นายกฯ ปัดแนวคิดแก้ พ.ร.บ. ลดอำนาจผู้ว่าฯ ธปท.

ร้อยเอ็ด 6 พ.ค.-นายกฯ ยันเสียงแข็ง ไม่เคยคิดปลดผู้ว่าฯ ธปท. ยังไงท่านก็ยังอยู่ตรงนี้ รับเห็นต่างเรื่องลดดอกเบี้ย มองเป็นเรื่องธรรมดา โนคอมเมนต์ #saveผู้ว่าแบงก์ชาติ ย้ำชัดไม่เคยมีแนวคิดแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระหว่างการลงพื้นที่โรงพยาบาลโพนทอง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถึงความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล กับการทำงานคนละทางของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นอุปสรรคต่อการทำดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ ว่า ปัญหาเรื่องการทำงานคนละทาง ตนไม่เคยบอกว่าเป็นอุปสรรค หากมีข้อสงสัย หน้าที่ของตนคือต้องอธิบาย ตรงนี้ไม่เป็นปัญหา ส่วนเรื่องที่บอกว่าเรามีปัญหากับธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ตนก็เห็นต่างกัน มีการชี้แจงไปอย่างชัดเจนแล้ว


เมื่อถามว่า เห็นต่างในเรื่องข้อกฎหมายที่อาจเป็นอุปสรรค มีแนวคิดที่จะแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้มีแนวคิดตรงนี้ เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่จะดูแล ตนไม่เคยพูด

ส่วนที่มีกระแสข่าวถึงขั้นว่า รัฐบาลพยายามแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดอำนาจของผู้ว่าฯ ธปท. ที่มากเกินไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็น ธปท. รัฐบาล สภา เรามาอยู่ด้วยกัน มาดูแลพี่น้องประชาชน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องการแก้ไขกฎหมาย ต้องเป็นเรื่องที่ส่งมาจากกระทรวงการคลัง ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ยังไม่เห็นเรื่องนี้


เมื่อถามว่า ข้อทักท้วงของผู้ว่าฯ ธปท. กับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต จะเป็นตัวฉุดรั้งให้เป็นอุปสรรคหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี มั่นใจ และได้อ่านข้อมูลเรียบร้อย

ส่วนจะต้องมีการพูดคุยอะไรกันอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากเขามีคำถามมา ก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องตอบ ทุกอย่างตอนนี้โครงการเริ่มเดินแล้ว และจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเมื่อไหร่นั้น จะให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงแนวคิดเรื่อง พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ตนไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย แต่ในอนาคตตนไม่ทราบว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะมีการดูตรงนี้หรือไม่


เมื่อถามว่า จากกระแสข่าวและภาพที่ออกมา จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลยืนยันว่าจะได้ในไตรมาส 4 ยังมีโอกาสที่จะได้พูดคุยกับผู้ว่าฯ ธปท. ส่วนตัวอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อวานนี้ตนพูดชัดเจนไปแล้ว และเรื่องเงินดิจิทัล วอลเล็ต ตนก็เพิ่งได้ยินว่ามีปัญหา ตนว่ามันไม่มีปัญหาอะไรเลย มีการแถลงข่าวไปแล้ว พวกท่านเองก็พยายามบอกมีปัญหา ซึ่งไม่มีปัญหาเลย เราได้คุยกันเรื่องเงินไปแล้ว วันนี้ทุกฝ่ายต่างคนต่างมีหน้าที่ ตรงไหนที่ต้องตรวจเช็กกับกฤษฎีกา ก็ต้องทำงานกันไป

เมื่อถามว่า ภาพความขัดแย้งตอนนี้ค่อนข้างชัดเจน แต่ตัวนายกรัฐมนตรี กับผู้ว่าฯ ธปท. ไม่รู้ว่ามีความขัดแย้งจริงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนว่าอย่าดูที่ภาพดีกว่า ดูที่เนื้องานดีกว่า อย่างที่บอกเรื่องดอกเบี้ยชัดเจน ตนไม่เคยปฏิเสธว่าดอกเบี้ยสูงควรจะลด ท่านผู้ว่าฯ ธปท. ก็บอกว่าดอกเบี้ยไม่สูง ไม่ควรจะลด ก็ชัดเจน ตนก็ไปหาวิธีอื่นที่จะบรรเทาทุกข์ของประชาชน ได้เชิญตัวแทน 4 ธนาคาร มาพูดคุย ตนก็ไม่เคยไปมีประเด็นอะไรกับท่าน และเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่า ธนาคารก็ลดดอกเบี้ย ตนก็ขอขอบคุณ และตนก็เดินหน้าต่อไป บรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชน ตนก็ไม่ได้มีการไปต่อว่าท่านผู้ว่าฯ ธปท.

ส่วนมีข้อเสนอให้แก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย แม้นายกรัฐมนตรีจะบอกว่าไม่เคยพูด แต่มีข่าวนำเสนอออกมา จะยิ่งเป็นภาพว่าพรรคเพื่อไทยกดดัน ซึ่งผู้สื่อข่าวยังไม่ทันได้ถามจบ นายกรัฐมนตรี รีบตอบแทรกว่า ท่านก็ต้องไปถามต้นตอของข่าว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แต่ภาพที่ออกมา ดูเหมือนว่าทางรัฐบาล หรือพรรคเพื่อไทย กดดันให้ผู้ว่าฯ ธปท. ลาออก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดว่าให้ผู้ว่าฯ ลาออก เรื่องปลดผู้ว่าฯ ด้วยความเคารพ ถ้าผู้ว่าฯ ฟังอยู่ “ผมไม่เคยกดดันนะครับ ผมไม่เคยพูดด้วยนะครับ ผมอาจจะมีการพูดคุย พูดถึงเรื่องเนื้องานเป็นหลัก ว่าเรื่องของดอกเบี้ยมันสูง จริง ๆ แล้วผมก็พูดแค่นี้ ตลอดระยะเวลาที่ผมเข้ามาเป็นผู้นำรัฐบาล ผมพูดแค่นี้มาโดยตลอด ก็พูดแค่นี้แหละครับ”

เมื่อถามว่า องคาพยพให้สัมภาษณ์ลักษณะติงกันทางอากาศ นักการเมืองมาแล้วก็ไป ขณะที่ผู้ว่าฯ ธปท.เองก็ต้องรักษาสถานภาพไว้ให้แข็งแกร่ง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนคงไม่ไปคอนเมนต์เกี่ยวกับเรื่องว่าใครพูดอะไร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ ธปท. สภา เรามาทำงานเพื่อประชาชน จิตใจผมยึดโยงกับพี่น้องประชาชน มาทำงานเพื่อประชาชนและกฎหมาย

เมื่อถามว่า จะลดอุณหภูมิตรงนี้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อุณหภูมิจะถูกลดลง ก็ต่อเมื่อปัญหาของพี่น้องประชาชนถูกแก้

ส่วนจะต้องเรียกผู้ว่าฯ ธปท.มาพบตัวต่อตัว เพื่อลดปัญหาต่างคนต่างพูดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ต่างคนต่างพูดอะไรเลย ตนยึดโยงกับประชาชนอย่างเดียว ท่านผู้ว่าฯ ธปท.พูดเองว่า ถ้ามีอะไรก็สื่อสาร ก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และติดตามผ่านสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ตนก็ได้มีการสั่งการไปแล้ว

ส่วนช่วงแรกที่มีภาพการคุยกันของนายกรัฐมนตรี กับผู้ว่าฯ ธปท. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ท่านผู้ว่าฯ บอกเองไม่อยากให้สื่อสารโดยตรง ให้ผ่านกระทรวงการคลัง ตนก็ทำตามที่ท่านบอกมา ตนก็ไม่ได้เชิญสื่อมวลชนมา แล้วกล่าวโทษผู้ว่าฯ ส่วนที่สื่อถามว่า ดอกเบี้ยสูงหรือไม่ ตนก็บอกว่าดอกเบี้ยสูงก็เท่านั้น ตนไม่ได้เป็นคู่กรณีกับผู้ว่าฯ คู่กรณีของตนคือความยากจนของประชาชน เพราะความยากจนเกิดจากดอกเบี้ยสูง ตนก็บอกแค่นี้ ถ้าจะเปลี่ยนใจตน ยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้ แต่ตนเชื่อว่า ฝ่ายการเมือง รัฐมนตรี ฝ่ายองค์กรอิสระ และ ธปท.เอง ก็เชื่อว่ามีความปรารถนาดีกับประชาชน แต่เรามองเห็นปัญหาคนละแบบ ต่างคนก็ต่างมีหน้าที่

เมื่อถามว่า นโยบายการเงินการคลัง ดูเหมือนไม่ไปในทางเดียวกัน จะบริหารงานยากหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า มีความยากลำบาก

ส่วนจะทำอย่างไรให้ธนาคารแห่งประเทศไทยกับรัฐบาล มาเจอกันให้ได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีหลายองค์ประกอบ หนี้สาธารณะเป็นเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี เราสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ หากจีดีพีโต เราก็กู้ได้อีก เปอร์เซ็นต์หนี้สาธารณะก็ไม่สูงขึ้น เราก็มีกรอบชัดเจน ถ้าไม่เกิน 10% ของจีดีพี เป็นข้อตกลงร่วมกัน ไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไร ตนมีหน้าที่เอานโยบายการคลังมาดูแลประชาชนด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนจะส่งเสียงดัง ๆ ถึงผู้ว่าฯ ธปท. หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ ไม่มีอะไรต้องพูด ตนสื่อสารชัดเจน เรื่องที่เราไม่เห็นด้วยก็คือไม่เห็นด้วย อย่าว่าแต่ผู้ว่าฯ ธปท. คนในพรรคเราเองเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทุกคน นโยบายต่าง ๆ ก็มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ก็พูดคุยกันไป อย่าให้มีวาทกรรมว่าจะปลด มันไม่ใช่ ไม่ได้อยู่ในความคิดของตนแม้แต่นิดเดียว เราอยู่ด้วยกันเป็นผู้ใหญ่ มีความประสงค์ดีต่อประชาชน เพราะฉะนั้นการเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดาปกติ แต่หันมาพูดคุยก็สื่อสารกันได้ เชื่อว่าทุกท่านมาทำงานเพื่อประชาชน อย่าไปเอาเป็นเรื่องส่วนตัวเข้ามาดีกว่า เรื่องความขัดแย้งเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่พอมีเห็นต่าง เราก็พยายามที่จะบริหารความเห็นต่างตรงนี้ บนบรรทัดฐานที่เราต้องแก้ไขปัญหาของประชาชน

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ตนไม่มีคอมเมนต์ ที่ในโซเชียลมีเดียติดแฮชแท็กเซฟผู้ว่าฯ ธปท. ไม่มีความรู้สึกว่าท่านต้องถูกเซฟ เพราะท่านก็มาถูกต้อง และทำหน้าที่ของท่าน หลายอย่างที่ท่านทำ ผมเห็นด้วยก็มี และก็เชื่อว่า หลายอย่างที่ผมทำก็มีเรื่องที่ท่านเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่เราก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยกัน อย่างน้อยตนคิดว่าฝ่ายตนทำเพื่อประชาชน ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมาขัดแย้งอะไรเลย ผมว่าท่านไม่ต้องการการเซฟ ยังไงท่านก็อยู่ตรงนี้ ไม่ได้มีใครจะไปกดท่าน รัฐมนตรีคนใหม่ก็ไม่ได้พูด เพียงแต่ท่านแปลเรื่องที่เรามีความเห็นไม่ตรงกันบางเรื่อง พยายามยกระดับขึ้นไปให้มีความขัดแย้งสูงขึ้น ตนยืนยัน ณ ที่นี้ว่า ไม่ว่าจะในที่สาธารณะหรือที่ส่วนตัว ตนพูดแค่เรื่องดอกเบี้ยอย่างเดียว ไม่ได้พูดเรื่องกำกับดูแลธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องดี ๆ ที่ถูกต้องก็ไม่ต้องมาชมกันหรอก ท่านก็ทำไป.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

แจ้ง 5 ข้อหา เอาผิดเรือเมียนมาเกยแนวปะการังหมู่เกาะสุรินทร์

พังงา​ 4 มิ.ย. – อุทยาน​แห่งชาติ​หมู่เกาะ​สุรินทร์ ​แจ้ง​ความ​เอาผิด​ผู้​เกี่ยว​ข้อ​งกับเหตุ​การ​ณ์​เรือขนส่ง​สินค้า​สัญชาติ​เมียนมา​ เกย​ตื้น​ทับแนวปะการัง​อุทยาน​แห่งชาติ​หมู่เกาะ​สุรินทร์​ ดำเนิน​คดี​ 5 ข้อหา​หนัก​ พร้อมเรียก​ร้อง​ค่าเสียหาย​ต่อรัฐ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ กรณีเรือขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมา “MV.AYAR LINN” ชนแนวปะการังและเกยตื้นบริเวณอ่าวจาก เขตอุทยานฯ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.คุระบุรี จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 13.26 น. ตาม ปจว.ข้อ 5 คดีอาญาที่ 128/2568 และคดียึดทรัพย์ที่ 60/2568 การแจ้งความดังกล่าวระบุฐานความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 รวม 5 ข้อหา ได้แก่ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า […]

นายกฯ ย้ำไทยเลือกสันติวิธี แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ ลั่น “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ย้ำไทยเลือกสันติวิธี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากปะทะเราพร้อม ยอมรับเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะขอบ้านเราไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ตระกูลชิน” เกี่ยวดอง “ฮุน เซน” แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ บอกปรึกษาทหารแล้ว งง สื่อฯ ทำไมวันนี้ ดุจัง ปลอบ ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูหน้างาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า ได้เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งสำคัญมาก ๆ คนไทยต้องรักกันสามัคคีกัน ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่จะต้องมีการแบ่งฝ่ายกัน ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยกันรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศเราต้องสามัคคีกัน ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง รักกันของคนในชาติ รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ฝ่ายค้าน รัฐบาลก็คือประเทศไทย และการแสดงความเห็นและการปล่อยข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น รัฐบาลทำเต็มที่และรักษาอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่จำเป็น รัฐบาลและทหาร คุยกันตลอดว่า จะไปทางไหนอย่างไรเราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทยเพลงชาติไทย เขาเรียกว่า […]

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]