เฉพาะ เม.ย. จับโกงออนไลน์กว่า 6 พันราย

ทำเนียบรัฐบาล 9 พ.ค.-รมต.ดีอี นำทีมหน่วยงานเกี่ยวข้องแถลงความคืบหน้าการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 30 วัน เฉพาะเดือน เม.ย.จับกุม ผู้กระทำความผิดกว่า 6 พันราย เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดือน มี.ค. เล็งออก พ.ร.ก.คืนเงินผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงออนไลน์


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย นาย วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการและรักษาการเลขาธิการกสทช. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และพล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) ร่วมกันแถลงข่าว เรื่อง มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นายประเสริฐ กล่าวว่า ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ดำเนินการเร่งด่วน และต้องรายงานความคืบหน้าให้ทราบภายใน 30 วัน ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีการบูรณาการหน่วยงานต่างๆ เพื่อดำเนินงาน โดยในเดือนเมษายน สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดคดีออนไลน์ทุกประเภทได้ 6,624 ราย เพิ่มขึ้น 2.7 เท่า จากช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 67  เว็บพนันออนไลน์ มีการจับกุม 3,667 คน เพิ่มขึ้น 3.1 เท่า การจับกุมคดีบัญชีม้า ซิมม้า 366 คน เพิ่มขึ้น 1.9 เท่า การปิดโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ผิดกฎหมาย ทุกประเทศ 16,158 รายการ เพิ่มขึ้น 18 เท่าจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา


“ปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ 6,515 รายการ เพิ่มขึ้น 38.8 เท่า มาตรการแก้ไขปัญหาบัญชีม้าเร่งอายัดเงินและตัดตอนการโอนเงินเดือนเมษายน สามารถระงับบัญชีม้า 7 แสนบัญชี  โดยธนาคารระงับเอง 300,000 บัญชี ศูนย์ aoc ระงับ 101,375 บัญชี และสำนักงาน ป.ป.ง. ปิดบัญชีไปแล้ว 325,586 บัญชี นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย กำหนดเงื่อนไขการเปิดบัญชีใหม่เพื่อป้องกันการนำเอาบัญชีเหล่านั้นไปกระทำความผิดเพิ่มเติม ส่วนการระงับซิมม้า และจึงต้องสงสัย ดำเนินการไปแล้ว 800,000 หมายเลข ระงับการโทรออกหมายเลขโทรศัพท์ที่ตรวจสอบเพราะว่ามีการโทรออก 100 ครั้งต่อวัน 36,641 เลขหมาย ส่วนเสาโทรคมนาคม สายโทรศัพท์ และสายอินเทอร์เน็ตที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน กสทช. ร่วมกับ DSI สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงกลาโหม กวาดล้างและอบรมกำลังพลฝ่ายทหารให้กองทัพเข้าไปตรวจสอบได้ตามแนวชายแดนต่าง ๆ” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เฝ้าระวังชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายประธานผิดกฎหมาย โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ที่หลอกลวงคนไทยไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้ความสำคัญกับจังหวะที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก  ประสานความร่วมมือกับต่างประเทศในการปราบปรามจับกุม โดยกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ประสานเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งอาชญากรรมด้านอื่นๆ โดยในการประชุม ครม. ที่ผ่านมา(7 พ.ค.) นายกรัฐมนตรี สั่งการเพิ่มเติมให้ดำเนินการต่อเนื่องในทุกประเด็น

“ส่วนการเร่งรัดคืนเงินผู้เสียหาย ได้มอบหมายให้ศูนย์ AOC ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น facebook X tiktok LINE ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และผู้ให้บริการด้านการเงิน จะต้องมีมาตรการเพิ่มความรับผิดชอบกรณีผู้กระทำผิดใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นช่องทางในการหลอกลวงประชาชน หากพบว่าไม่มีมาตรการป้องกันให้เพียงพอ จะต้องมีส่วนรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย ดังนั้นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในการป้องกันความเสียหาย อาจจะต้องประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเฉพาะเจาะจง เพราะการหลอกลวงการลงทุนมีสถิติที่สุด รวมทั้งการหลอกให้หารายได้ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะต้องเริ่มทำความเข้าใจกับประชาชน”  นายประเสริฐ กล่าว


ด้านปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวว่า ความร่วมมือด้านต่างประเทศ ปัญหาการหลอกลวงออนไลน์เป็นปัญหาทั่วกันในประเทศอาเซียน และจากการ ประชุมรัฐมนตรีดิจิทัลอาเซียน และตั้งคณะทำงานเพื่อจัดการปัญหานี้ และประเทศไทยเป็นประธานคณะทำงานนี้  พร้อมได้กำหนดแผนงานที่ทำให้สามารถรู้ถึงกลไก การหลอกลวง วิธีการป้องกันปัญหา ทำให้การจัดการด้านอาเซียนเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น  ส่วนศูนย์AOC ซึ่งทำหน้าที่รับข้อมูลที่ประชาชนแจ้งเข้ามา  ซึ่งสามารถทำการอายัด บัญชีหลังได้รับแจ้ง สามารถอายัดได้โดยใช้เวลาไม่นาน  แต่สิ่งที่ได้ยกระดับ คือ ทำให้ศูนย์ AOC เป็นฐานข้อมูลกลางของตำรวจและธนาคาร และจะมีการนำระบบ ai เข้ามา เพื่อจะหาสาเหตุ เช่น ธนาคารไหนปล่อยให้มีบัญชีม้าเกินความจำเป็น และได้ตั้งทีมงานด้านกฎหมายขึ้นมาเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการหลอกลวงในโซเซียล การเปิดบัญชีม้า เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลในการโอนเงิน สามารถชี้ว่าความเสียหายเกิดจากใครได้บ้าง สำหรับอนุกรรมการด้านกฎหมายที่ตั้งขึ้นมา ภายใต้คณะกรรรมการ พรก. จะเน้นหนักเรื่องการคืนเงิน และได้มีการพูดคุยกับ ปปง. ว่า กฎหมายของปปง.อาจมีข้อจำกัด จึงจะทราบระบบที่สามารถที่จะทำให้ชี้ได้ว่าใครเป็นผู้เสียหายจากเม็ดเงินใด ซึ่งจะลดระยะเวลาในการคืนเงินของ ปปง.ได้ และการระงับยับยั้ง การโอนเงินผ่านระบบคริปโต ได้กำหนดแนวทางชัดเจนว่าจะแก้กฎหมาย

ขณะที่ พล.ต.ท.วรวัจน์ กล่าวว่า เรื่องของการจับกุม เราได้จับกุมไปกว่า 6,600 ราย ถือเป็นปริมาณที่สูง โดยแยกเป็นการจับกุมและการยึดทรัพย์ ซึ่งต้องร่วมมือกันกับ ปปง. ออกคำสั่งยึดอายัติทรัพย์ ช่วงที่ผ่านมายึดทรัพย์ ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนเว็บพนันออนไลน์จับกุมได้กว่า 3,600 ราย ยึดทรัพย์ 528 ล้านบาท โดยเฉพาะหวยรายใหญ่ มีเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการยึดทรัพย์ เจตนาของหน่วยงานราชการต้องการจับตัวการใหญ่ ได้มีการสั่งการทุกหน่วยให้มีการจับกุมให้ถึงต้นตอเครือข่าย

“สิ่งที่สำคัญศูนย์คือการยึดทรัพย์และเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหาย ซึ่งทางปปง. เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินการนี้ ทั้งนี้ ต่อไปทุกหน่วยของทุกกองบัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติในภาพรวมเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด ส่วนการออกหมายจับเรื่องการหลอกลวงออนไลน์มีมากกว่า 5,000 หมาย และหมายแดงที่ผู้กระทำความผิดหลบหนีอยู่ต่างประเทศ จะระดมกวาดล้างทั้งหมด และร่วมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กสทช. ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุ โดยเฉพาะเสาสัญญาณรอบตะเข็บชายแดน และให้ทุกหน่วยระดมปิดกั้นทุกช่องทาง” พล.ต.ท.วรวัจน์ กล่าว

สำหรับการเร่งรัดคืนเงินเยียวยาผู้เสียหาย พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวว่า ปปง.มีระบบ SR 03 เมื่อผู้เสียหายแจ้งความกับตำรวจแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งรายชื่อบัญชีม้าหรือผู้กระทำความผิดมาให้ปปง. ประกาศ ซึ่งประกาศไปแล้วกว่า 32,000 รายชื่อ ปิดบัญชีกว่า 300,000 บัญชี วันนี้เงินของคนร้ายอยู่ในระบบกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ เรามีข้อจำกัดในด้านกฎหมายเพราะกฎหมายฟอกเงินต้องให้ศาลสั่ง และคดีถึงที่สุด  เพื่อที่จะคืนเงินให้กับผู้ที่เสียหายได้  ซึ่งเร็วที่สุดคือสามปี

รองเลขาธิการปปง. กล่าวว่า จะยกร่างกฎหมาย เพื่ออนุญาตให้นำเงินที่ ปปง.อายัติกลับมาคืนผู้เสียหายให้เร็วขึ้น หลังจากนี้ ในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป เราจะรับบัญชีมาจากศูนย์AOC เพื่อประกาศให้ธนาคารทราบและจำกัดธุรกรรม ทุกทาง ตั้งเป้าจะประกาศเดือนละ 15,000 รายชื่อ ซึ่งจากข้อมูลที่มี ค่าเฉลี่ยบัญีม้า 1 คน ประมาณ 9.77 บัญชี และจะปิดบัญชีม้าให้ได้ 100,000 บัญชีต่อเดือน  พร้อมฝากประชาชนที่อยากนำบัญชีไปขาย ถ้านำไปขายแล้วนอกจากจะถูกตำรวจดำเนินคดี และจะถูกปปง.ประกาศว่าเป็นบุคคลที่ที่มีความเสี่ยงสูงและธนาคารจะไม่ทำธุรกรรมเป็นเวลาสามปี

“ขออย่าเห็นแก่เล็กแก่น้อยและไปขายบัญชี ขอบคุณกระทรวงดีอีที่เห็นความสำคัญ และสนับสนุนแก้ไขกฎหมาย เพื่อที่จะนำเงินที่ยึดมาได้  ให้ประชาชนได้รับเงินคืนไวขึ้น  ส่วนผู้เสียหายที่แจ้งความแล้วให้เก็บหลักฐานไว้ เมื่อแก้กฎหมายเสร็จ รัฐบาลจะประกาศให้ทราบ และนำข้อมูลนี้มาสรุปคัดแยก จะทำให้ได้รู้ว่าจะได้เงินจากคดีไหน เป็นจำนวนเงินเท่าไร เพื่อให้ทุกคนได้รับการเยียวยาเท่าเทียมกัน” พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าว

นายไตรรัตน์ กล่าวว่า เรื่องเสาสัญญาณตามแนวตะเข็บชายแดนให้มีการส่งรายงานว่ามีกี่เสาที่หันหน้าออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และมีกำหนดให้รื้อถอน พร้อมจะขึ้นไปรื้อบางเสา รวมถึงการลากสายอินเตอร์เน็ต ที่อาจจะมีคนไม่หวังดีไปเช่าบ้านและเปิดสัญญานอินเตอร์เข้ามา 

ส่วนการออกกฎหมายเพื่อคืนเงินให้กับผู้เสียหาย รัฐจะออกเป็นพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) หรือพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) หรือกฎกระทรวง รองเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า ตามกฎหมายของ ปปง.พนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องทำสำนวนผ่านมติคณะกรรมการธุรกรรม ยื่นไปยังอัยการ เพื่อฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อรอคดีถึงที่สุด หากคู่ความไม่เห็นด้วยก็จะมีการอุทธรณ์ โดยทั่วไปใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี ซึ่งเห็นว่าหากเป็นเช่นนั้นจะนานเกินไป และจะเป็นกฎหมายใดก็ได้ที่ปปง.สนับสนุนได้ ซึ่งการคืนเงินควรอยู่ในหลักเดือน หากพิสูจน์ได้ว่าผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อน อาจจะมีคณะกรรมการพิจารณาเห็นชอบรายงานศาล หากไม่มีใครขัดแย้งก็ให้คืนเงินผู้เสียหายได้เลย ปัจจุบันหลังสามารถดำเนินคดีได้ ทำให้เงินจากกลุ่มบัญชีม้าที่ยึดเงินเพิ่มขึ้น หากนำเงินตรงนี้คืนผู้เสียหายได้ ก็ควรจะกระทำให้ไวที่สุด

ขณะที่นายประเสริฐ กล่าวเสริมว่าจากการหารือเบื้องต้น เห็นว่าหากออกเป็น พรก. สามารถดำเนินการได้เร็วกว่า  และคืนเงินให้กับประชาชนได้เร็ว.-316.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย