fbpx

จี้ กกต. ออกระเบียบเลือก สว.ใหม่ หลังศาลเพิกถอนระเบียบบางข้อ

อาคารอนาคตใหม่ 27 พ.ค.-“ธนาธร”  เรียกร้อง กกต. ออกระเบียบเลือก สว.ใหม่ทันที หลังศาลปกครองสั่งเพิกถอนระเบียบบางข้อ-แสดงเจตนารมย์ ไม่ยื่นอุทธรณ์ แนะ ผู้สมัครหาข้อมูลก่อนเลือก


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงถึงกรณีการรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า จากการการรับสมัคร สว. ที่จบลงไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีประเด็นสำคัญที่ต้องตามต่ออีก คือ เรื่องที่ 1.จากกรณีวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเมื่อมีการเปิดรับสมัคร สว.แล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็มีการออกระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. ซึ่งในระเบียบนั้น ระบุว่า ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวเองได้ตามแบบฟอร์มที่ กกต.กำหนดเท่านั้น ไม่สามารถแนะนำตัวแบบอื่นได้ และห้ามไม่ให้ผู้สมัครแนะนำตัวกับบุคคลทั่วไป แต่ให้ผู้สมัครแนะนำตัวกับผู้สมัครด้วยกันเองเท่านั้น อีกทั้งยังห้ามให้ผู้สมัครแนะนำตัวผ่านสื่อต่างๆ ด้วย

และมื่อออกระเบียบมาแบบนี้แล้ว ทำให้มีผู้สมัคร 2 กลุ่มที่เห็นว่า ระเบียบของ กกต.ตอนนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้สมัคร จึงมีการยื่นร้องต่อศาลปกครองว่า ให้ช่วยวินิจฉัยระเบียบกกต. จากนั้นศาลปกครองจึงมีคำสั่งออกมาว่า ขอให้ กกต.เพิกถอนระเบียบข้อ 7, 8, 11 (2), 11 (3) และให้มีผลย้อนไปตั้งแต่วันที่ประกาศใช้


แต่หากดูตามไทม์ไลน์แล้ว กกต.ยังมีอำนาจในการอุทธรณ์ 30 วัน ซึ่งจะหมดลงในวันที่ 23 มิ.ย. ทำให้ระเบียบนี้จะมีอำนาจบังคับใช้ในการเลือก สว. ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ในวันที่ 9 มิ.ย. และ 16 มิ.ย. เหลือแค่ 3 วันก่อนจะถึงระดับประเทศในวันที่ 26 มิ.ย. หมายความว่า แม้ศาลปกครองจะมีคำสั่งออกมาแล้ว แต่คำสั่งนี้ก็ยังบังคับใช้ไม่ได้จริงๆ หาก กกต.มีการอุทธรณ์ ทำให้การเลือกระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ผู้สมัครจะยังไม่สามารถเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ตัวเองกับสาธารณะ หรือพูดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำในฐานะ สว. รวมถึงแนวคิด และอุดมการณ์ต่างๆ ได้  ตนจึงขอเรียกร้องไปยัง กกต.ให้มีความชัดเจนต่อคำสั่งศาลปกครอง ดังนี้ 1.ขอเรียกร้องให้ กกต.ออกระเบียบใหม่โดยทันที และระเบียบใหม่นั้นต้องสอดคล้องกับคำสั่งศาลปกครอง

2.ขอเรียกร้องให้ กกต.ประกาศเจตนารมย์ว่า จะไม่อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองนี้ ซึ่งเหตุผลที่ตนเรียกร้องอย่างนี้ ประกอบด้วย 3 เหตุผลคือ 1.หาก กกต.ทำตามข้อเรียกร้องนี้ ผู้สมัครจะสามารถแนะนำ หรือนำเสนอตัวเองได้ในเนื้อหาที่กว้างขึ้น

2.ผู้สมัครจะแนะนำและประชาสัมพันธ์ตัวเองได้ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะทำให้ช่องทางในการสื่อสารกว้างขึ้น ง่ายขึ้น ทำให้ผู้สมัครมีอำนาจ มีข้อมูลในการตัดสินใจที่มากขึ้น และทำให้การตัดสินใจเลือกผู้สมัครมีประสิทธิภาพมากขึ้น


3.ประชาชนจะได้ช่วยตรวจสอบ เนื่องจากตามระเบียบของ กกต.เดิม ประชาชนและสื่อมวลชน ไม่มีส่วนร่วมในการเลือก สว.ครั้งนี้เลย ทั้งๆ ที่ สว.เป็นสถาบัน เป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาการเมืองไทย

“ถ้าปลดล็อคคำสั่งนี้แล้ว และ กกต.ไม่ยื่นอุทธรณ์ ประชาชนจะเข้าถึงข้อมูลที่มากขึ้น ง่ายขึ้นรวมถึงสื่อมวลชนด้วย สังคมจะได้ประโยชน์ และร่วมกันตรวจสอบ ร่วมกันติดตามกระบวนการเลือก สว. ครั้งนี้ เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน อันจะส่งผลให้สุขภาพของประชาธิปไตยดีขึ้น” นายธนาธร กล่าว

เรื่องที่ 2 การเชิญชวนผู้สมัคร วันนี้ กกต. ได้ทำเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า สมาร์ทโหวตเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีข้อมูลของผู้สมัคร ทุกอาชีพ ทุกอำเภอ ทั่วประเทศ จึงอยากจะเชิญชวนผู้สมัครทุกคน เข้าไปตรวจสอบและศึกษาข้อมูลของผู้สมัครในอำเภอตัวเอง ศึกษาข้อมูลของทั้งกลุ่มที่ตัวเองลงสมัครและกลุ่มอื่น เพื่อทำการบ้านล่วงหน้า เพราะการลงคะแนนค่อนข้างสำคัญมาก ต่อการคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง สว.

เรื่องที่ 3.เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชน เนื่องจากตามระเบียบของ กกต. ฉบับนี้ กีดกันประชาชนจำนวนมากออกจากการเลือก สว.ในครั้งนี้ คนที่มีทุนทรัพย์ 2,500 บาท เป็นค่าสมัครที่แพงเกินไป คนที่มีอายุไม่ถึง 40 ปี ก็ไม่มีคุณสมบัติ ในการลงสมัคร ทำให้ไม่สามารถมีส่วนร่วมในการเลือก สว.นี้ได้เลย

แต่อย่างน้อยที่สุด วันนี้ กกต.ก็เปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นผู้สังเกตการณ์การเลือก สว. ในแต่ละระดับได้ ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.นี้ ใกล้อำเภอไหน ไปอำเภอนั้น ลองไปที่สำนักงานเขตของท่านดู ไปติดตามการเลือก สว. ของท่านดูว่า กระบวนการเลือก สว.ทำอย่างไร เพราะการไปนั่งติดตามสังเกตการณ์ จะทำให้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือแทรกแซงระบวนการการเลือก สว. เป็นไปได้ยากขึ้น เช่น การไปซื้อเสียง การจ้างหน้างาน หากมีคนตรวจสอบ ก็จะทำได้ยากขึ้น และจะทำให้ผู้ที่คิดจะทำ กังวลใจมากขึ้น

“เหตุผลที่เรารณรงค์ สว.ประชาชนตั้งแต่ครั้งแรก เราต้องการให้มี สว.คุณภาพ สว.ที่มีอุดมการณ์ สว.ทึ่เข้าไปดำรงตำแหน่งแล้วไม่ขายเสียงตัวเองในการโหวตครั้งสำคัญๆ เพื่อให้ประชาธิปไตยของไทยพัฒนาต่อไปได้“ นายธนาธร กล่าว

ทั้งนี้ หากพบความผิดปกติของการเลือก สว. สามารถแจ้งวีวอทช์ (We Watch) ได้ที่สายด่วน 02-1143189 .-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด