ประจวบคีรีขันธ์ 13 พ.ค.- “มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ตรวจด่านสิงขรฯ รับฟังความเห็นเอกชนในพื้นที่ ชูการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก – รับหารือพัฒนาเป็นด่านถาวรเพื่อประโยชน์ไทย-เมียนมา
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดผ่อนปรนพิเศษ ด่านสิงขร-มอต่อง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ในการตรวจราชการ และการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกสถานที่ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 14-15 พฤษภาคม เพื่อรับฟังปัญหา และติดตามศักยภาพของด่านฯ จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชน เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการของภาคเอกชนในพื้นที่ทั้งหอการค้าจังหวัดประจวบฯ ผู้บริหารตลาดทะเลไทยและผู้ประกอบการอื่นๆ โดยชูการทูตเพื่อประโยชน์ในมิติเชิงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจการค้าชายแดน ให้สอดคล้องกับนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกของรัฐบาล โดยได้รับทราบถึงศักยภาพของธุรกิจอาหารทะเลจากนักลงทุนไทย และความต้องการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในเมียนมาเอง แต่ยังไม่มีกำลังการผลิต จึงเป็นโอกาสของนักลงทุนไทย ซึ่งอาจเป็นโอกาสของนักลงทุนไทยได้
ทั้งนี้ ด่านสิงขร-มอต่อง มีศักยภาพ และเป็นอีกทางเลือกในการขนส่งสินค้าจากไทยไปยังกรุงย่างกุ้ง เมียนมา ที่สามารถจะร่นระยะเวลา และค่าขนส่งสินค้าต่อไปยังจีน และมาเลเซียได้ นอกเหนือจากจุดผ่านแดนแม่สอด-เมียวดี ซึ่งจุดผ่อนปรนนี้ มีมูลค่าการค้าชายแดนเมื่อปี 2566 สูงเป็นอันดับ 3 รองจากด่านแม่สอด-เมียวดี และด่านพุน้ำร้อน-ทิกิ คือ จำนวนกว่า 37,864 ล้านบาท ซึ่งสินค้าส่งออกหลักไปเมียนมา ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค พลาสติก อุปกรณ์ก่อสร้าง และผลไม้ ซึ่งที่ผ่านมามีจำนวนลดลงไปบ้างประมาณ 20% เนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบภายในในเมียนมา โดยรัฐบาล ได้รับไปหารือถึงการพัฒนาด่านสิงขรฯ ให้เป็นด่านถาวรต่อไป แต่จะต้องพูดคุยถึงความเป็นไปได้กับผู้เกี่ยวข้องก่อน เพื่อแสวงหาการยอมรับจากทั้ง 2 ฝ่าย และเพื่อประโยชน์กับประชาชนชาวไทย และชาวเมียนมาต่อไป. 314.-สำนักข่าวไทย