นายกฯ ปัดแนวคิดแก้ พ.ร.บ. ลดอำนาจผู้ว่าฯ ธปท.

ร้อยเอ็ด 6 พ.ค.-นายกฯ ยันเสียงแข็ง ไม่เคยคิดปลดผู้ว่าฯ ธปท. ยังไงท่านก็ยังอยู่ตรงนี้ รับเห็นต่างเรื่องลดดอกเบี้ย มองเป็นเรื่องธรรมดา โนคอมเมนต์ #saveผู้ว่าแบงก์ชาติ ย้ำชัดไม่เคยมีแนวคิดแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระหว่างการลงพื้นที่โรงพยาบาลโพนทอง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถึงความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล กับการทำงานคนละทางของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นอุปสรรคต่อการทำดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ ว่า ปัญหาเรื่องการทำงานคนละทาง ตนไม่เคยบอกว่าเป็นอุปสรรค หากมีข้อสงสัย หน้าที่ของตนคือต้องอธิบาย ตรงนี้ไม่เป็นปัญหา ส่วนเรื่องที่บอกว่าเรามีปัญหากับธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ตนก็เห็นต่างกัน มีการชี้แจงไปอย่างชัดเจนแล้ว


เมื่อถามว่า เห็นต่างในเรื่องข้อกฎหมายที่อาจเป็นอุปสรรค มีแนวคิดที่จะแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้มีแนวคิดตรงนี้ เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่จะดูแล ตนไม่เคยพูด

ส่วนที่มีกระแสข่าวถึงขั้นว่า รัฐบาลพยายามแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดอำนาจของผู้ว่าฯ ธปท. ที่มากเกินไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็น ธปท. รัฐบาล สภา เรามาอยู่ด้วยกัน มาดูแลพี่น้องประชาชน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องการแก้ไขกฎหมาย ต้องเป็นเรื่องที่ส่งมาจากกระทรวงการคลัง ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ยังไม่เห็นเรื่องนี้


เมื่อถามว่า ข้อทักท้วงของผู้ว่าฯ ธปท. กับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต จะเป็นตัวฉุดรั้งให้เป็นอุปสรรคหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี มั่นใจ และได้อ่านข้อมูลเรียบร้อย

ส่วนจะต้องมีการพูดคุยอะไรกันอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากเขามีคำถามมา ก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องตอบ ทุกอย่างตอนนี้โครงการเริ่มเดินแล้ว และจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเมื่อไหร่นั้น จะให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงแนวคิดเรื่อง พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ตนไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย แต่ในอนาคตตนไม่ทราบว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะมีการดูตรงนี้หรือไม่


เมื่อถามว่า จากกระแสข่าวและภาพที่ออกมา จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลยืนยันว่าจะได้ในไตรมาส 4 ยังมีโอกาสที่จะได้พูดคุยกับผู้ว่าฯ ธปท. ส่วนตัวอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อวานนี้ตนพูดชัดเจนไปแล้ว และเรื่องเงินดิจิทัล วอลเล็ต ตนก็เพิ่งได้ยินว่ามีปัญหา ตนว่ามันไม่มีปัญหาอะไรเลย มีการแถลงข่าวไปแล้ว พวกท่านเองก็พยายามบอกมีปัญหา ซึ่งไม่มีปัญหาเลย เราได้คุยกันเรื่องเงินไปแล้ว วันนี้ทุกฝ่ายต่างคนต่างมีหน้าที่ ตรงไหนที่ต้องตรวจเช็กกับกฤษฎีกา ก็ต้องทำงานกันไป

เมื่อถามว่า ภาพความขัดแย้งตอนนี้ค่อนข้างชัดเจน แต่ตัวนายกรัฐมนตรี กับผู้ว่าฯ ธปท. ไม่รู้ว่ามีความขัดแย้งจริงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนว่าอย่าดูที่ภาพดีกว่า ดูที่เนื้องานดีกว่า อย่างที่บอกเรื่องดอกเบี้ยชัดเจน ตนไม่เคยปฏิเสธว่าดอกเบี้ยสูงควรจะลด ท่านผู้ว่าฯ ธปท. ก็บอกว่าดอกเบี้ยไม่สูง ไม่ควรจะลด ก็ชัดเจน ตนก็ไปหาวิธีอื่นที่จะบรรเทาทุกข์ของประชาชน ได้เชิญตัวแทน 4 ธนาคาร มาพูดคุย ตนก็ไม่เคยไปมีประเด็นอะไรกับท่าน และเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่า ธนาคารก็ลดดอกเบี้ย ตนก็ขอขอบคุณ และตนก็เดินหน้าต่อไป บรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชน ตนก็ไม่ได้มีการไปต่อว่าท่านผู้ว่าฯ ธปท.

ส่วนมีข้อเสนอให้แก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย แม้นายกรัฐมนตรีจะบอกว่าไม่เคยพูด แต่มีข่าวนำเสนอออกมา จะยิ่งเป็นภาพว่าพรรคเพื่อไทยกดดัน ซึ่งผู้สื่อข่าวยังไม่ทันได้ถามจบ นายกรัฐมนตรี รีบตอบแทรกว่า ท่านก็ต้องไปถามต้นตอของข่าว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แต่ภาพที่ออกมา ดูเหมือนว่าทางรัฐบาล หรือพรรคเพื่อไทย กดดันให้ผู้ว่าฯ ธปท. ลาออก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดว่าให้ผู้ว่าฯ ลาออก เรื่องปลดผู้ว่าฯ ด้วยความเคารพ ถ้าผู้ว่าฯ ฟังอยู่ “ผมไม่เคยกดดันนะครับ ผมไม่เคยพูดด้วยนะครับ ผมอาจจะมีการพูดคุย พูดถึงเรื่องเนื้องานเป็นหลัก ว่าเรื่องของดอกเบี้ยมันสูง จริง ๆ แล้วผมก็พูดแค่นี้ ตลอดระยะเวลาที่ผมเข้ามาเป็นผู้นำรัฐบาล ผมพูดแค่นี้มาโดยตลอด ก็พูดแค่นี้แหละครับ”

เมื่อถามว่า องคาพยพให้สัมภาษณ์ลักษณะติงกันทางอากาศ นักการเมืองมาแล้วก็ไป ขณะที่ผู้ว่าฯ ธปท.เองก็ต้องรักษาสถานภาพไว้ให้แข็งแกร่ง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนคงไม่ไปคอนเมนต์เกี่ยวกับเรื่องว่าใครพูดอะไร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ ธปท. สภา เรามาทำงานเพื่อประชาชน จิตใจผมยึดโยงกับพี่น้องประชาชน มาทำงานเพื่อประชาชนและกฎหมาย

เมื่อถามว่า จะลดอุณหภูมิตรงนี้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อุณหภูมิจะถูกลดลง ก็ต่อเมื่อปัญหาของพี่น้องประชาชนถูกแก้

ส่วนจะต้องเรียกผู้ว่าฯ ธปท.มาพบตัวต่อตัว เพื่อลดปัญหาต่างคนต่างพูดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ต่างคนต่างพูดอะไรเลย ตนยึดโยงกับประชาชนอย่างเดียว ท่านผู้ว่าฯ ธปท.พูดเองว่า ถ้ามีอะไรก็สื่อสาร ก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และติดตามผ่านสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ตนก็ได้มีการสั่งการไปแล้ว

ส่วนช่วงแรกที่มีภาพการคุยกันของนายกรัฐมนตรี กับผู้ว่าฯ ธปท. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ท่านผู้ว่าฯ บอกเองไม่อยากให้สื่อสารโดยตรง ให้ผ่านกระทรวงการคลัง ตนก็ทำตามที่ท่านบอกมา ตนก็ไม่ได้เชิญสื่อมวลชนมา แล้วกล่าวโทษผู้ว่าฯ ส่วนที่สื่อถามว่า ดอกเบี้ยสูงหรือไม่ ตนก็บอกว่าดอกเบี้ยสูงก็เท่านั้น ตนไม่ได้เป็นคู่กรณีกับผู้ว่าฯ คู่กรณีของตนคือความยากจนของประชาชน เพราะความยากจนเกิดจากดอกเบี้ยสูง ตนก็บอกแค่นี้ ถ้าจะเปลี่ยนใจตน ยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้ แต่ตนเชื่อว่า ฝ่ายการเมือง รัฐมนตรี ฝ่ายองค์กรอิสระ และ ธปท.เอง ก็เชื่อว่ามีความปรารถนาดีกับประชาชน แต่เรามองเห็นปัญหาคนละแบบ ต่างคนก็ต่างมีหน้าที่

เมื่อถามว่า นโยบายการเงินการคลัง ดูเหมือนไม่ไปในทางเดียวกัน จะบริหารงานยากหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า มีความยากลำบาก

ส่วนจะทำอย่างไรให้ธนาคารแห่งประเทศไทยกับรัฐบาล มาเจอกันให้ได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีหลายองค์ประกอบ หนี้สาธารณะเป็นเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี เราสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ หากจีดีพีโต เราก็กู้ได้อีก เปอร์เซ็นต์หนี้สาธารณะก็ไม่สูงขึ้น เราก็มีกรอบชัดเจน ถ้าไม่เกิน 10% ของจีดีพี เป็นข้อตกลงร่วมกัน ไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไร ตนมีหน้าที่เอานโยบายการคลังมาดูแลประชาชนด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนจะส่งเสียงดัง ๆ ถึงผู้ว่าฯ ธปท. หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ ไม่มีอะไรต้องพูด ตนสื่อสารชัดเจน เรื่องที่เราไม่เห็นด้วยก็คือไม่เห็นด้วย อย่าว่าแต่ผู้ว่าฯ ธปท. คนในพรรคเราเองเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทุกคน นโยบายต่าง ๆ ก็มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ก็พูดคุยกันไป อย่าให้มีวาทกรรมว่าจะปลด มันไม่ใช่ ไม่ได้อยู่ในความคิดของตนแม้แต่นิดเดียว เราอยู่ด้วยกันเป็นผู้ใหญ่ มีความประสงค์ดีต่อประชาชน เพราะฉะนั้นการเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดาปกติ แต่หันมาพูดคุยก็สื่อสารกันได้ เชื่อว่าทุกท่านมาทำงานเพื่อประชาชน อย่าไปเอาเป็นเรื่องส่วนตัวเข้ามาดีกว่า เรื่องความขัดแย้งเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่พอมีเห็นต่าง เราก็พยายามที่จะบริหารความเห็นต่างตรงนี้ บนบรรทัดฐานที่เราต้องแก้ไขปัญหาของประชาชน

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ตนไม่มีคอมเมนต์ ที่ในโซเชียลมีเดียติดแฮชแท็กเซฟผู้ว่าฯ ธปท. ไม่มีความรู้สึกว่าท่านต้องถูกเซฟ เพราะท่านก็มาถูกต้อง และทำหน้าที่ของท่าน หลายอย่างที่ท่านทำ ผมเห็นด้วยก็มี และก็เชื่อว่า หลายอย่างที่ผมทำก็มีเรื่องที่ท่านเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่เราก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยกัน อย่างน้อยตนคิดว่าฝ่ายตนทำเพื่อประชาชน ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมาขัดแย้งอะไรเลย ผมว่าท่านไม่ต้องการการเซฟ ยังไงท่านก็อยู่ตรงนี้ ไม่ได้มีใครจะไปกดท่าน รัฐมนตรีคนใหม่ก็ไม่ได้พูด เพียงแต่ท่านแปลเรื่องที่เรามีความเห็นไม่ตรงกันบางเรื่อง พยายามยกระดับขึ้นไปให้มีความขัดแย้งสูงขึ้น ตนยืนยัน ณ ที่นี้ว่า ไม่ว่าจะในที่สาธารณะหรือที่ส่วนตัว ตนพูดแค่เรื่องดอกเบี้ยอย่างเดียว ไม่ได้พูดเรื่องกำกับดูแลธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องดี ๆ ที่ถูกต้องก็ไม่ต้องมาชมกันหรอก ท่านก็ทำไป.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]

ศาลให้ประกัน “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” เงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ

กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – ศาลให้ประกันตัว “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” หลักทรัพย์คนละ 6 แสนบาท เงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ขณะเจ้าตัวเตรียมยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อ เชื่อศาลจะให้ความยุติธรรม ด้านอธิบดีกรมการข้าว มองเป็นกรรมของแต่ละคน ไม่ได้รู้สึกอะไร ให้เป็นตามเวรกรรม นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เปิดเผยภายหลังฟังคำตัดสินว่า ตนเองเคารพคำตัดสินของศาล ซึ่งประเด็นที่จะเป็นแนวทางการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ คือประเด็นที่ศาลมองว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ถูกลงโทษจำคุก 6 ปี แต่ส่วนตัวมองว่าตนเองไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะการแต่งตั้งของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการแต่งตั้งเฉพาะตัว ซึ่งศาลยังไม่ได้ดูในรายละเอียด เพราะการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น เงินเดือน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับตำแหน่งดังกล่าว แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลใจกับคำตัดสิน เพราะมองว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ขณะเดียวกันจะมีการต่อสู้ในประเด็นการเชื่อมโยงจำเลยทั้งหมดในชั้นอุทธรณ์ โดยจะชี้แจงว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกับจำเลยอีก 4 คน เนื่องจากไม่เคยได้รับผลประโยชน์อะไรจากจำเลยทั้งหมด และเชื่อว่าคำตัดสินในศาลชั้นสูงจะให้ความยุติธรรมกับตัวเอง คำพิพากษาในวันนี้ศาลได้นำโทษคดีคาร์ม็อบ 2 คดี ในพื้นที่เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานครเมื่อปี พ.ศ. 2564 […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]