“วราวุธ” ส่งทีมช่วยเด็ก 6 ขวบตาบอด-ตา 86 ปีโรครุมอยู่ลำพัง

บุรีรัมย์ 3 พ.ค. – “วราวุธ” ส่งทีม ศรส. ช่วยเด็กชาย 6 ขวบ ป่วยมะเร็ง ตาบอด 2 ข้าง ต้องหยุดเรียนที่บุรีรัมย์ – ตา 86 ปี หลายโรครุม อยู่ลำพัง ไร้เงินจัดการศพเมีย หลังผิดเงื่อนไขบริจาคร่าง


น.ส.ซาราห์ บินเย๊าะ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รองปลัด พม.) ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เปิดเผยถึงการช่วยเหลือเด็กชาย อายุ 6 ขวบ ป่วยมะเร็งในกรวยไตและก้อนเนื้อทับเส้นประสาท ทำให้ตาบอด 2 ข้าง ต้องหยุดเรียน ครอบครัวมีฐานะยากจน รายได้ไม่เพียงพอ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ว่า ตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้มอบนโยบายศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ให้เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนในการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพ เมื่อประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม โดยได้สั่งการให้ ศรส. จังหวัดบุรีรัมย์ ส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่ช่วยเหลือเด็กชายดังกล่าว ซึ่งอยู่ในการดูแลของมารดา อายุ 48 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพ และคุณยาย อายุ 75 ปี ขายอาหารตามสั่ง เนื่องจากบิดามารดาแยกทางกัน ขณะนี้ เด็กต้องหยุดเรียน เพราะป่วยเป็นมะเร็ง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ แต่ด้วยเด็กขึ้นทะเบียนเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  จึงเข้ารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยการรับยาเคมีบำบัดหรือคีโม แต่ต้องจ้างเหมารถยนต์ของญาติเพื่อเดินทางไปรักษาตัว ทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

น.ส.ซาราห์ กล่าวว่า เบื้องต้น ทีม ศรส. จังหวัดบุรีรัมย์ ได้พูดคุยชี้แจงเรื่องขั้นตอนและหลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วยของเด็กให้กับครอบครัว และจะดำเนินเรื่องการพิจารณาช่วยเหลือเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน รวมทั้งประสานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ นำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนคุ้มครองเด็ก เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือต่างๆ นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อร่วมกันวางแผนการช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในระยะต่อไป และมอบหมายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในชุมชน ลงพื้นที่เยี่ยมเด็กเพื่อติดตามอาการป่วยของเด็กอย่างใกล้ชิด


น.ส.ซาราห์ กล่าวว่า ส่วนอีกกรณีหนึ่ง เรื่องการช่วยเหลือคุณตา ซึ่งภรรยาได้เสียชีวิต แต่ไม่มีเงินในการจัดงานศพ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นั้น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ได้สั่งการให้ ศรส. จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่ช่วยเหลือคุณตา อายุ 86 ปี มีโรคประจำตัวหลายโรคทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต และดวงตาด้านขวาเป็นต้อกระจก ไม่สามารถมองเห็นได้ โดยมีหลานสาวคอยแวะมาดูแลเป็นครั้งคราว ส่วนภรรยาได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 แต่ไม่มีเงินในการจัดงานศพ เนื่องจากภรรยาได้ทำเรื่องบริจาคร่างกายให้กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่ทางมหาวิทยาลัยไม่สามารถรับศพได้ เพราะเกิดอุบัติเหตุจนทำให้มีบาดแผลที่ร่างกายและมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน จึงทำให้คุณตาต้องยืมเงินจากหลานสาวมาเป็นค่าใช้จ่าย เนื่องจากมีรายได้เพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

น.ส.ซาราห์ กล่าวว่า ศรส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบถุงยังชีพ เครื่องบริโภคอุปโภคที่จำเป็น และเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น อีกทั้งจะดำเนินการติดตามหาญาติพี่น้องของคุณตา เพื่อให้รับดูแลช่วยเหลือต่อไป เนื่องจากอยู่คนเดียวลำพัง สุขภาพไม่แข็งแรง ป่วยหลายโรค นอกจากนี้ ได้ประสาน อบต.ทุ่งใหญ่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ลงพื้นที่เยี่ยมคุณตาและติดตามการช่วยเหลือเป็นระยะๆ โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่และสุขภาพร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม ไม่ว่าจะเป็น เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ คนเร่ร่อนไร้บ้านหรือผู้ด้อยโอกาส ขอให้แจ้งมาที่ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน หรือ ศรส. กระทรวง พม. ผ่าน ฮอตไลน์ พม. 1300 บริการตลอด 24 ชั่วโมง – 313 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย