาสัมพันธ์สวัสดิการดีๆ เหล่านี้ เรามุ่งเน้นสื่อสารโดยตรงกับผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ ซึ่งคือกลุ่มเปราะบาง จึงมีความเป็นไปได้ที่ประชาชนคนอื่น รวมถึงตัวแทนจากฝ่ายค้านอาจไม่ทราบถึงนโยบายเหล่านี้  หากผู้ใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสวัสดิการที่ทางรัฐมีให้แก่กลุ่มเปราะบางสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วน พม. 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”นาง รัดเกล้า กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]

ผู้ต้องหา 2 รายสุดท้าย คดีตึก สตง.ถล่ม เข้ามอบตัว ยืนยันความบริสุทธิ์

สน.บางซื่อ 19 พ.ค. – บริษัท ว.และสหายฯ ผู้ต้องหาคดีตึก สตง. ถล่ม 2 รายสุดท้าย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.บางซื่อ ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ เพราะดูแลแค่เรื่องของระบบไฟฟ้าและประปา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอาคาร นายพลเดช กรรมการบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด และนางประณีต ในฐานะนิติบุคคล บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ หลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจได้ออกหมายจับ 17 หมายจับ และผู้ต้องหาส่วนใหญ่ 15 ราย เดินทางเข้าพบตำรวจ ก่อนจะถูกนำตัวฝากขังต่อศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ที่ส่งทนายความขอเลื่อนเข้าพบมาเป็นวันนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากต้องการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำกับตำรวจ นายพลเดช เปิดเผยว่า ไม่กังวลว่าวันนี้อาจจะไม่ได้ประกันตัว และต้องเข้าเรือนจำ เพราะเป็นกระบวนการขั้นตอนของตำรวจ วันนี้มามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และได้นำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมายืนยัน พร้อมต่อสู้คดี ขณะที่นางประณีต […]

ฆ่าดีเจเตเต้

รวบแล้ว 1 ผู้ต้องสงสัยอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

19 พ.ค. – รวบแล้ว 1 ผู้ต้องสงสัยอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” คาดวันนี้ (19 พ.ค.) จะมีการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีกอย่างน้อย 3 คน หลังวานนี้ (18 พ.ค.) พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกทิ้งกลางไร่อ้อยเมืองกาญจนบุรี ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบก่อนหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ออกมาอัดคลิปลงเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชาย วานนี้ (18 พ.ค.) พบกลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อย เชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยเวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพชายอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยคนที่เจอศพคือน้าชายของนายกอล์ฟ ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ เป็นผู้ชายนอนตะแคง […]

อุตุฯ เผยไทยฝนลดลง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก มีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย