รัฐบาล ผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย สู่ตลาดต่างประเทศ

ทำเนียบ 23 พ.ค.-รัฐบาล ผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสู่ตลาดต่างประเทศ ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ควบคู่กับประชาสัมพันธ์ Soft Power ไทย  

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากแนวนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เน้นย้ำถึงการสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ที่มีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่อง โดยรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival 2024) พร้อมกับประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในไทยผ่าน Soft Power สอดแทรกวัฒนธรรมความเป็นไทย ตลอดจนนำเสนอมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นเป็น 1 ใน 5 ผู้นำด้านภาพยนตร์ของเอเชีย


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 25 พฤษภาคม 2567 ณ เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนของไทย นำผู้ประกอบการภาพยนตร์ไทย จำนวน 12 บริษัท เข้าร่วมงานดังกล่าว โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมตลาดซื้อขายภาพยนตร์และโทรทัศน์ จัดคูหา Thailand Pavilion เพื่อนำเสนอกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Soft Power ของไทย ผ่านการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ เช่น การสาธิตการทำอาหารไทย การจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้า การจัดทำ Photobook นำเสนอข้อมูลการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยผ่านมาตรการ Incentive รวมไปถึงจอภาพ Touch Screen แนะนำสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ ให้ความสนใจเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย และสร้างรายได้ให้ไทยไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ผลจากการที่รัฐบาลได้นำเสนอสิทธิประโยชน์ เพื่อดึงดูดให้กองถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำในไทย ด้วยรูปแบบการคืนเงินในอัตราไม่เกินร้อยละ 20 (Cash Rebate) ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในไทย ได้สะท้อนความสำเร็จจากข้อมูลสถิติของการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ซึ่งกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (TFO Thailand Film Office) กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ต่างประเทศถ่ายทำในประเทศไทยแล้ว จำนวน 186 เรื่อง จากประเทศ/เขตเศรษฐกิจพิเศษ จำนวน 30 แห่ง ก่อให้เกิดงบประมาณการลงทุนกว่า 3.192 พันล้านบาท และได้ใช้สถานที่ถ่ายทำไปแล้วถึง 47 จังหวัดในไทย


“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยจะสามารถเติบได้อย่างต่อเนื่อง จากศักยภาพที่มีในทุกมิติ ซึ่งรัฐบาลมีการดำเนินการควบคู่กันทั้งการส่งเสริมภาพยนตร์ไทยในต่างประเทศและส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอดแทรก Soft Power ไทย ทั้งด้านอาหาร แฟชั่น การท่องเที่ยวผ่านภาพยนตร์ จะช่วยส่งเสริมการรับรู้จากสายตาคนทั่วโลกให้สามารถเข้าถึงความเป็นไทยที่มีเสน่ห์ ไปจนถึงการอำนวยความสะดวกแก่คณะถ่ายทำภาพยนตร์ เพื่อให้ไทยเป็น Film Friendly Location ซึ่งจะช่วยต่อยอดมูลค่าทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการจ้างงาน กระจายรายได้สู่ทุกภาคส่วน” นายชัย กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี