เวทีเสวนา สว. เก่าไปใหม่มา

สถาบันปรีดีพนมยงค์ 11 พ.ค.-เวทีเสวนา สว. เก่าไปใหม่มา นักการเมืองและนักวิชาการต่างชี้ 250 สว. ยุค คสช. แช่แข็ง-กร่อนเซาะประชาธิปไตย โดยให้คะแนนเต็ม 10 ในการรักษาอำนาจ คสช. ต่างวิจารณ์ระบบเลือก สว. สร้างความสับสน โดย “รศ.ประจักษ์” เปรียบเป็นระบบครึ่งบกครึ่งน้ำ “รศ.สิริพรรณ-จาตุรนต์” แนะให้แก้ไขปรับปรุงระเบียบแนะนำตัว

จัดงานเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ “เก่าไปใหม่มา : สว.ชุดใหม่ อนาคตประชาธิปไตย อนาคตประเทศไทย ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบไปด้วย นายจตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ,ศาสตราจารย์ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อดีตคณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , รองศาสตราจารย์ประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร , และศาสตราจารย์สิริพรรณ นกสวน สวัสดี คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ในเวทีได้กล่าวถึงวุฒิสภาชุด คสช.ที่ได้หมดวาระ 5 ปี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางฝ่ายการเมือง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่ได้มองว่า สว.ชุดที่ผ่านมาดีหรือไม่ดี แต่มองเรื่องระบบที่ให้อำนาจ สว.มากมายกว่าที่เคยมีในอดีต ทั้งเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ การเลือกนายกรัฐมนตรี พิจารณากฎหมายสำคัญ กำกับยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป แต่ไม่ได้มีการลงโทษการไม่ทำตามยุทธศาสตร์ชาติ เพราะเป็นผู้ที่ตั้ง สว.มา พร้อมขอให้ช่วงการรักษาการอะไรที่ไม่จำเป็นไม่ต้องรีบดำเนินการ

ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ มองบทบาท 250 สว. ว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในการแช่แข็งประชาธิปไตย และสืบทอดอำนาจบุคคลที่เชื่อมโยงกับคณะรัฐประหาร ที่มีส่วนร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ชี้ว่าเป็นปัญหาของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะบทบาทร่วมโหวตนายกฯ เข้ามาแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล 2 ครั้งปี 2562 และ 2566 ตอกย้ำว่า สว.หลายคนมีเจตนาแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล และ มองว่า 250 สว.ยังเป็นอุปสรรคการแก้รัฐธรรมนูญ


สอดคล้องกับนักวิชาการ ศาสตราจารย์ สิริพรรณ นกสวน สวัสดี ประเมินการทำงานของ สว.ชุด คสช. พบว่ามีการเห็นชอบกฎหมายที่ผ่านจากสภาฯ แต่กฎหมายที่สำคัญคือร่างแก้รัฐธรรมนูญ 26 ฉบับ มีเพียง 1 ฉบับผ่านที่เหลือที่ถูกปัดตก เปรียบเป็นการขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะปฏิเสธปิดสวิตซ์ตัวเองหรืออำนาจร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี

และรองศาสตราจารย์ประจักษ์ ก้องกีรตี ได้ให้คะแนน สว.ชุดที่ผ่านมาเต็ม 10 ในการรักษาอำนาจของ คสช. ที่ได้แต่งตั้ง 250 สว.มา แต่การส่งเสริมประชาธิปไตยและการตรวจสอบถ่วงดุลให้คะแนน 0 หรือสอบตก โดยมอง สว.ยังขัดขวางและกร่อนเซาะประชาธิปไตยของไทยในช่วงที่ผ่านมา และเชื่อหากไม่มี 250 สว.ประเทศไทยเดินหน้าทางประชาธิปไตยได้นานแล้ว พร้อมมองถึงความจำเป็นระบบการเมืองรัฐสภาว่าจำเป็นต้องมี สว.หรือไม่

ในประเด็นเกี่ยวกับระบบวุฒิสภา ทั้งอดีตของวุฒิสภาไทยและในต่างประเทศ ศาสตราจารย์สิริพรรณ ระบุว่าวุฒิสภาเป็นสภาพี่เลี้ยงของสภาผู้แทนราษฎร เดิมนายปรีดี พนมยงค์ เคยออกแบบให้ยึดโยงกับประชาชน ผ่านการเลือกตั้ง แต่เมื่อเปลี่ยนให้มาจากการแต่งตั้งกลายเป็นเครื่องมืองค้ำจุนอำนาจรัฐ และในเวลาต่อมาวุฒิสภายังมีข้อครหาสภาผัวเมีย จึงเป็นข้อถกเถียงในการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะมีรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่กล่าวถึงระเบียบการได้มาซึ่ง สว.ทำให้ผู้สมัครกังวลในการดำเนินการจนมีการยื่นร้องศาลปกครอง พร้อมเสนอแนะให้ กกต.ผ่อนปรน ออกระเบียบอะลุ่มอร่วยให้ประชาชนร่วมสังเกตการณ์เลือกได้


รองศาสตร์จารย์ประจักษ์กล่าวถึงรูปแบบการเลือก สว.ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่เคยมีประเทศใดในโลกมีระบบนี้ มองเป็นระบบที่ไม่ชอบธรรม และไม่ยึดโยงประชาชน ชี้เป็นความพิษดารและสร้างความสับสนโดยตั้งใจ เปรียบเป็นระบบครึ่งบกครึ่งน้ำ และไม่ได้ตอบโจทย์การเป็นตัวแทนประชาชน แต่เป็นระบบการเลือกเหมือนกล่องสุ่ม มอง สว.ที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาขนทำให้ฝ่ายการเมืองมาช้อนซื้อด้วยกล้วยหรือ ล็อบบี้ภายหลังได้ง่าย เชื่อเป็นเกมส์ที่ผู้นำได้ออกแบบมา และสิ่งที่ประชาชนทำได้คือประชาชนต้องไปสมัครเพื่อสกัดการจัดตั้ง

ส่วนนายจาตุรนต์ย้ำสิ่งที่น่ากลัวในการเลือก สว.ครั้งนี้คือการจัดตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งโดยฝ่ายการเมืองหรือจากนายทุน และ กกต.กำลังทำให้ประชาชนไม่มีส่วนร่วม จากระเบียบที่ออกมาเกินไปในทางจำกัดสิทธิเสรีภาพ พร้อมเสนอให้แก้ระเบียบแนะนำตัว ให้ประชาชนแสดงความเห็นและให้ผู้สมัครให้สัมภาษณ์ออกสื่อได้

นอกจากนี้ในเวทีเสวนาช่วงท้ายยัง ฝากไปยัง สว.ชุดใหม่ที่กำลังเข้าสู่กระบวนการเลือก ศาสตราจารย์สิริพรรณ เน้นย้ำว่าสิ่งแรก สว.ใหม่ คือเจอภารกิจสำคัญพิจารณา พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติและการแก้รัฐธรรมนูญ หวัง สว. ใหม่มีคุณภาพ ลบคำสบประมาทเรื่องการซื้อเสียง สว. และฝากถึงรัฐบาลทำให้มีบรรยากาศแก้รัฐธรรมนูญมากกว่านี้ ส่วนรองศาสตราจารย์ประจักษ์ฝาก สว.ใหม่ เพราะมีเดิมพันถึงโอกาสที่จะทำให้ประชาธิปไตยไทยเข้มแข็ง เปลี่ยน สว.ที่เป็นตัวแทนชนชั้นนำเป็นตัวแทนประชาชน

ขณะที่นายจาตุรนต์ คาดหวัง สว.ชุดหน้ามีความเชื่อมโยงกับประชาชน พร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และเรียกร้องให้ สว.อย่างน้อย 67 คนร่วมสนับสนุนยกมือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนายพริษฐ์ ฝากถึง สว. 200 คน ทำหน้าที่ตระหนักถึงอำนาจอย่างรับผิดชอบเพื่อปกป้องประชาธิปไตย ร่วมแก้รัฐธรรมนูญ ใช้ดุลพินิจในการแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระท และตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ด้วยเชื่อประชาชนจะสนับสนุนการทำงานของ สว.ใหม่ อย่างแน่นอน.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส