สาธารณรัฐอิตาลี 19 พ.ค.-นายกฯ เผยเข้าพบธนาคารชั้นนำอิตาลี หวังสนับสนุนเงินทุนโครงการแลนด์บริดจ์ – ขยายสนามบิน ย้ำทีมงานกลับไปทำการบ้าน ด้านแปรรูปสินค้าเกษตร หวังเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่าใน 4 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(19 พ.ค.) เวลา 17.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระหว่างเดินทางไปปฎิบัติภารกิจต่อที่กรุงโรม หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่เมืองมิลาน ว่า ได้พบกับกับบริษัททางการเงิน ธนาคาร Intesa Sanpaolo (อินเตซา ซามเปาโล) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความชำนาญเรื่องการให้ โปรเจกต์ไฟแนนซ์ซิ่งในประเทศต่าง ๆ ซึ่งโดยพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการสนับสนุนด้านการเงินในโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งทราบดีว่า รัฐบาลมีความต้องการขยายสนามบินทั้งที่สุวรรณภูมิ ภูเก็ตและเชียงใหม่ ซึ่งได้พูดคุยว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งธนาคาร Intesa ให้ความสนใจหากมีรายละเอียดมากขึ้น อาจติดต่อกลับมา และจะให้กระทรวงคมนาคมชี้แจงรายละเอียด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ธนาคาร Intesa Sanpaolo ให้ความสนใจเรื่องการออกหุ้นกู้สีเขียว หรือ กรีนบอนซ์ ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่จะออกหุ้นในเดือน กรกฎาคมนี้ ราว 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนมากมีความต้องการประมาณ 25% หรือราว 250 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยธนาคาร Intesa Sanpaolo ก็ให้ความสนใจ และจากนี้จะมีโรดโชว์ ในช่วงต้นเดือน หรือกลางเดือนกรกฎาคม
“ส่วนการพบกับประธานสมาคมการออกแบบอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นสถานที่จัดนิทรรศการ ขนาดใหญ่ และเดินสายจัดนิทรรศการในต่างประเทศ เราต้องการให้สมาคมนี้ไปจัดนิทรรศการที่ประเทศไทยด้วย แต่ในทางกลับกัน ที่เมืองมิลาน เป็นเมืองแห่งการออกแบบ ให้ความหวัง และแรงบัลดาลใจให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่ จึงได้ขอรับการสนับสนุน เปิดโอกาสให้นักออกแบบรุ่นใหม่ของไทยได้ร่วมออกแบบนิทรรศการกับสมาคมด้วย และได้รับการตอบรับที่ดี” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องการให้ทีมงานกลับไปทำการบ้าน ซึ่งในเรื่องของการแปรรูปเกษตร ในการใช้นวัตกรรมต่าง ๆ จะสามารถสร้างมูลค่าได้อย่างมหาศาล ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของตน ที่ต้องทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตรงกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่าภายใน 4 ปี รวมทั้งเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบ เพราะเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นต้นแบบของการออกแบบ จึงอยากให้ทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์สินค้าของคนไทย.-316.-สำนักข่าวไทย