“เทพไท” ชี้ รัฐบาลบริหารประเทศล้มเหลวทุกด้าน

กทม. 5 พ.ค.- “เทพไท” ให้คะแนนพรรคเพื่อไทย 3 เต็ม 10 ชี้ รัฐบาลบริหารประเทศล้มเหลวในทุกๆ ด้าน


นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง” ระบุว่า พรรคเพื่อไทย ได้ 3 เต็ม 10 การที่พรรคเพื่อไทยจัดอีเวนต์ “10เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม10” เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศ และแถลงผลงานในรอบ8เดือนที่ผ่านมา โดยให้สมาชิกที่เป็นแกนนำและคนรุนใหม่แต่ละคน ขึ้นมาพูดถึงวิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และตัวคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็พูดถึงผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมาด้วย

ในฐานะที่เป็นผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง และติดตามการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ถ้าพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะได้คะแนนเต็ม 10 จะต้องทำงานหนัก และผลักดันนโยบายให้เป็นจริงในทางปฎิบัติให้มากกว่านี้ ตอนนี้ถ้าคะแนนเต็ม 10 ผลงานรัฐบาลชุดนี้ได้เพียง 3คะแนนเท่านั้น เพราะรัฐบาลได้บริหารประเทศล้มเหลวในทุกๆด้าน เช่น


1.ด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลยังไม่สามารถผลักดันโครงการที่ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีเลย นโยบายแจกดิจิทัลวอลแล็ต ยังผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆอย่างไม่มีอนาคต ปัญหาปากท้องของประชาชน ข้าวของมีราคาแพงขึ้นทุกวัน ราคาไข่เพิ่มขึ้น3ครั้ง พริกมะนาวปรับขึ้นราคา อาหารประจำวันข้าวแกงปรับตัวแพง แชร์กันกระหึ่มโลกโซเชียล รวมถึงค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นทุกวัน สวนทางกับนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย

2.ปัญหาด้านสังคม มีปัญหาสังคมเกิดขึ้นรายวัน ปัญหายาเสพติดนับวันจะเพิ่มขึ้น รัฐบาลพยายามโชว์ตัวเลขการจับยาเสพติดได้มาก แต่ในขณะเดียวกันผู้ค้า ผู้เสพก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีปัญหาคนหลอนยา ผู้ป่วยจิตเวช ก่ออาชญากรรมฆ่าคนในครอบครัว ไม่เว้นแต่ละวัน ปัญหาหนี้นอกระบบ รัฐบาลประกาศขึ้นทะเบียน แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาในทางปฏิบัติได้

3.ปัญหาด้านการเมือง รัฐบาลล้มเหลวในเรื่องการผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตอนที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านประกาศว่า จะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับให้เสร็จภายในหนึ่งปี จนถึงบัดนี้จะครบหนึ่งปีแล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นเลย ยังถกเถียงเรื่องการทำประชามติไม่จบสิ้น และการแก้รัฐธรรมนูญยังมีเงื่อนไขยกเว้นห้ามแตะหมวด1และหมวด2 รวมถึงการออกพรบ.นิรโทษกรรม ที่พรรคเพื่อไทย เคยประกาศสนับสนุนแก้ปัญหาผู้กระทำผิดกฎหมายมาตรา112 อ้างว่าเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการรังแกประชาชน แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล กลับออกพรบ.นิรโทษกรรม ไม่ครอบคลุมผู้กระทำผิดมาตรา 112


4.ปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ นับตั้งแต่คุณเศรษฐา ลงพื้นที่พักค้างใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้ลงทุนและนักท่องเที่ยว นับจากนั้นเป็นต้นมา ความรุนแรงเกิดขึ้นเป็นรายวัน มีการวางระเบิดสังหาร การลอบยิงเจ้าหน้าที่บ้านเมือง การวางระเบิดโรงไฟฟ้าชีวมวล การเผาปั๊มน้ำมัน ฯลฯ

5.ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ที่พรรคเพื่อไทยประกาศจะแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ของประเทศ จนถึงวันนี้ตัวเลขของฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ยังติดอันดับโลกอยู่ทุกวัน ปัญหาภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้น ปัญหาการจัดเก็บสารพิษ และไฟไหม้โรงงาน โกดัง ก็ยังลุกลามไม่จบสิ้น

ยังมีปัญหาอื่นๆปลีกย่อยอีกมากมาย ที่รัฐบาลชุดนี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้ จึงทำให้การประเมินคะแนนจากเต็ม 10 คงจะได้เพียง3คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนจากผลงานเหล่านี้คือ

1.ความตั้งใจ ความขยันในการทำงานของคุณเศรษฐา แบบถึงลูกถึงคน เหมือนกับเป็นซีอีโอของบริษัทเอกชน
2.ราคาสินค้าเกษตรยางพาราปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องของปริมาณยางในตลาด และกลไกของตลาดโลกก็ตาม แต่ก็จะยกเครดิตข้อนี้ให้กับรัฐบาลชุดนี้ไป
3.การนำคุณทักษิณกลับสู่ประเทศ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความวุ่นวาย หรือการชุมนุมเกิดขึ้น แม้รัฐบาลเลือกปฏิบัติต่อคุณทักษิณแบบนักโทษเทวดาก็ตาม

ผมขอประเมินผลงานรัฐบาลในปีแรก ได้ 3 เต็ม 10 เท่านััน ส่วนจะได้ 10 เต็ม 10 ตามที่พรรคเพื่อไทยตั้งความหวังไว้ ก็คงจะเป็นไปได้ยากมาก เมื่อครบ4ปีแล้ว ถ้าทำคะแนนได้ 5 เต็ม 10 ก็ถือว่าเก่งที่สุดแล้ว.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย