ถ้าไม่เข้าระบบ ถูกตรวจสอบภาษีแน่

ทำเนียบรัฐบาล 16 พ.ค.- “ชาดา” แถลงเปิดแผนปฏิบัติการแก้หนี้นอกระบบยั่งยืน ขีดเส้น “เจ้าหนี้-ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ” ลงทะเบียนภายใน 31 พ.ค.นี้ ยันถ้าเมินเฉย เตรียมถูกสอบภาษี


นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวเปิดแผนปฏิบัติการแก้ไขหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการแก้ไขหนี้นอกระบบ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะดีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายณรงค์ ศรีระสันต์ ผู้แทนอธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิ์ และผู้ช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน

นายชาดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการและให้ความสำคัญการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยมอบให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยดำเนินการ  โดยมีคณะทำงานดำเนินการมาระยะหนึ่ง พบการลงทะเบียนหนี้กว่าแสนราย แต่ยังไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะคนไทยจำนวนมากของประเทศที่เป็นคนจนทำมาหากินได้วันละ 500 บาท ลูกหนี้ไม่สามารถไปกู้เงินในระบบอื่นได้ จึงนำไปสู่การกู้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูงมาก ทำให้ไม่สามารถเดินต่อไปได้ เรื่องนี้มีส่วนสำคัญกับเศรษฐกิจของชาติในปัจจุบัน หากหลงเข้าไปกู้จะไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้เพราะต้องใช้หนี้อย่างเดียว


รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยดำเนินการเรื่องนี้ทั่วประเทศแต่ยังไม่จบ จึงขอประกาศไปถึงเจ้าหนี้และลูกหนี้นอกระบบให้ออกมาแสดงตัว หากลูกหนี้ไม่มา เจ้าหนี้จะต้องมา ถ้าไม่มาไม่ให้ความร่วมมือกันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายไม่ได้ ขั้นตอนต่อไปทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการ กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรจะดำเนินการต่อไป ถ้าลูกหนี้และเจ้าหนี้ยังไม่เข้าสู่ระบบ คนที่เป็นหนี้ก็ไม่สามารถไปกู้ที่ไหนได้ จึงต้องการให้เจ้าหนี้มาเข้าสู่กรอบของกฎหมาย ถ้าไม่มาจะมีระยะเวลาดำเนินการที่ต้องถูกตรวจสอบ

“เราจะตามเคลียร์คนที่มีอาชีพเงินกู้นอกระบบทุกจังหวัด แต่หากเข้ามาในระบบ รัฐจะดูแลและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ให้ลูกหนี้สามารถใช้หนี้ในอัตราที่ไม่ทารุณโหดร้าย ส่วนเจ้าหนี้จะได้รับเงิน ยอมรับว่าเจ้าหนี้มีทั้งสายขาวและสายดำ แต่ก็อยากให้มาลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ และประชาชนจะสามารถกู้ได้ด้วย  ขอให้คนที่อยู่ในวงจรหนี้นอกระบบกลับเข้ามาสู่ระบบ โดยเฉพาะเจ้าหนี้ จะให้เดดไลน์ตั้งแต่วันที่ 16 -31 พ.ค.นี้ มาแสดงตัวลงทะเบียนเข้าสู่ระบบด้วยตัวเองจะดีกว่าทางออนไลน์ เพราะถ้ายังมีหนี้นอกระบบก็เหมือนรัฐบาลโปรยฝนลงมาแล้วหายหมด หญ้าไม่ขึ้น ความงอกเงยทางเศรษฐกิจหายหมด เพราะมีการลักดูดน้ำไป เราจะไม่ยอมให้คนไทยกู้หนี้มาใช้หนี้อีกแล้ว รัฐบาลจึงให้ความสำคัญเรื่องนี้และจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เดทไลน์ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่คนทำผิดกฏหมายอยู่จะมีทางรอด“ นายชาดา กล่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอย้ำให้มั่นใจว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้องจะปลอดภัย ไม่ถูกดำเนินคดีและช่วยคนไทยทางอ้อม ใครที่ถูกจับต้องถูกตรวจสอบทางภาษี แต่คนที่อยู่เบื้องหลัง นั่งเป็นเจ้าพ่อเงินกู้อยู่ในประเทศประเทศไทยทุกวันนี้ต้องเดินเข้าสู่ระบบ ถ้าไม่อย่างนั้นจะเจอการตรวจสอบที่เข้มข้น และจะมาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่ได้


เมื่อถามย้ำว่าจะใช้มาตรการภาษีดำเนินการอย่างเด็ดขาดหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ เป็นโอกาสของเจ้าหนี้ที่จะทำมาหากินแบบถูกกฎหมาย ส่วนระบบผิดกฎหมายต้องหมดไปตามวัฏจักรบ้านเมือง เพื่อให้การแก้ไขหนี้นอกระบบได้อย่างยั่งยืน ช่วงเวลาที่เหลือขอแนะนำให้เจ้าหนี้รีบมาขึ้นทะเบียนที่จังหวัดที่อาศัยอยู่ที่ศูนย์ดำรงธรรม สถานีตำรวจ สถานที่ปกครองเพื่อเข้าระบบ ลูกหนี้อาจจะกลัวเจ้าหนี้จะต้องมาลงทะเบียน และอย่าคิดว่าความผิดจะมาไม่ถึง เพราะสรรพากรจะเข้าไปตรวจสอบรายได้ของเจ้าหนี้และครอบครัว ขอให้เตรียมคำตอบไว้ให้ดี

“ส่วนข้าราชการที่เป็นหนี้นอกระบบ ต้องกล้าหาญที่จะออกมา ให้ไปบอกหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้ว่าฯ โดยรายงานว่าใครเป็นลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ แต่ถ้าใครไม่แจ้งแล้วเจ้าหนี้ให้รายชื่อมาบอก จะถือว่าเป็นความผิดหรือไม่ วันนี้ต้องกล้าเพื่อให้ประชาชนเดินตาม เราจะแก้ปัญหาให้ ไม่ใช่ใช้เฉพาะนิติศาสตร์ แต่จะแก้ในทางรัฐศาสตร์ เพื่อให้ประชาชนมีแหล่งเงินกู้โดยไม่ผิดกฎหมาย ขอย้ำว่า หากไม่ทำจะถูกดำเนินมาตรการทางภาษี ทางกฎหมายและจะไม่มีใครช่วยท่านได้” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ด้านนายกิตติรัตน์ กล่าวว่า  นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญทั้งหนี้นอกระบบและหนี้ในระบบ ทั้งสองมีความเกี่ยวพันกัน เช่น การแก้ไขหนี้ในระบบพบว่าข้าราชการจำนวนไม่น้อยมีหนี้นอกระบบด้วย ก็อยากจะเรียกร้องให้ข้าราชการเหล่านั้นเข้ามาลงทะเบียนในระบบด้วย ในส่วนการทำงานของคณะกรรมการ แม้จะลงทะเบียนไปแล้ว แต่ยังไม่เป็นไปตามเป้า มั่นใจว่ายังมีประชาชนที่อยู่ในภาวะที่เป็นหนี้นอกระบบเหลืออยู่ ซึ่งการแถลงข่าววันนี้ไม่ใช่การขยายเวลา เพราะการลงทะเบียนยังเป็นไปตามกำหนดระยะเวลาเดิม คือให้เจ้าหนี้และลูกหนี้มาลงทะเบียนให้เรียบร้อยในวันที่ 31 พ.ค.นี้  หากไม่มา จะดำเนินการตามแผนการปฎิบัติงานอย่างจริงจัง เข้มข้น 

“เจ้าหนี้ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีคุณูปการ คืออำนวยความสะดวกให้ลูกหนี้ที่ไม่สามารถเข้าระบบได้ แต่สิ่งที่ไม่สามารถยอมให้เกิดขึ้นได้คือดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด ดังนั้น ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ อยากให้มาลงทะเบียนเข้าระบบการไกล่เกลี่ย เจ้าหนี้ก็จะได้เงินคืนลูกหนี้ก็จะมีช่องทางการชำระคืนตามกรอบที่กฎหมายกำหนด ส่วนข้ออ้างของเจ้าหนี้ที่อ้างว่าไม่สามารถมาอยู่ในระบบได้ จึงไม่จริง เพราะสามารถเข้ามาสู่ระบบได้ และอยากให้ตระหนักว่ากำลังทำผิดกฎหมายอยู่ในลักษณะเอาเปรียบลูกหนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลยอมไม่ได้” นายกิตติรัตน์ กล่าว

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า สำหรับลูกหนี้ส่วนหนึ่งไม่กล้ามาลงทะเบียนเพราะกลัวว่าจะถูกคุกคาม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความคุ้มครองอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็คุ้มครองเจ้าหนี้ด้วย คือต้องได้รับเงินต้นให้ครบจำนวน  แต่หากไม่มาลงทะเบียนจะถือว่าเจ้าหนี้ไม่ต้องการได้เงินคืน รัฐก็ไม่สามารถคุ้มครองได้ ในการดำเนินการทุกฝ่ายพร้อมให้ความคุ้มครอง ทั้งเรื่องความปลอดภัยและสิทธิทางกฎหมาย

ขณะที่ พล.ต.ท.ทัตชัย กล่าวว่า สำหรับมาตรการคุ้มครองลูกหนี้นอกระบบขอยืนยันว่าเป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดอยู่ในความสำคัญลำดับต้น โดยมีศูนย์การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ ที่ผ่านมาระดมกวาดล้างมาต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 จับกุมในคดีผู้ที่คิดอัตราดอกเบี้ยเกินกำหนดและยึดทรัพย์ จึงขอให้ประชาชนเข้าใจกลับเข้ามาสู่ในระบบที่ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายทั้งอาญาและยึดทรัพย์ สำหรับการคุ้มครองความปลอดภัย ขอให้ไว้ใจว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการแล้วจะได้รับการดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี ขณะที่การทำงานระหว่างตำรวจและอัยการในเรื่องของการยึดทรัพย์เป็นไปด้วยดี มีการส่งฟ้องและดำเนินการเกือบ 100%

นายณรงค์ กล่าวว่า ทางอัยการได้ชี้แจงรายละเอียดให้ทางเจ้าหนี้และลูกหนี้ทราบหากเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยจะได้รับการคุ้มครองทั้งทางกฎหมายและความปลอดภัยทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ แต่กรณีที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการ เมื่อลูกหนี้จ่ายต้นครบแล้ว ฝ่ายปกครอง ตำรวจ อัยการก็จะให้หยุดจ่าย และหากเจ้าหนี้ข่มขู่จะมีความผิดเป็นคดีอาญา เช่น เจ้าหนี้ที่รวมกลุ่มเกินห้าคนขึ้นไปและข่มขู่คุกคามลูกหนี้ อาจจะถูกดำเนินคดีข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจรได้ ขณะเดียวกันจะมีมาตรการทางภาษีด้วย หากลูกหนี้เจ้าหนี้ ที่เป็นข้าราชการ ผู้ใช้แรงงานที่ไม่สามารถหยุดงานได้ ทางอัยการสูงสุดเปิดบริการในวันเสาร์ตั้งแต่ 08:00 – 16:00 น. เพื่อบริการลูกจ้างหรือข้าราชการที่ไม่สามารถหยุดงานได้ ให้สามารถใช้บริการที่อัยการสูงสุดได้ทั่วประเทศ

ภายหลังแถลงข่าว นายชาดา ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า รัฐบาลไม่ยอมให้โครงการต่าง ๆ ที่ทำแล้วหายไปใต้ดิน เพราะคนไทยส่วนหนึ่งทำมาหากินได้แล้วต้องไปจ่ายหนี้และจ่ายได้แค่ดอกเบี้ย หลังจากนั้นก็ไปกู้อีกรายหนึ่งเพื่อมาใช้อีกรายหนึ่งกลายเป็นว่าชีวิตหยุดกู้ไม่ได้และปัญหาชีวิตก็ไม่ได้รับการแก้ไข วันนี้เป็นการแก้ไข กการที่มีโอกาสเข้ามาร่วมทำงานตรงนี้ทำให้รู้ปัญหาดี ในฐานะนักการเมืองอยากจะแก้ปัญหาครั้งนี้อย่างยั่งยืนคือต้องจบ

“การมาลงทะเบียนเจ้าหนี้ อาจจะได้กำไรน้อยลง แต่ก็ถูกกฎหมาย ถ้าไม่เลือกแบบนี้ก็ไม่รู้จะเลือกอะไร ที่เหลือ 14 -15 วันนี้ คนที่น่าจะมาขึ้นบัญชีคือเจ้าหนี้ ขอให้ไปขึ้นบัญชีกับจังหวัดว่าปล่อยกู้กับใครบ้าง ลูกหนี้ไม่มาวันนี้ เจ้าหนี้ต้องแสดงตน เพราะหลังจากนี้ถ้าไม่แสดงตน ต้องขอแสดงความเสียใจล่วงหน้า เพราะท่านจะถูกตรวจสอบ อย่าคิดว่าอยู่เบื้องหลังและจะไม่รู้ อันตรายจริง ๆ ต้องฝากบอกว่าเราจะไม่ยอมให้คนไทยทำมาหากินแล้วต้องใช้หนี้นอกระบบแบบชีวิตไม่มีอะไรดีขึ้นเลย วันนี้มาร่วมกัน เรามีแหล่งเงินกู้คนจน เราก็นำเข้าระบบถือเป็นโอกาสดีของท่าน” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีเจ้าหนี้เป็นข้าราชการจะมีผลต่อการงานหรือไม่ นายชาดา ยืนยันว่าการแก้ปัญหามีผลต่ออนาคต เราจะไม่พูดถึงเรื่องความหลังเจ้าหนี้ที่เป็นราชการก็จะต้องเร่งมาลงทะเบียนอาจจะโดนสองเด้ง เพราะจะโดยโทษวินัยด้วย.-316.-สำนักข่าวไทย          

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]

‘ทรัมป์’ ฉลองวันชาติสหรัฐด้วยการลงนามร่างกฎหมายสำคัญ

วอชิงตัน 5 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้ร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐเมื่อวานนี้ ด้วยการแสดงพลุไฟตระการตาเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน นายทรัมป์จัดพิธีฉลองวันชาติที่สนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวในวันหยุดเพื่อรำลึกวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคม โดยมีการแสดงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเครื่องบินขับไล่ คล้ายกับที่เครื่องบินที่ใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้สนับสนุนนายทรัมป์หลายร้อยคนเข้าร่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สมาชิกสภาคองเกรส และครอบครัวทหาร ก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แพ็กเกจกฎหมายขนาดใหญ่ว่าด้วยการลดภาษีและการใช้จ่าย ในพิธีที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้อนุมัติร่างกฎหมายสำคัญนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญประจำวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ ทำให้การลดภาษีในปี 2017 ของเขาเป็นไปแบบถาวร และคาดว่าจะทำให้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์จากการประกันสุขภาพ โดยร่างกฎหมายผ่านสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 หลังจากการอภิปรายที่เข้มข้นในสภา การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกัน ซึ่งโต้แย้งว่ากฎหมายจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองข้ามการวิเคราะห์ที่เป็นกลางซึ่งคาดการณ์ว่ากฎหมายจะเพิ่ม หนี้ของประเทศอีกกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จากหนี้ปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าสมาชิกสภาบางคนจากพรรคของนายทรัมป์จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของร่างกฎหมายและผลกระทบต่อโครงการดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายแล้วมีเพียง ส.ส. รีพับลิกันเพียงสองคนจากทั้งหมด 220 […]