พรรคเพื่อไทย 3 พ.ค.-นายกฯ ย้ำรัฐบาลจริงใจแก้ปัญหาโรงงานสารเคมีรั่วไหล ประสานหน่วยมั่นคงร่วมตรวจสอบปมวางเพลิงกลบหลักฐานหรือไม่ ส่วนกรณีอธิบดีโรงงานแจงเหตุถูกกดดันเลยลาออก ชี้ถ้าคิดว่าตามงาน สั่งงานคือกดดันก็คือกดดัน เน้นเนื้องานเป็นหลัก
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานลาออกว่า ได้รับทราบจากสื่อมวลชน เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ได้เชิญน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมมาพูดคุยและได้เน้นเรื่องงานว่าไม่ว่าอย่างไรงานต้องเดิน แต่ไม่ได้พูดคุยกับอธิบดีกรมโรงงานหรือปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมโดยตรง เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี
ส่วนที่นายจุลพงษ์ให้เหตุผลว่าถูกกดดันการทำงาน นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่า ตนไม่แน่ใจว่าการกดดันคืออะไร แต่หากเป็นเรื่องของการตามงาน การสั่งงาน การให้ความสำคัญกับปัญหา ถือว่าเป็นการกดดันก็คือ กดดัน เพราะตนมองอีกแบบว่าเราเน้นเนื้องานเป็นหลัก
เมื่อถามย้ำถึงการเชื่อมโยงไปวันที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดระยองและตำหนิอธิบดีกรมโรงงาน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ชัดเจน ตามนั้น
ส่วนที่ขณะนี้กำลังมีปัญหาเรื่องสารเคมีเกิดขึ้นจำนวนมาก เป็นเวลาเหมาะสมที่ลาออกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับลาออกหรือไม่ลาออก แต่เชื่อว่าเป็นเรื่องของเนื้องานมากกว่า ที่ต้องพยายามตามถึงรากฐานของปัญหาจริง แล้วมันเชื่อมโยงกันหรือไม่กับปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายโรงงานขณะนี้ เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ได้พูดคุยกันและให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าไปช่วยดูตรงนี้ด้วย
เมื่อถามถึงกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมระบุจำเป็นต้องดึงฝ่ายความมั่นคงเข้ามาด้วย เพราะหากเป็นการวางเพลิงเพื่อกลบหลักฐาน จะถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แน่นอน วานนี้ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีเรื่องนี้ ส่วนมากก็เป็นเรื่องนี้ทั้งหมด ขณะเดียวกันตนได้ต่อสายถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงแล้ว
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีมาตรการอะไรที่ทำให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปไกลถึงการไม่ให้ความสำคัญผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมีผู้ประกอบการหลายรายที่ให้ความสำคัญ แต่ต้องดูความเชื่อมโยงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นกรุ๊ปเดียวกัน บุคคลเดียวหรือไม่
“ยืนยันว่าผมให้ความสำคัญและจริงจังใจต่อการแก้ปัญหาโรงงานเก็บสารเคมี ทั้งจากการลงพื้นที่ การสั่งการ และติดตามงานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ลงพื้นที่ตลอด เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) รัฐมนตรีก็ขอเข้าพบผมเพื่อขอความช่วยเหลือด้านความมั่นคง ตรงนี้ผมว่าชัดเจน” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย