จี้ กกต. ออกระเบียบเลือก สว.ใหม่ หลังศาลเพิกถอนระเบียบบางข้อ

อาคารอนาคตใหม่ 27 พ.ค.-“ธนาธร”  เรียกร้อง กกต. ออกระเบียบเลือก สว.ใหม่ทันที หลังศาลปกครองสั่งเพิกถอนระเบียบบางข้อ-แสดงเจตนารมย์ ไม่ยื่นอุทธรณ์ แนะ ผู้สมัครหาข้อมูลก่อนเลือก


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงถึงกรณีการรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า จากการการรับสมัคร สว. ที่จบลงไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีประเด็นสำคัญที่ต้องตามต่ออีก คือ เรื่องที่ 1.จากกรณีวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเมื่อมีการเปิดรับสมัคร สว.แล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็มีการออกระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. ซึ่งในระเบียบนั้น ระบุว่า ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวเองได้ตามแบบฟอร์มที่ กกต.กำหนดเท่านั้น ไม่สามารถแนะนำตัวแบบอื่นได้ และห้ามไม่ให้ผู้สมัครแนะนำตัวกับบุคคลทั่วไป แต่ให้ผู้สมัครแนะนำตัวกับผู้สมัครด้วยกันเองเท่านั้น อีกทั้งยังห้ามให้ผู้สมัครแนะนำตัวผ่านสื่อต่างๆ ด้วย

และมื่อออกระเบียบมาแบบนี้แล้ว ทำให้มีผู้สมัคร 2 กลุ่มที่เห็นว่า ระเบียบของ กกต.ตอนนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้สมัคร จึงมีการยื่นร้องต่อศาลปกครองว่า ให้ช่วยวินิจฉัยระเบียบกกต. จากนั้นศาลปกครองจึงมีคำสั่งออกมาว่า ขอให้ กกต.เพิกถอนระเบียบข้อ 7, 8, 11 (2), 11 (3) และให้มีผลย้อนไปตั้งแต่วันที่ประกาศใช้


แต่หากดูตามไทม์ไลน์แล้ว กกต.ยังมีอำนาจในการอุทธรณ์ 30 วัน ซึ่งจะหมดลงในวันที่ 23 มิ.ย. ทำให้ระเบียบนี้จะมีอำนาจบังคับใช้ในการเลือก สว. ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ในวันที่ 9 มิ.ย. และ 16 มิ.ย. เหลือแค่ 3 วันก่อนจะถึงระดับประเทศในวันที่ 26 มิ.ย. หมายความว่า แม้ศาลปกครองจะมีคำสั่งออกมาแล้ว แต่คำสั่งนี้ก็ยังบังคับใช้ไม่ได้จริงๆ หาก กกต.มีการอุทธรณ์ ทำให้การเลือกระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ผู้สมัครจะยังไม่สามารถเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ตัวเองกับสาธารณะ หรือพูดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำในฐานะ สว. รวมถึงแนวคิด และอุดมการณ์ต่างๆ ได้  ตนจึงขอเรียกร้องไปยัง กกต.ให้มีความชัดเจนต่อคำสั่งศาลปกครอง ดังนี้ 1.ขอเรียกร้องให้ กกต.ออกระเบียบใหม่โดยทันที และระเบียบใหม่นั้นต้องสอดคล้องกับคำสั่งศาลปกครอง

2.ขอเรียกร้องให้ กกต.ประกาศเจตนารมย์ว่า จะไม่อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองนี้ ซึ่งเหตุผลที่ตนเรียกร้องอย่างนี้ ประกอบด้วย 3 เหตุผลคือ 1.หาก กกต.ทำตามข้อเรียกร้องนี้ ผู้สมัครจะสามารถแนะนำ หรือนำเสนอตัวเองได้ในเนื้อหาที่กว้างขึ้น

2.ผู้สมัครจะแนะนำและประชาสัมพันธ์ตัวเองได้ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะทำให้ช่องทางในการสื่อสารกว้างขึ้น ง่ายขึ้น ทำให้ผู้สมัครมีอำนาจ มีข้อมูลในการตัดสินใจที่มากขึ้น และทำให้การตัดสินใจเลือกผู้สมัครมีประสิทธิภาพมากขึ้น


3.ประชาชนจะได้ช่วยตรวจสอบ เนื่องจากตามระเบียบของ กกต.เดิม ประชาชนและสื่อมวลชน ไม่มีส่วนร่วมในการเลือก สว.ครั้งนี้เลย ทั้งๆ ที่ สว.เป็นสถาบัน เป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาการเมืองไทย

“ถ้าปลดล็อคคำสั่งนี้แล้ว และ กกต.ไม่ยื่นอุทธรณ์ ประชาชนจะเข้าถึงข้อมูลที่มากขึ้น ง่ายขึ้นรวมถึงสื่อมวลชนด้วย สังคมจะได้ประโยชน์ และร่วมกันตรวจสอบ ร่วมกันติดตามกระบวนการเลือก สว. ครั้งนี้ เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน อันจะส่งผลให้สุขภาพของประชาธิปไตยดีขึ้น” นายธนาธร กล่าว

เรื่องที่ 2 การเชิญชวนผู้สมัคร วันนี้ กกต. ได้ทำเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า สมาร์ทโหวตเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีข้อมูลของผู้สมัคร ทุกอาชีพ ทุกอำเภอ ทั่วประเทศ จึงอยากจะเชิญชวนผู้สมัครทุกคน เข้าไปตรวจสอบและศึกษาข้อมูลของผู้สมัครในอำเภอตัวเอง ศึกษาข้อมูลของทั้งกลุ่มที่ตัวเองลงสมัครและกลุ่มอื่น เพื่อทำการบ้านล่วงหน้า เพราะการลงคะแนนค่อนข้างสำคัญมาก ต่อการคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง สว.

เรื่องที่ 3.เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชน เนื่องจากตามระเบียบของ กกต. ฉบับนี้ กีดกันประชาชนจำนวนมากออกจากการเลือก สว.ในครั้งนี้ คนที่มีทุนทรัพย์ 2,500 บาท เป็นค่าสมัครที่แพงเกินไป คนที่มีอายุไม่ถึง 40 ปี ก็ไม่มีคุณสมบัติ ในการลงสมัคร ทำให้ไม่สามารถมีส่วนร่วมในการเลือก สว.นี้ได้เลย

แต่อย่างน้อยที่สุด วันนี้ กกต.ก็เปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นผู้สังเกตการณ์การเลือก สว. ในแต่ละระดับได้ ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.นี้ ใกล้อำเภอไหน ไปอำเภอนั้น ลองไปที่สำนักงานเขตของท่านดู ไปติดตามการเลือก สว. ของท่านดูว่า กระบวนการเลือก สว.ทำอย่างไร เพราะการไปนั่งติดตามสังเกตการณ์ จะทำให้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือแทรกแซงระบวนการการเลือก สว. เป็นไปได้ยากขึ้น เช่น การไปซื้อเสียง การจ้างหน้างาน หากมีคนตรวจสอบ ก็จะทำได้ยากขึ้น และจะทำให้ผู้ที่คิดจะทำ กังวลใจมากขึ้น

“เหตุผลที่เรารณรงค์ สว.ประชาชนตั้งแต่ครั้งแรก เราต้องการให้มี สว.คุณภาพ สว.ที่มีอุดมการณ์ สว.ทึ่เข้าไปดำรงตำแหน่งแล้วไม่ขายเสียงตัวเองในการโหวตครั้งสำคัญๆ เพื่อให้ประชาธิปไตยของไทยพัฒนาต่อไปได้“ นายธนาธร กล่าว

ทั้งนี้ หากพบความผิดปกติของการเลือก สว. สามารถแจ้งวีวอทช์ (We Watch) ได้ที่สายด่วน 02-1143189 .-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์พื้นที่ชายแดน

ทำเนียบ 8 ส.ค.- ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการหยุดยิง ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด เผยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำแต่ละประเทศจะประสานพื้นที่ นำอาเซียนลงติดตามเป็นระยะ ชี้การพูดคุยระดับ RBC เริ่มปลายเดือนนี้ หากเหตุการณ์ปะทุอีก เรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญได้ทันที พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมาตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชา ตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดนพื้นที่สำคัญ พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องมีการตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากนั้นยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยั่วยุในบางจุด ทางทหารไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการตรวจตราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง โฆษก ศบ.ทก. ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ว่า ได้มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ โดยเป็นข้อตกลงที่สำคัญและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะรายละเอียดข้อที่ 1 […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]