เวทีเสวนา สว. เก่าไปใหม่มา

สถาบันปรีดีพนมยงค์ 11 พ.ค.-เวทีเสวนา สว. เก่าไปใหม่มา นักการเมืองและนักวิชาการต่างชี้ 250 สว. ยุค คสช. แช่แข็ง-กร่อนเซาะประชาธิปไตย โดยให้คะแนนเต็ม 10 ในการรักษาอำนาจ คสช. ต่างวิจารณ์ระบบเลือก สว. สร้างความสับสน โดย “รศ.ประจักษ์” เปรียบเป็นระบบครึ่งบกครึ่งน้ำ “รศ.สิริพรรณ-จาตุรนต์” แนะให้แก้ไขปรับปรุงระเบียบแนะนำตัว

จัดงานเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ “เก่าไปใหม่มา : สว.ชุดใหม่ อนาคตประชาธิปไตย อนาคตประเทศไทย ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบไปด้วย นายจตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ,ศาสตราจารย์ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อดีตคณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , รองศาสตราจารย์ประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร , และศาสตราจารย์สิริพรรณ นกสวน สวัสดี คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ในเวทีได้กล่าวถึงวุฒิสภาชุด คสช.ที่ได้หมดวาระ 5 ปี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางฝ่ายการเมือง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่ได้มองว่า สว.ชุดที่ผ่านมาดีหรือไม่ดี แต่มองเรื่องระบบที่ให้อำนาจ สว.มากมายกว่าที่เคยมีในอดีต ทั้งเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ การเลือกนายกรัฐมนตรี พิจารณากฎหมายสำคัญ กำกับยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป แต่ไม่ได้มีการลงโทษการไม่ทำตามยุทธศาสตร์ชาติ เพราะเป็นผู้ที่ตั้ง สว.มา พร้อมขอให้ช่วงการรักษาการอะไรที่ไม่จำเป็นไม่ต้องรีบดำเนินการ

ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ มองบทบาท 250 สว. ว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในการแช่แข็งประชาธิปไตย และสืบทอดอำนาจบุคคลที่เชื่อมโยงกับคณะรัฐประหาร ที่มีส่วนร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ชี้ว่าเป็นปัญหาของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะบทบาทร่วมโหวตนายกฯ เข้ามาแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล 2 ครั้งปี 2562 และ 2566 ตอกย้ำว่า สว.หลายคนมีเจตนาแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล และ มองว่า 250 สว.ยังเป็นอุปสรรคการแก้รัฐธรรมนูญ


สอดคล้องกับนักวิชาการ ศาสตราจารย์ สิริพรรณ นกสวน สวัสดี ประเมินการทำงานของ สว.ชุด คสช. พบว่ามีการเห็นชอบกฎหมายที่ผ่านจากสภาฯ แต่กฎหมายที่สำคัญคือร่างแก้รัฐธรรมนูญ 26 ฉบับ มีเพียง 1 ฉบับผ่านที่เหลือที่ถูกปัดตก เปรียบเป็นการขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะปฏิเสธปิดสวิตซ์ตัวเองหรืออำนาจร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี

และรองศาสตราจารย์ประจักษ์ ก้องกีรตี ได้ให้คะแนน สว.ชุดที่ผ่านมาเต็ม 10 ในการรักษาอำนาจของ คสช. ที่ได้แต่งตั้ง 250 สว.มา แต่การส่งเสริมประชาธิปไตยและการตรวจสอบถ่วงดุลให้คะแนน 0 หรือสอบตก โดยมอง สว.ยังขัดขวางและกร่อนเซาะประชาธิปไตยของไทยในช่วงที่ผ่านมา และเชื่อหากไม่มี 250 สว.ประเทศไทยเดินหน้าทางประชาธิปไตยได้นานแล้ว พร้อมมองถึงความจำเป็นระบบการเมืองรัฐสภาว่าจำเป็นต้องมี สว.หรือไม่

ในประเด็นเกี่ยวกับระบบวุฒิสภา ทั้งอดีตของวุฒิสภาไทยและในต่างประเทศ ศาสตราจารย์สิริพรรณ ระบุว่าวุฒิสภาเป็นสภาพี่เลี้ยงของสภาผู้แทนราษฎร เดิมนายปรีดี พนมยงค์ เคยออกแบบให้ยึดโยงกับประชาชน ผ่านการเลือกตั้ง แต่เมื่อเปลี่ยนให้มาจากการแต่งตั้งกลายเป็นเครื่องมืองค้ำจุนอำนาจรัฐ และในเวลาต่อมาวุฒิสภายังมีข้อครหาสภาผัวเมีย จึงเป็นข้อถกเถียงในการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะมีรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่กล่าวถึงระเบียบการได้มาซึ่ง สว.ทำให้ผู้สมัครกังวลในการดำเนินการจนมีการยื่นร้องศาลปกครอง พร้อมเสนอแนะให้ กกต.ผ่อนปรน ออกระเบียบอะลุ่มอร่วยให้ประชาชนร่วมสังเกตการณ์เลือกได้


รองศาสตร์จารย์ประจักษ์กล่าวถึงรูปแบบการเลือก สว.ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่เคยมีประเทศใดในโลกมีระบบนี้ มองเป็นระบบที่ไม่ชอบธรรม และไม่ยึดโยงประชาชน ชี้เป็นความพิษดารและสร้างความสับสนโดยตั้งใจ เปรียบเป็นระบบครึ่งบกครึ่งน้ำ และไม่ได้ตอบโจทย์การเป็นตัวแทนประชาชน แต่เป็นระบบการเลือกเหมือนกล่องสุ่ม มอง สว.ที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาขนทำให้ฝ่ายการเมืองมาช้อนซื้อด้วยกล้วยหรือ ล็อบบี้ภายหลังได้ง่าย เชื่อเป็นเกมส์ที่ผู้นำได้ออกแบบมา และสิ่งที่ประชาชนทำได้คือประชาชนต้องไปสมัครเพื่อสกัดการจัดตั้ง

ส่วนนายจาตุรนต์ย้ำสิ่งที่น่ากลัวในการเลือก สว.ครั้งนี้คือการจัดตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งโดยฝ่ายการเมืองหรือจากนายทุน และ กกต.กำลังทำให้ประชาชนไม่มีส่วนร่วม จากระเบียบที่ออกมาเกินไปในทางจำกัดสิทธิเสรีภาพ พร้อมเสนอให้แก้ระเบียบแนะนำตัว ให้ประชาชนแสดงความเห็นและให้ผู้สมัครให้สัมภาษณ์ออกสื่อได้

นอกจากนี้ในเวทีเสวนาช่วงท้ายยัง ฝากไปยัง สว.ชุดใหม่ที่กำลังเข้าสู่กระบวนการเลือก ศาสตราจารย์สิริพรรณ เน้นย้ำว่าสิ่งแรก สว.ใหม่ คือเจอภารกิจสำคัญพิจารณา พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติและการแก้รัฐธรรมนูญ หวัง สว. ใหม่มีคุณภาพ ลบคำสบประมาทเรื่องการซื้อเสียง สว. และฝากถึงรัฐบาลทำให้มีบรรยากาศแก้รัฐธรรมนูญมากกว่านี้ ส่วนรองศาสตราจารย์ประจักษ์ฝาก สว.ใหม่ เพราะมีเดิมพันถึงโอกาสที่จะทำให้ประชาธิปไตยไทยเข้มแข็ง เปลี่ยน สว.ที่เป็นตัวแทนชนชั้นนำเป็นตัวแทนประชาชน

ขณะที่นายจาตุรนต์ คาดหวัง สว.ชุดหน้ามีความเชื่อมโยงกับประชาชน พร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และเรียกร้องให้ สว.อย่างน้อย 67 คนร่วมสนับสนุนยกมือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนายพริษฐ์ ฝากถึง สว. 200 คน ทำหน้าที่ตระหนักถึงอำนาจอย่างรับผิดชอบเพื่อปกป้องประชาธิปไตย ร่วมแก้รัฐธรรมนูญ ใช้ดุลพินิจในการแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระท และตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ด้วยเชื่อประชาชนจะสนับสนุนการทำงานของ สว.ใหม่ อย่างแน่นอน.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]