ยึดทรัพย์ “ธาริต” กว่า 40 ล้านเป็นของแผ่นดิน   

สำนักงานป.ป.ช. 9 พ.ค.-ป.ป.ช. แจงผลคดีตามคำพิพากษากรณี “ธาริต เพ็งดิษฐ์” ครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสร่ำรวยผิดปกติ ศาลสั่งให้ทรัพย์สินรวมมูลค่า 44,630,426 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน    


นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.   แถลงข่าวเกี่ยวกับคดีตามคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 กรณีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่ำรวยผิดปกติ ศาลสั่งให้ทรัพย์สินรวมมูลค่า 44,630,426 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่ำรวยผิดปกติ   ตามการไต่สวนข้อเท็จจริง (คดีแรก) โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ   หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ และมีหนี้สินลดลงผิดปกติ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ นายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์ นายสนชัย ศรีทองกุล และบริษัท ปิยธนวรรษ จำกัด

“ศาลแพ่ง ได้มีคำพิพากษาในคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งเรื่องไต่สวนดังกล่าวให้อัยการสูงสุด  ร้องขอให้ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาตกเป็นของแผ่นดิน เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561    สรุปได้ว่าให้ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่ร่ำรวยผิดปกติ    รวมมูลค่า 341,797,811.58 บาท     พร้อมดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ทั้งนี้ จากการไต่สวนข้อเท็จจริงในคดีแรก ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกกล่าวหา ยังมีทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติรายการอื่น   ที่อยู่ในชื่อนางสาวสุทธิมา จันดาคูณ นางสาวธัญธร ด่านวิบูลย์ พันตำรวจโท อิทธิพล บุญพินิจ อีกจำนวนมาก   และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรสผู้ถูกกล่าวหาได้ใช้ชื่อ นางวันทนา พิพัฒน์ไชยศิริ และนายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์ ซื้อทองคำแท่งจากบริษัท ออสสิริส จำกัด จำนวนมาก   ในการนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติสั่งไต่สวนผู้ถูกกล่าวหา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่ำรวยผิดปกติ เป็นคดีที่สอง    ซึ่งรายการทรัพย์สินที่สั่งไต่สวนคดีที่สอง    เป็นคนละรายการกับทรัพย์สินที่ไต่สวนและศาลแพ่งมีคำพิพากษาในคดีแรก “ เลขาธิการป.ป.ช. กล่าว


นายนิวัติไชย กล่าวว่า ผลการพิจารณาในคดีที่สอง ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว   มีมติว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์  เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ  หรือการมีหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้  ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 53,512,096 บาท โดยที่ประชุมมีมติให้ส่งรายงาน   สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน    และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ    ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน

 “ขณะนี้คดีที่สอง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ได้มีคำพิพากษา   เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567   ความแพ่ง ข้อหา ขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน คดีหมายเลขดำที่ พท 1/2565  คดีหมายเลขแดงที่ พท 1/2567 ระหว่างอัยการสูงสุด ผู้ร้อง กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ผู้ถูกกล่าวหา และผู้คัดค้าน รวม 6 คน ได้ความว่า ให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่า 44,630,426 บาท    พร้อมดอกผลของเงิน หรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากทรัพย์สินที่ได้ โดยร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4  ประกอบมาตรา 83   และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 ประกอบมาตรา 125” เลขาธิการป.ป.ช. กล่าว

นายนิวัติไชย กล่าวว่า สำหรับทรัพย์สิน ตามรายการดังต่อไปนี้  1. เงินฝากในบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ชื่อบัญชีเด็กหญิงอภิชยา เพ็งดิษฐ์ โดยนางสาวสุทธิมา จันดาคูณ รวมเป็นเงิน 2,000,000 บาท 2. เงินฝากในบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคาร A ชื่อบัญชี นางสาวสุทธิมา จันดาคูณ จำนวน 4,800,000 บาท 3. ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น โครงการ ซิตี้เซนส์ ประชาชื่น ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ราคา 3,140,000 บาท กับค่าบำรุงบริการสาธารณะ จำนวน 22,176 บาท รวมเป็นเงิน 3,162,176 บาท  4. ห้องชุด (ห้องที่ 1) อาคารบ้านเอื้ออาทรประชานิเวศน์ ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ราคา 280,500 บาท 5. ห้องชุด (ห้องที่ 2) อาคารบ้านเอื้ออาทรประชานิเวศน์ ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ราคา 225,000 บาท


เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า  6. รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น VELLFIRE ทะเบียน ธพ 28 กรุงเทพมหานคร ราคา 1,980,000 บาท 7. รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น แอคคอร์ด ทะเบียน ฆญ 2931 กรุงเทพมหานคร ราคา 1,697,000 บาท 8. รถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น 523 i ทะเบียน 4 กศ – 1173 กรุงเทพมหานคร ราคา 3,709,000 บาท  9. รายการทรัพย์สินของนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรสของผู้ถูกกล่าวหา ที่ใช้ชื่อนางวันทนา      พิพัฒน์ไชยศิริ และนายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์ ซื้อทองคำแท่งจากบริษัท ออสสิริส จำกัด รวมเป็นเงิน 8,076,750 บาท

นายนิวัติไชย กล่าวว่า 10. รายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ที่อยู่ในชื่อของนางสาวธัญธร ด่านวิบูลย์ เงินฝากในบัญชีธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาสรงประภา ชื่อบัญชี นางสาวธัญธร ด่านวิบูลย์ รวมเป็นเงิน 11,500,000 บาท 11. รายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ที่อยู่ในชื่อของพันตำรวจโท อิทธิพล บุญพินิจ รวมเป็นเงิน 7,200,000 บาท (อาคารชุด เดอะซีเครซ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวม 2 ห้อง ราคา 6,200,000 บาท และที่ดินโฉนดเลขที่ 45915 ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ราคา 1,000,000 บาท)

“ให้ผู้ถูกกล่าวหาส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินและทรัพย์สิน จำนวน 44,630,426 บาท และ/หรือเอกสารที่เกี่ยวกับการรับช่วงทรัพย์ของเงินหรือทรัพย์ดังกล่าว พร้อมกับให้โอนกรรมสิทธิ์ หรือชำระเงิน 44,630,426 บาท พร้อมดอกผลข้างต้นแก่แผ่นดินโดยกระทรวงการคลัง หากไม่โอนให้ถือเอาคำสั่งศาลแทนการแสดงเจตนา หากผู้ถูกกล่าวหาไม่สามารถโอนทรัพย์สินให้แก่แผ่นดินได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามให้ผู้ถูกกล่าวหาชดใช้เงิน 44,630,426 บาท หรือให้โอนทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาตามสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินที่ขาดอยู่แก่แผ่นดินแทนจนครบถ้วน และหากไม่โอนให้ถือเอาคำสั่งของศาลแทนการแสดงเจตนา คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ” เลขาธิการป.ป.ช. กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ