แก้ปัญหา กยศ. ลดเหลื่อมล้ำ เพิ่มโอกาสการศึกษา

กรุงเทพฯ 15 พ.ค.- นายกฯ ให้ความสำคัญ ต่อการแก้ไขปัญหากองทุน กยศ. เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มโอกาสทางการศึกษา โดยได้ปรับเปลี่ยนกฎระเบียบใหม่ ให้เกิดการกู้ยืมบนโครงสร้างที่เป็นธรรม เป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้มากขึ้น


นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ ต่อปัญหาและการดำเนินการของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เสมอมา โดยได้ดูแลและให้บูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้ปรับเปลี่ยนกฎหมายใหม่ กยศ. ให้เป็นไปเพื่อสร้าง ecosystem เกิดการกู้ยืมที่เป็นธรรม ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่ระบบการเงินที่มีเสถียรภาพ ตามบทบาทของ regulator หนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าลูกหนี้ เมื่อเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ แต่ต้องอยู่บนโครงสร้างที่เป็นธรรม

ดังนั้น กรณีคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกล่าวถึงผลการดำเนินงานของ กยศ. ที่พบว่าขาดสภาพคล่อง และมีลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้กว่า 9.7 หมื่นล้าน นั้น


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีขอชี้แจงว่า ปัญหาการผิดนัดชำระหนี้แท้จริงแล้วมีต้นตอของปัญหาที่สะสมมานาน โดยรูปแบบการจ่ายต่องวดสูงขึ้นทุกปี มีเบี้ยปรับ 18% ต่อปี ทั้งที่ดอกเบี้ย 1% ต่อปี และมีลำดับการตัดจ่ายหนี้ ที่จ่ายเท่าไหร่ก็ไม่ถึงต้น

อย่างไรก็ดี ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายใหม่ จะเป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้มากขึ้น เริ่มที่ กยศ. คำนวณยอดหนี้ใหม่ ทั้งการลดเบี้ยปรับจาก 18% เป็น 0.5% ต่อปี การปรับเพิ่ม/ทางเลือกจำนวนงวดจ่าย และการปรับลำดับการตัดหนี้ให้ตัดเงินต้นก่อน ซึ่งจะทำให้ลดภาระเงินต้นคงค้าง เช่น จาก 2.1 แสนบาท เหลือ 5.1 หมื่นบาท เป็นต้น นอกจากนี้ กฎหมาย กยศ. ใหม่ ยังยกเลิกผู้ค้ำประกัน เพื่อยกระดับมาตรฐานของเจ้าหนี้ ที่ต้องรับผิดชอบและเป็นธรรม กรณีผู้กู้มีศักยภาพและอยู่ในวิสัยที่จะชำระเงินกู้เอง

ดังนั้น กฎหมายใหม่ กยศ. จะมีผลเป็นคุณต่อผู้กู้ทุกราย 3.6 ล้านคน และผู้ค้ำประกัน 2.8 ล้านคน จะหลุดพ้นจากภาระ และกรณีลูกหนี้ผิดนัดยังไม่ปิดบัญชี จะมียอดหนี้คงค้างลดลง อย่างมีนัยยะสำคัญ และจะยุติการบังคับคดีทุกราย จนกว่าจะมีการคำนวนยอดหนี้ใหม่ โดย กยศ. มีหน้าที่ดำเนินการไม่ให้ขาดอายุความ


ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณปี 2568 เติมให้กองทุน กยศ. เพื่อสภาพคล่องของกองทุนอย่างเหมาะสมต่อไป

“นายกรัฐมนตรีต้องการช่วยเหลือเยาวชน ลดความเหลื่อมล้ำ ให้มีโอกาสทางการศึกษามากที่สุด เพราะเยาวชนเป็นกำลังหลักในการพัฒนาชาติ อย่างไรก็ดี ผู้กู้ทุกรายต้องมีความรับผิดชอบ เมื่อเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ แต่รัฐบาลเข้าใจดีว่าต้องเป็นไปภายใต้หลักเกณฑ์โครงสร้างที่เป็นธรรม ยืนยันว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการตลอดมาคือต้องการจัดการให้ทุกอย่างเป็นไปตามระบบระเบียบ ภายใต้การคำนึงถึงภาพรวมของสังคม ที่เท่าเทียมเป็นธรรม” นายชัย กล่าว.-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย