กกต. แจกใบดำ-ใบแดง “สุวรรณา กุมภิโร” ส.ส.บึงกาฬ พรรคภูมิใจไทย

กกต. 13 พ.ค.-กกต.แจกใบดำ-ใบแดง “สุวรรณา กุมภิโร” ส.ส.บึงกาฬ พรรคภูมิใจไทย ให้ทรัพย์สินวัด หาเสียงรื่นเริง ชงศาลฎีกาฟันเพิกถอนสิทธิ พ่วงอาญา ชดใช้ค่าเลือกตั้ง อดีตเมียโดนด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ) หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของนายสุวรรณา กุมภิโร สส.บึงกาฬ เขตเลือกตั้งที่ 2 และสั่งให้มีการเลือกตั้ง ใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่าง ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.2561 มาตรา 138 ฃ และสั่งให้นายสุวรรณา รับผิดค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้ง ครั้งที่เป็นเหตุให้ศาลฎีกามีคำสั่งดังกล่าวตามมาตรา139 รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญานายสุวรรณา นายทองคำ คุณาคม และนางอรอุมา บุญศิริ ตามมาตรา73(2) ประกอบมาตรา 158 และมาตรา 73(3) ประกอบมาตรา 159 ของกฎหมายเดียวกัน

ทั้งนี้เนื่องจากข้อเท็จจริงจากการไต่สวนของกกต. พบว่า วันที่ 16 เม.ย. 66 เวลา09.00น. นายทองคำได้จัดรถแห่เป็นรถยนต์บรรทุกยี่ห้อ “ISUZU” หมายเลข ทะเบียน 88-4704 นครปฐม ติดสติกเกอร์ว่า “เสี่ยหม่ำ” ซึ่งหมายถึงนายสุวรรณา ติดตั้งเครื่องเสียง เครื่องดนตรี และเวทีเคลื่อนที่ ไปช่วยในงานบุญตบประทาย หรืองานบุญก่อเจดีย์ทราย วัดจอมมณีธร บ้านหนองทุ่ม หมู่ที่ 1และหมู่ที่ 12 ต.หนองทุ่ม อ.เซกา จ.บึงกาฬ โดยมีการเปิดดนตรีสนุกสนาน เพลงสปอตโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งของนายสุวรรณา มีเนื้อเพลงประกอบดนตรีว่า “นายกหม่ำ เบอร์ 10 เบอร์ 10” และจากการตรวจสอบบทสนทนาทาง แอปพลิเคชันไลน์ ประกอบคำร้องยังพบ นายทองคำ ส่งข้อความในกลุ่มไลน์ของหมู่บ้านหนึ่งในเขตเลือกตั้งว่า “แจ้งประชาสัมพันธ์ พรุ่งนี้ ผมประสานพระครูสุธรรมสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดจอมมณีธรแล้ว ทำการก่อเจดีย์ทราย ช่วงบ่าย ส่วนช่วงสามโมงเช้าเป็นต้นไป ผมได้ประสานรถแห่ของว่าที่ สส. นายกหม่ำเบอร์ 10 ให้มาช่วยแห่ต้นวันสุดท้ายก่อเจดีย์ทราย โดยจะประสานทางผู้ใหญ่ประชาสัมพันธ์ทางหอกระจ่ายข่าวพรุ่งนี้เช้า ให้ชาวบ้านเราร่วมทำเป็นต้นกัน ร่วมขบวนแห่หลังคาละหนึ่งต้นก็ได้ หรือบริจาคตามกำลังศรัทธาร่วมขบวนแห่ก็ได้ ขบวนแห่เราเริ่มเวลาสามโมงเช้า รถแห่เริ่มไปตามเส้นทางแห่พระเหวดในทั้งสองหมู่บ้านจึงประชาสัมพันธ์ ให้รับทราบเป็นทางและกัน” โดยกลุ่มไลน์ดังกล่าวมีสมาชิกประกอบด้วยผู้นำชุมชนและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สอดคล้องกับวิดีโอคลิปประกอบคำร้องที่ปรากฏภาพ นายทองคำกล่าวขณะอยู่บริเวณรถแห่ ว่า “โอเคสุดยอดเลย วันนี้ทีมงานของนายกหม่ำ สจ.ทองคำ เขต 2 เป็นผู้ประสานงาน เพื่อได้มาสนุกสนานวันสงกรานต์กันวันสุดท้าย มื้อนี้ตอนแลงกะสิมีการถวายประทาย ช่วงเข้ากะจะมีการแห่ต้นกัณฑ์โอเคเนาะ” ซึ่งมีลักษณะเป็นการกล่าวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่ในขบวนแห่ หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่รับชมวิดีโอคลิปประกอบคำร้องให้เข้าใจว่า นายสุวรรณาและนายทองคำได้นำรถแห่ มาช่วยงานบุญโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยมีพยานทั้งผู้นำชุมชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ได้รับการโทรศัพท์เชิญชวนมาร่วมงานหลายปากให้ถ้อยคำสอดคล้องกันถึงกิจกรรมและลักษณะการหาเสียงดังกล่าว ที่การเปิดเพลงลูกทุ่งหมอลำ มีชาวบ้านประมาณ 300 คน เข้าร่วมเต้นรำมีการเปิดเพลงสปอร์ตโฆษณาหาเสียงที่มีเนื้อเพลงว่า”นายกหม่ำ เบอร์ 10เบอร์ 10″


นอกจากนี้ยังพบว่า รถแห่คันดังกล่าว เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ดินทอง เรียล เอสเตท จำกัด มีนางอรอุมา ซึ่งเป็นอดีตภริยาและเป็นผู้ช่วยหาเสียง ของนายสุวรรณา เป็นกรรมการผู้จัดการ โดยรถแห่คันดังกล่าวจอดและเก็บรักษาอยู่ที่บ้านพักของนางอรอุมา ซึ่งนายสุวรรณา ก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวเช่นกัน กรณีจึงปรากฏพฤติการณ์และหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า วันดังกล่าวนายสุวรรณา นายทองคำและนางอรอุมา ได้ก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้มีการนำรถแห่ คันดังกล่าวไปช่วยงานบุญตบประทายหรืองานบุญก่อเจดีย์ทรายวัดจอมมณีธร บ้านหนองทุ่ม หมู่ที่ 1 และ หมู่ที่ 13 ต.หนองทุ่ม อ.เซกา จ.บึงกาฬ อันเป็นการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อมแก่ชุมชนและวัด และการเปิดเพลงสปอร์ตโฆษณาหาเสียงและดนตรีจังหวะสนุกสนาน โดยมีชาวบ้านมาร่วมงานและเต้นรำ เป็นการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายสุวรรณา เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งส.ส.บึงกาฬ เขตเลือกตั้งที่ 2 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายสุวรรณา มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

ทั้งนี้ นายสุวรรณาถือเป็นสส.รายที่ 2 ที่ กกต. มีมติแจกใบดำใบแดงจากกรณีทุจริตการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 66 ต่อจากนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 8 พรรคภูมิใจไทย.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]