นายกฯ กราบนมัสการพระพรหมมงคลวัชราจารย์

ราชบุรี 12 พ.ค. – นายกฯ กราบนมัสการพระพรหมมงคลวัชราจารย์ พระอนุชาในสมเด็จพระสังฆราช บอก นายกฯ “เหนื่อยหน่อยนะ” ด้าน “นายกฯเศรษฐา” ระบุ เป็นนายกฯ-รมต. ต้องไม่นั่งแค่ห้องแอร์ ลงพื้นที่ทั่วประเทศรับฟังปัญหาประชาชน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมายังวัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร ตำบลหน้าเมืองอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี กราบพระประธานในพระอุโอสถ ก่อนที่ครูพระครูวรกิจโกศล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดฯจะเล่าประวัติและนำเยี่ยมชมความสวยงามภายในพระอุโบสถ

จากนั้นไปกราบนมัสการพระพรหมมงคลวัชราจารย์ (พระอนุชาในสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก) ที่หอสมุดของวัด เมื่อมาถึงนายกฯได้เปิดกรวยถวายเทียนแพ ผ้าไตร ไทยธรรม


พระพรหมมงคลวัชราจารย์ ได้มอบพระประธานจำลอง ขนาดหน้าตัก 5 นิ้วให้กับนายกรัฐมนตรี พร้อมสนทนาธรรม โดยพระพรหมมงคลวัชราจารย์ ได้กล่าวกับว่านายกรัฐมนตรีว่า “เหนื่อยหน่อยนะ”

ขณะที่นายกฯ กล่าวว่าหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ราชบุรีก็จะเดินทางต่อไปที่จังหวัดเพชรบุรี และคืนนี้จะนอนพักค้างที่จังหวัดเพชรบุรี

พระพรหมมงคลวัชราจารย์ จึงกล่าวย้ำว่าเหนื่อยหน่อยนะ นายกฯ จึงตอบกลับว่า “ไม่ครับ โอเคครับ ได้ครับ ได้อยู่ครับ ”


พระพรหมมงคลวัชราจารย์ ยังกล่าวว่าอาตมาทราบข่าวว่าจะเดินทางมาที่วัดก็ดีใจ ที่นายกรัฐมนตรีมาเยี่ยมวัด

ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ในราชบุรีไปมาหลายที่ด้วยกัน โดยเฉพาะการมารับฟังปัญหาในพื้นที่ของราชบุรี ทั้งเรื่องน้ำ การเกษตร และการท่องเที่ยว และพื้นที่ทำกินของประชาชน

พระพรหมมงคลวัชราจารย์ กล่าวว่า ปีนี้ร้อนจัดมาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า ความจริงแล้วกาญจนบุรีและราชบุรีเป็นจังหวัดที่โชคดีมากที่มีแหล่งน้ำเยอะ เพียงแต่ต้องมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งดีกว่าหลายจังหวัดที่ไม่มีน้ำเลย อีกทั้งมีพืชสวน พืชไร่จำนวนมาก โดยเฉพาะมะพร้าวน้ำหอมที่มีมูลค่าส่งออกจำนวนมาก อย่างไรก็ตามปีหน้าเรื่องการบริหารจัดการน้ำต้องทำให้ดีมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ

และเมื่อวานนี้ที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ก็เห็นปริมาณน้ำโดยเฉพาะเขตปริมาณน้ำโดยเฉพาะที่เขื่อนวชิราลงกรณ์ ปริมาณน้ำลดลงไปมาก และแห้งมาก มองเห็นต่อไม้เลย แต่ถือว่าโชคดีที่กรมชลประทานบริหารจัดการได้ดีพอประมาณ เข้าใจว่าอีกหนึ่งถึงสองเดือนก็จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ก็คงไม่มีปัญหาเรื่องแล้ง

พระพรหมมงคลวัชราจารย์ กล่าวว่าหากทุกเขื่อนสามารถบริหารจัดการน้ำได้และกักเก็บน้ำไว้ เกษตรกรก็จะมีน้ำใช้อย่างพอเพียง

ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันมีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเยอะ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญนอกจากการใช้อุปโภคบริโภคแล้ว ยังต้องนำมาใช้ในการรักษาระบบนิเวศ รวมทั้งหมดใช้ในระบบอุตสาหกรรม ทำให้บางช่วงมีปัญหาระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตร ยิ่งประเทศไทยจะมีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มาตั้งมากขึ้น ต้องมีการบริหารจัดการน้ำให้ดี ทั้งเรื่องการหาแหล่งน้ำ คูคลองและระบบการทดน้ำ และยอมรับว่าไม่เคยคิดว่าภาคอุตสาหกรรมจะมีความต้องการใช้น้ำเยอะขนาดนี้ และจากการลงพื้นที่ก็ทำให้เข้าใจว่าหากประเทศไทยไม่ท่วมไม่แล้ง จะทำให้เรามีรายได้สูงขึ้นมาก เพราะรัฐบาลต้องชดเชยให้กับเกษตรกร และหากเราทำได้ ผลผลิตภาคการเกษตรก็จะสูงขึ้นมาก ดังนั้นการบริหารจัดการน้ำจึงเป็นความท้าทายของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องบริหารจัดการน้ำให้ดี แบ่งสันปันส่วนให้เหมาะสม

“ผมเชื่อว่าหน่วยงานข้าราชการเข้าใจในประเด็น เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกรมชลประทานว่าถ้าไม่บริหารจัดการให้ดี ก็จะเป็นปัญหา เช่น จังหวัดอุบลราชธานีทุกปี ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ก็จะท่วมสูง หลายสัปดาห์ แต่ปีที่แล้วเราได้เข้าไปบริหารจัดการ ไปคุยกับกรมชลประทาน ลงพื้นที่ไปบริหารจัดการเรื่องน้ำ ทำให้ปีนี้อุบลฯ น้ำไม่ท่วมเลย แสดงว่าทั้งหมดขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ทั้งเรื่องการขุดลอกคูคลอง การสร้างแหล่งน้ำ ซึ่งก็ต้องใช้งบประมาณ เราจึงพยายามจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ เพราะเกษตรกรมีหลาย 10 ล้านคน แต่หลายอย่างขึ้นอยู่กับการใส่ใจ และต้องอาศัย สส. ในพื้นที่ที่ต้องมีการพูดคุยกัน การลงพื้นที่บ่อยของรัฐบาลและรัฐมนตรีทุกคน ที่ความจริงแล้วเราไม่ได้เน้นอยู่ในห้องแอร์ เราอยากให้ลงพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น สส. จากพรรคเดียวกันกับนายกฯ หรือไม่ใช่ก็ตาม เราเองพยายามเข้าถึงให้ได้ และพยายามรับฟังปัญหา และเหนือสิ่งอื่นใด สส.คือตัวแทนของประชาชน ทุกคนมีความปรารถนาดีกับประชาชน จะอยู่พรรคไหนก็ตามที ตรงนี้ถ้าเราฟังและมาช่วยกันแก้ไข ผมเชื่อว่าทุกคนจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำในวันนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ความจริงไม่ใช่ทุกจังหวัดที่ขาดน้ำ ในหลายๆ จังหวัดยังมีน้ำเพียงแต่เราต้องบริหารจัดการ ถ้าพูดง่ายๆ คือต้องใส่ใจ ถ้าเกิดเราไม่ลงพื้นที่ ทั้งผู้ใหญ่หรือรัฐมนตรี ซึ่งบางท่านก็อายุเยอะ โดยนายกรัฐมนตรีได้หันไปทางนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมกล่าวต่อว่า แต่ก็ยังขยันขันแข็ง และยังลงพื้นที่ตลอด ทำให้นายเสริมศักดิ์ยกมือไหว้ ก่อนที่นายกฯจะกล่าวว่า เพราะหากไม่ลงพื้นที่ก็จะไม่ทราบความเดือดร้อนของประชาชน ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลืออย่างไร วันนี้ก็ยอมเหนื่อยหน่อยแต่ถือเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลไม่ใช่มีหน้าที่บริหารอย่างเดียว เรามีหน้าที่รับฟังเหตุผลและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ในทุกๆ จังหวัดทั่วประเทศด้วย ก็ต้องเดินทางเยอะหน่อย เป็นการลงพื้นที่เพื่อรับฟังความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้รัฐบาลมีงบประมาณจำนวนจำกัด ต้องจัดลำดับความสำคัญให้ดี ว่าอะไรที่สำคัญต้องทำก่อน และจัดการโดยเร็ว เป็นโครงการเร่งด่วนที่ต้องลงไปก่อน ยอมรับว่าก็ไม่ง่าย เพราะ สส. แต่ละท่านก็มีความต้องการที่หลากหลายออกไป

ก่อนเดินทางไปยังภารกิจต่อไป พระพรหมมงคลวัชราจารย์ ได้ประพรมน้ำมนต์ให้นายกรัฐมนตรีและคณะพร้อมให้พรตอนหนึ่งว่า

“ในนามแห่งคณะสงฆ์ วัดศรีสุริยวงศารามวรวิหารนี้ ขออำนวยพร ให้ท่านนายกฯและคณะรัฐมนตรีทุกท่าน จงประสบความสุขความเจริญดำเนินกิจการ บริหารประเทศ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความสวัสดีและเกิดความสุขของประชาชน ของประเทศชาติ ขออนุโมทนาให้ทุกๆท่านช่วยกันบริหารประเทศ ให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป สส. ก็ต้องสนับสนุน”.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย